‘ระบำดวงดาว’ พ่นพิษ ! วงการนักข่าวสั่นสะเทือน
ใกล้จะอวสานแล้วแท้ๆ แต่ก็ดันเป็นเรื่องเป็นราวขึ้นมาซะก่อน เมื่อสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ ออกมาแสดงความวิตกกังวลห่วงใยอย่างท่วมท้นต่อละครดังหลังข่าวทางช่อง 3 ซึ่งดูแล้วต้องนั่งตบยุง (น้ำเน่า) “ระบำดวงดาว” ที่กำลังออนแอร์อยู่ในขณะนี้ เนื่องจากเห็นว่าพฤติกรรมของตัวละครบางตัวมีการกระทำที่ไม่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง
ใกล้จะอวสานแล้วแท้ๆ แต่ก็ดันเป็นเรื่องเป็นราวขึ้นมาซะก่อน เมื่อสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ ออกมาแสดงความวิตกกังวลห่วงใยอย่างท่วมท้นต่อละครดังหลังข่าวทางช่อง 3 ซึ่งดูแล้วต้องนั่งตบยุง (น้ำเน่า) “ระบำดวงดาว” ที่กำลังออนแอร์อยู่ในขณะนี้ เนื่องจากเห็นว่าพฤติกรรมของตัวละครบางตัวมีการกระทำที่ไม่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง
โดย....อินทรชัย พาณิชกุล
ใกล้จะอวสานแล้วแท้ๆ แต่ก็ดันเป็นเรื่องเป็นราวขึ้นมาซะก่อน เมื่อสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ ออกมาแสดงความวิตกกังวลห่วงใยอย่างท่วมท้นต่อละครดังหลังข่าวทางช่อง 3 ซึ่งดูแล้วต้องนั่งตบยุง (น้ำเน่า) “ระบำดวงดาว” ที่กำลังออนแอร์อยู่ในขณะนี้ เนื่องจากเห็นว่าพฤติกรรมของตัวละครบางตัวมีการกระทำที่ไม่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง
คงจะไม่เป็นประเด็นเท่าไหร่ หากตัวละครที่ว่านี้ไม่ใช่นักข่าวนักหนังสือพิมพ์ !!!
ละครเรื่องนี้ตีแผ่ด้านสว่างและด้านมืดของวงการบันเทิง โดยมีพระเอกเป็นผู้สื่อข่าวบันเทิงของหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง ขณะนางเอกเป็นดาราแถวหน้าของวงการ ท่ามกลางตัวละครที่โลดแล่นอยู่ในวงการจริงๆ อย่าง ดารา นักข่าว ผู้จัดละคร ผู้จัดการดารา รวมถึงเจ้าพ่อสื่อโทรทัศน์ และหนังสือพิมพ์ โดยได้ดาราดังอย่าง ออยธนา สุทธิกมล และ พลอยเฌอมาลย์ บุญยศักดิ์ และดาราดังอีกคับคั่งร่วมแสดง
เรื่องของเรื่องมีอยู่ว่าในที่ประชุมสภาการหนังสือพิมพ์ฯ กรรมการท่านหนึ่งได้หยิบยกเรื่องราวในละครดังกล่าวมาพูดถึงด้วยความวิตกกังวล พร้อมแสดงความกังขา โดยเห็นว่ามีการพูดถึงวิชาชีพนักข่าว นักหนังสือพิมพ์ ที่ค่อนข้างกระแทกใจอยู่ไม่น้อย
เป็นต้นว่า นางเอกจิกด่าเรียกพระเอก ซึ่งเป็นนักข่าวบันเทิงว่า “ไอ้นักข่าวกระจอก” “ไอ้นักข่าวกระจอกงอกง่อย” รวมไปถึงการฉายให้เห็นถึงพฤติกรรมของตัวละครนักข่าวบางรายที่แสดงพฤติกรรมเรียกเงินค่าตอบแทนในการเสนอข่าว
รวมถึงการข่มขู่แหล่งข่าว นำเสนอข่าวสารโดยปราศจากการตรวจสอบข้อเท็จจริง ฯลฯ ซึ่งล้วนเป็นการกระทำที่เข้าข่ายละเมิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพหนังสือพิมพ์แทบทั้งสิ้น องค์กรสื่ออย่างสภาการหนังสือพิมพ์ฯ จึงออกมาเต้น แถมยังได้รับความสนับสนุนจากเพื่อนพ้องวงการสื่ออีกหลายฉบับ ช่วยกันตีข่าวจนกลายเป็น “ทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์” ดังที่เห็น
“เนื้อหาของละครเรื่องระบำดวงดาวกำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางจากผู้หลักผู้ใหญ่ในวงการสื่อหนังสือพิมพ์ ซึ่งได้สะท้อนการทำหน้าที่ของผู้สื่อข่าวอย่างรอบด้าน ทั้งด้านบวกและด้านลบ...
แต่ประเด็นที่มีความห่วงใยกันมากก็คือมีบทพูดในลักษณะดูถูกเหยียดหยามนักข่าว เรียกว่าไอ้นักข่าวกระจอก ไอ้นักข่าวกระจอกงอกง่อย ซึ่งแม้ตัวพระเอกจะเป็นนักข่าวและไม่ได้ทำผิดจริยธรรมสื่อ แต่ตัวร้ายบางตัว ซึ่งเป็นนักข่าวเช่นกัน มีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม เช่น แอบอัดเทปฟังแหล่งข่าว แล้วมานำเสนอตีพิมพ์โดยไม่มีการตรวจสอบ พอโดนฟ้องร้องกลับพูดหน้าตาเฉยว่าไม่เห็นจะผิดตรงไหน นี่อาจสร้างความเข้าใจผิดอย่างใหญ่หลวงแก่คนดูว่านักข่าวจริงๆ เป็นอย่างนี้หรือ”
เป็นคำกล่าวของ พรชัย ปุณณวัฒนาพร เลขาธิการสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ ตัวแทนนักข่าวนักหนังสือพิมพ์ ออกมาเปิดประเด็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ เนื่องจากกลัวว่าประชาชนจะเข้าใจผิดและสับสนกับบทบาทของผู้สื่อข่าวและผู้ประกอบวิชาชีพหนังสือพิมพ์ที่คนในสังคมยกย่องศัทธา แต่กลับมีพฤติกรรมไม่พึงประสงค์
“ทุกคนเห็นตรงกันว่านี่คือเรื่องใหญ่ และควรออกมาประท้วงเรียกร้องความถูกต้อง โดยต้องการให้ทางช่อง 3 และผู้จัดการละครออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงให้ผู้ชม เพื่อไม่ให้เป็นการเข้าใจผิดกัน”
นอกจากนี้ สภาการหนังสือพิมพ์ฯ ยังได้รับหนังสือร้องเรียนจากหนังสือพิมพ์ไทยนิวส์ หนังสือพิมพ์ต้นสังกัดของพระเอกคนดัง ที่ดันมีชื่อไปตรงกับหนังสือพิมพ์จริง จึงเกรงว่าผู้ชมจะเข้าใจผิดและสับสน คิดว่าเป็นหนังสือพิมพ์ฉบับเดียวกัน
หลังจากการออกแอ็กชันเพียงวันเดียว ก็น่าชื่นใจที่ทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 และทางผู้จัดละคร นั่นก็คือ บริษัท โพลีพลัส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ยินดีที่จะปรับปรุงแก้ไขในทันที
“ผู้ชมท่านใดพบเห็นผู้สื่อข่าวที่มีพฤติกรรมคล้ายกับตัวละครในเรื่องนี้ หรือพบเห็นการเสนอข่าวของหนังสือพิมพ์ที่มีการกระทำอาจเข้าข่ายละเมิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพหนังสือพิมพ์ ไม่ว่า เนื้อหา ภาพข่าว สามารถร้องเรียนมาได้ที่ www.presscouncil.or.th หรือทางอีเมล [email protected]”
“เรายอมรับว่ายังมีนักข่าวที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมเกิดขึ้นในสังคมไทย เรื่องเหล่านี้ยังมีอยู่จริง สังคมย่อมมีคนที่ดีและไม่ดี แต่เราจะป้องปรามมันอย่างไร จะทำยังไงให้มีคนดีมากกว่าคนไม่ดี ซึ่งเป็นที่น่าพอใจที่ได้รับการตอบรับจากทางช่อง 3 และผู้จัดละครที่ได้คลายกังวล แก้ไขปัญหาจนเป็นที่สบายใจแก่ทุกฝ่าย”
หลังจากมีการขยับตัวจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ก็ดูเหมือนว่าประเด็นปัญหาดังกล่าวค่อยๆ คลี่คลายลงอย่างชื่นมื่น
เลขาธิการสภาการหนังสือพิมพ์ฯ ฝากไปยังบรรดานักข่าวว่า ควรยึดหลักจริยธรรมขั้นพื้นฐานของมนุษย์ นั่นคือเอาใจเขามาใส่ใจเรา
“จริยธรรมเป็นเรื่องของนามธรรม จับต้องไม่ได้ ยังไงก็ตามเราต้องพยายามทำให้มันเป็นรูปธรรม ทุกคนเวลาปฏิบัติหน้าที่รู้อยู่แก่ใจดีอยู่แล้ว สิ่งไหนถูกสิ่งไหนผิด เวลาจะทำข่าวอะไร เวลาจะสัมภาษณ์ใคร เขียนสิ่งใดลงไป คิดสักนิดว่าถ้าตัวคุณเองถูกถามอย่างนี้ ญาติพี่น้อง คนรักของคุณถูกปฏิบัติอย่างนี้ จะรู้สึกยังไง”
ขณะที่ ออยธนา สุทธิกมล พระเอกของเรื่อง ผู้ได้รับฉายาว่า พระเอกสุดติสต์คนหนึ่งของวงการ ก็เผยว่า หลังจากรับบทนี้ก็รู้สึกเห็นอกเห็นใจสื่อมวลชนไม่น้อย
“ยอมรับว่าแสดงเรื่องนี้แล้ว ทำให้เข้าใจความเป็นนักข่าวมากยิ่งขึ้น เวลานักข่าวต้องสัมภาษณ์เจาะลึกเรื่องราวอะไรต่างๆ มันเป็นอย่างไร ดังนั้น ดารากับนักข่าวก็ต้องถ้อยทีถ้อยอาศัยกันให้มากขึ้น”
สำหรับมุมมองของ ทัศน์สรวง วรกุล นายกสมาคมนักข่าวบันเทิง ให้ความเห็นต่อกรณีดังกล่าวว่า ไม่ได้ส่งผลกระทบใดๆ ต่อภาพลักษณ์ของนักข่าวบันเทิง
“พวกเรานักข่าวบันเทิงต่างรู้กันดีอยู่ว่า พวกเราไม่ได้เป็นแบบนั้น ทุกวิชาชีพย่อมมีทั้งคนดีและคนไม่ดี แต่จากประเด็นดังกล่าวมองว่า ด้วยบทบาทของละครที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับแวดวงบันเทิง ดังนั้นจึงต้องมีบทบาทของตัวละครที่เป็นนักข่าวบันเทิง นำเสนอพฤติกรรมรอบด้านของตัวละครทั้งด้านบวกและลบ เพื่อเป็นการเพิ่มอรรถรสลงไปในละคร โดยส่วนตัวแล้วก็ไม่ได้ติดใจอะไร” นายกสมาคมนักข่าวบันเทิง กล่าวถึงความรู้สึกที่ต่างจากนักข่าวสายอื่น
ภาษิตเก่าแก่ที่ว่า “ดูละครแล้วย้อนดูตัว” ฟังแล้วน่าจะถูกต้องที่สุดแล้วต่อเรื่องราววุ่นๆ ของระบำดวงดาว กับบทบาทของนักข่าวในยุคนี้


