จากโจมนสู่เอโดะ รู้จักญี่ปุ่นผ่านโบราณวัตถุ
ความสัมพันธ์ไทยและญี่ปุ่น นับวันยิ่งเพิ่มพูนความใกล้ชิด ย้อนไปตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาและสืบเนื่องมาจนถึงสมัยกรุงรัตนโกสินทร์
โดย สมแขก ภาพ : ทวีชัย ธวัชปกรณ์
ความสัมพันธ์ไทยและญี่ปุ่น นับวันยิ่งเพิ่มพูนความใกล้ชิด ย้อนไปตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาและสืบเนื่องมาจนถึงสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ นับรวมแล้วไทยและญี่ปุ่นมีการติดต่อกันมากว่า 600 ปี แต่ความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเป็นทางการครั้งแรกได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อ 130 ปีก่อน โดยมีหลักฐานว่าไทยได้ลงนามใน “หนังสือปฏิญญาว่าด้วยทางพระราชไมตรีแลการค้าขายในระหว่างประเทศสยามกับประเทศญี่ปุ่น” จากเหตุการณ์ดังกล่าว นำมาซึ่งพระราชไมตรีระหว่างสองพระราชวงศ์เป็นสัญลักษณ์อันงดงาม
เพื่อเฉลิมฉลอง 130 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยและญี่ปุ่น รัฐบาลญี่ปุ่นยกโบราณ-ศิลปวัตถุ-งานศิลป์มาจัดแสดงที่กรุงเทพฯ โดยความร่วมมือของสำนักงานกิจการทางวัฒนธรรม แห่งประเทศญี่ปุ่น พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ โตเกียว พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ คิวชู เจแปนฟาวน์เดชั่น ร่วมกับกรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ของฝ่ายไทย ซึ่งตกลงแลกเปลี่ยนนิทรรศการเผยแพร่มรดกศิลปวัฒนธรรมร่วมกัน เพื่อตอบแทนน้ำใจไมตรีระหว่างกัน จึงทำให้เกิดโครงการจัดนิทรรศการแลกเปลี่ยนของสองประเทศเนื่องในวาระพิเศษนี้ ในนิทรรศการพิเศษ เรื่อง “วิถีแห่งศรัทธาจากศิลปทัศน์ญี่ปุ่น” (The History of Japanese Art : Life and Faith)
นับเป็นครั้งแรกที่มีการนำศิลปะญี่ปุ่นทุกยุคสมัยมาจัดแสดงในประเทศไทย หลังจากที่ไทยนำโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุชิ้นเยี่ยมไปจัดนิทรรศการพิเศษเรื่อง “ความรุ่งโรจน์แห่งพระพุทธศาสนาในดินแดนไทย” (Thailand : Brilliant Land of the Buddha) ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ คิวชู และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ โตเกียว ซึ่งเป็นการแนะนำมรดกศิลปวัฒนธรรมของไทยครั้งสำคัญและยิ่งใหญ่ในรอบ 30 ปี บนแผ่นดินญี่ปุ่นมาแล้วเมื่อปี 2560 ที่ผ่านมา
สำหรับโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ ที่นำมาจัดแสดง ในนิทรรศการพิเศษ “วิถีแห่งศรัทธาจากศิลปทัศน์ญี่ปุ่น” นำมาจากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ โตเกียว พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ คิวชู นิทรรศการในประเทศไทยครั้งนี้เท่ากับเป็นการพัฒนางานด้านพิพิธภัณฑสถานของไทย และยกระดับการจัดแสดงนิทรรศการของพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติให้ได้มาตรฐานสากล ด้วยการควบคุมอุณหภูมิ และการจัดทำตู้จัดแสดง เพื่อความปลอดภัยของโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุประเภทผ้าและกระดาษจากญี่ปุ่นเป็นพิเศษ โดยโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุที่นำมาจัดแสดง เป็นโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ ประกอบด้วยหลักฐานที่ได้จากการขุดค้นทางโบราณคดี ประติมากรรม จิตรกรรม และประณีตศิลป์ที่แสดงถึงเอกลักษณ์ของวัฒนธรรมญี่ปุ่นตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ สมัยโจมน จนถึงยุคประวัติศาสตร์สมัยเอโดะ
นิทรรศการนี้แบ่งออกทั้งหมดเป็น 5 ส่วน คือ ต้นกำเนิดศิลปะญี่ปุ่น พุทธศิลป์ ราชสำนักและนักรบ เซนและศิลปะการชงชา และวัฒนธรรมเอโดะอันหลากหลาย สืบทอดมากกว่า 6,000 ปีตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์จนถึงสมัยเอโดะ (ค.ศ. 1603-1868) เพื่อนำเสนอเรื่องการเริ่มต้นของศิลปะญี่ปุ่น ความรุ่งเรืองของพระพุทธศาสนา ตระกูลขุนนาง และนักรบนิกายเซนกับพิธีชงชา และความหลากหลายทางวัฒนธรรมในสมัยเอโดะ รวมจำนวน 106 รายการ 130 ชิ้น โดยมีโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุที่ได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนเป็นมรดกของชาติ 3 รายการ และมรดกวัฒนธรรมสำคัญ 25 รายการ
การขุดค้นศึกษาแหล่งโบราณคดีสมัยก่อนประวัติศาสตร์ ทำให้ทราบปฐมบทศิลปะญี่ปุ่นว่า ก่อนพระพุทธศาสนาจะแผ่ขยายเข้ามายังดินแดนญี่ปุ่น มีผู้คน 3 กลุ่ม ที่ต่างมีวัฒนธรรม ดำรงชีวิตอันเป็นลักษณะเฉพาะของตนเอง ประกอบด้วยวัฒนธรรมโจมน ยาโยอิ และโคฟุน วัฒนธรรมแห่งบรรพชนเหล่านี้เป็นปฐมบท หรือรากเหง้าของสังคมและวัฒนธรรมญี่ปุ่น สะท้อนได้จากข้าวของเครื่องใช้ เช่น ภาชนะดินเผาทรงเปลวไฟ ยุคก่อนประวัติศาสตร์ สมัยโจมนตอนกลาง อายุราว 4,500 ปีมาแล้ว ตุ๊กตาดินเผา “โดกู” สมัยโจมนตอนปลาย ระฆังสำริด ยุคก่อนประวัติศาสตร์ สมัยยาโยอิตอนปลาย พุทธศตวรรษที่ 6-9 ได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนเป็นมรดกวัฒนธรรมที่สำคัญ
ตุ๊กตาฮินะ ไม้ทาสีขาว สวมผ้าไหมหลากสี สมัยเอโดะ พุทธศตวรรษที่ 23-25 และเครื่องใช้ของตุ๊กตาฮินะ ยังทำหน้าที่สะท้อนความเชื่อของคุณแม่ชาวญี่ปุ่นที่ว่าจะช่วยดูดซับความชั่วร้าย และช่วยให้ลูกสาวของพวกเธอมีสุขภาพแข็งแรง อายุยืนยาว นอกจากนี้ยังมีภาพพิมพ์อุกิโยเอะ จากแม่พิมพ์ไม้แกะสลักเป็นภาพหลากสีสันเรียกว่า “นิชิกิเอะ” ถ่ายทอดชีวิตความเป็นอยู่ของสามัญชน เช่น นักแสดงคาบูกิ หญิงสาวในสถานบันเทิง การแต่งกายของหญิงสาวชาวเมืองเอโดะด้วยชุด “โคโซะเดะ” เสียบหวีและปักปิ่นประดับผม ล้วนแสดงถึงวัฒนธรรมตามวิถีชีวิตจริง
นิทรรศการพิเศษที่ควรค่าชมนี้จัดแสดง ณ พระที่นั่งศิวโมกขพิมาน พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร ตั้งแต่วันนี้ถึงวันอาทิตย์ที่ 18 ก.พ. 2561 (ปิดทุกวันจันทร์ และอังคาร) ตั้งแต่เวลา 09.00-16.00 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร. 02-224-1402, 02-224-1370


