posttoday

ออมในหุ้น ให้ประสบความสำเร็จ

22 มีนาคม 2561

ชีวิตยุคนี้จะฝากชีวิตไว้กับการหารายได้จากเงินเดือนประจำเพียงอย่างเดียวนั้นยากที่จะพอใช้ นอกจากต้องประหยัดให้มากขึ้น

เรื่อง กันย์ ภาพ pixabay

ชีวิตยุคนี้จะฝากชีวิตไว้กับการหารายได้จากเงินเดือนประจำเพียงอย่างเดียวนั้นยากที่จะพอใช้ นอกจากต้องประหยัดให้มากขึ้น หรือถ้าคุณมีช่องทางจะค้าขายออนไลน์ มีหัวการค้าด้านอื่นๆ ก็จงทำ แต่ถ้าไม่มีหัวการค้า อีกทางเลือกก็คือหาวิธีการออมหรือลงทุนเพิ่มในหลายๆ ช่องทางเพื่อให้เงินทำงานแทนคุณไปอย่างไม่มีวันหยุดหย่อน

หนึ่งในทางเลือกที่น่าสนใจก็คือการออมในหุ้น การออมในหุ้นให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าการฝากประจำในธนาคารเป็นไหนๆ ถ้าคุณเลือกหุ้นถูกตัว เลือกหุ้นปัจจัยพื้นฐานดี เพราะนอกจากจะได้ปันผล 3-5% แล้ว ยังได้ส่วนต่างในราคาหุ้นที่ขึ้นไปอีกอย่างน้อยก็ 8-10% ต่อปี มาดูกันว่าคนที่ออมหุ้นหรือเล่นหุ้นแล้วประสบความสำเร็จ ต้องทำอย่างไรกันบ้าง

1.ชอบมองการณ์ไกล ไม่คิดสั้น คนลงทุนยาวมีโอกาสรวยจากหุ้นมากกว่า คนที่คิดจะเข้ามารวยเร็วๆ นั่นคือให้เวลาให้หุ้นมีการเติบโต หุ้นหลายตัวเข้าตลาดมาที่ราคา 5-6 บาท ผ่านไป 2 ปี ราคาหุ้นขึ้นไป 15-20 บาท นั่นคือเกิน 150% ของราคาเดิม ดังนั้นคุณต้องให้เวลาหุ้นได้มีโอกาสเติบโต อย่างน้อยควรให้เวลา 1 ปีขึ้นไป ยิ่งถือยาวจะดีกว่าการถือสั้นๆ แค่ 4-5 เดือน

2.คนที่อดทน อึดถึกไม่ยอมเลิก สถิติจากงานวิจัยตลาดพบว่าใครอยู่รอดเกิน 3 ปีได้ มักจะรอดแล้วรวย ดังนั้นอยู่ให้นานพอ อดทนรอที่จะรวย หากจับหุ้นถูกตัว เพียง 1-2 ปี อาจได้ผลตอบแทนถึง 200% เหมือนปลูกมะม่วงกว่าจะได้กินลูกต้องรอต้นมันโตออกดอกออกผลใช้เวลาเป็นปี

3.คนเล่นหุ้นพื้นฐานมักรวยกว่าพวกหุ้นปั่น อันนี้เหมือนใครๆ ก็รู้นะ แต่ลองไปถามคนส่วนใหญ่ที่เจ๊งสิว่าทำไมเจ๊ง เพราะเขาจะตอบว่าเล่นหุ้นปั่น รู้แล้วก็ยังทำอีก หุ้นพื้นฐานดีคือหุ้นที่ทำธุรกิจชัดเจนมั่นคง มีแผนการทำงานที่แน่นอนตรวจสอบได้ เป็นหุ้นที่มีอนาคตเติบโต หรือเลือกลงทุนในหุ้นกลุ่ม SET50 ก็ได้

4.คนที่ซื้อหุ้นในข่าวร้าย มักจะกำไรกว่าคนที่ซื้อหุ้นตามข่าวดี อันนี้ใครๆ ก็รู้ แต่ข่าวดีทีไรเผลอซื้อตามกันขึ้นดอยทุกที เพราะเวลาบริษัทนั้นๆ มีข่าวคนจะแย่งกันซื้อ ทำให้ราคาหุ้นแพงกว่าปกติ แต่เวลาหุ้นมีข่าวร้ายก็แห่ขายออกมา แต่ถ้ามั่นใจว่าเราเลือกหุ้นดีแม้บางครั้งมีข่าวร้าย แต่เดี๋ยวหุ้นก็จะขึ้น ทนถือรอต่อไป ซื้อในวันที่หุ้นตก แล้วขายในวันที่หุ้นขึ้น

5.คนที่ชอบใช้เงินเย็น จะรวยกว่าคนเล่นมาร์จิ้น เงินเย็นปลอดภัยกว่า และในระยะยาวดีกว่าเสมอครับ อย่ากู้เงินใครมาเล่นหุ้น ค่อยๆ ทยอยซื้อเก็บสะสมไปเรื่อยๆ มีเงินหลักพันก็เล่นหุ้นได้ หุ้นดีๆ ราคาไม่ถึง 10 บาทก็มีเยอะไป ซื้อสะสมไปทุกเดือนๆ เดียวพอร์ตก็จะโตขึ้นเรื่อยๆ

6.คนที่เลือกหุ้นด้วยตัวเอง มักมีพอร์ตที่ใหญ่กว่า โตไวกว่า คนเล่นหุ้นตามคนอื่นแนะนำ เรื่องแรกที่ควรเรียนก่อนเริ่มเล่นหุ้นคือ วิธีหาปลาด้วยตัวเอง ก็วิธีเลือกหุ้นด้วยตัวเองนั่นแหละ หัดดูงบการเงิน ดูกราฟ อ่าน ฟัง จากบทวิเคราะห์ที่มีอยู่มากมาย รวมทั้งการอบรมสัมมนาฟรีที่ตลาดหลักทรัพย์จัด หรือบริษัทหลักทรัพย์ที่คุณเปิดพอร์ตอยู่ ก็จะมีความรู้แน่นขึ้นเรื่อยๆ

7.คนที่ลงทุนเป็นพอร์ต มักรวยกว่าพวกชอบจัดหนักตัวเดียว อย่าใส่ไข่ไว้ในตะกร้าใบเดียว รู้แล้วก็ต้องทำ เพราะเศรษฐีทุกคนคือนักลงทุนที่รู้จักการกระจายความเสี่ยงที่ดี วิธีง่ายๆ เช่น เลือกหุ้นที่ดีจากกลุ่มธนาคาร 1 ตัว จากกลุ่มพลังงาน 1 ตัว โรงไฟฟ้า 1 ตัว ประกัน 1 ตัว โรงพยาบาล 1 ตัว ค้าปลีก 1 ตัว กลุ่มสื่อสาร 1 ตัว คือเลือกตัวที่ดีที่สุดของแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรม ถือหุ้นไว้สัก 5-6 ตัว ถือยาวๆ รอปันผล รอหุ้นเติบโต เพราะคุณคือนักลงทุน สิ่งที่แบ่งแยกระหว่างนักพนันกับนักลงทุนก็คือการกระจายความเสี่ยง อย่างตลาดหุ้นราคาแกว่งผันผวน ขึ้นลงทีนี่ 50% ง่ายๆ แต่ถ้ารู้จักกระจายความเสี่ยงก็สามารถลงทุนในหุ้นแบบไม่เสี่ยง อย่างออมในหุ้นได้

ที่สำคัญคือการรู้จักรอเวลา ไม่มีใครเข้ามาในตลาดหุ้นแล้วจะรวยเร็วภายใน 2-3 เดือน ถ้ามีคือเขาโกหก คนที่ออมหุ้นหรือลงทุนในหุ้นที่ประสบความสำเร็จล้วนต้องใช้เวลากันทั้งสิ้น ไม่มีใครที่เข้ามาแล้วรวยเพียงข้ามเดือน ที่สำคัญคุณต้องลงทุนหาความรู้อยู่เสมอ การเล่นหุ้นให้เวิร์กไม่ง่าย แต่ก็ไม่ยากจนเกินไป ถ้าคุณหาความรู้ทำการบ้านอยู่เสมอ อย่าเล่นตามใคร อย่าฟังเขามา คุณต้องหาหุ้นที่ถูกโฉลกกับคุณด้วยตัวเอง

ข่าวล่าสุด

ตรวจสอบ 5 วิธีย้ายโรงพยาบาล 'สิทธิประกันสังคม' วันนี้ - 31 มี.ค. 69