สุวรรณภูมิคุมเข้ม "โดรน" รบกวนการบิน งัดระบบ Anti-Drone สกัด
"พิพัฒน์" รองนายกฯ สั่งการด่วน ทอท. ยกระดับมาตรการความปลอดภัยขั้นสูงสุด ป้องกันปัญหา "โดรน สุวรรณภูมิ" รบกวนการบิน บูรณาการฝ่ายความมั่นคงใช้ระบบ Anti-Drone สกัดเข้ม
พิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม มอบนโยบายเร่งด่วนให้ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) โดยเฉพาะท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) บูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานความมั่นคง ทหาร และตำรวจ
ยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยเพื่อป้องกันการลักลอบใช้โดรนในพื้นที่โดยรอบสุวรรณภูมิ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของผู้โดยสารและการเดินอากาศ โดยเน้นย้ำให้ปฏิบัติตามมาตรฐานสากลอย่างเคร่งครัด เพื่อรักษาภาพลักษณ์การท่องเที่ยวและความเชื่อมั่นของประเทศ
เปิดไทม์ไลน์พบโดรนรบกวน ยันรับมือได้ทันท่วงที
กิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เปิดเผยว่า ทสภ. ได้รับรายงานการตรวจพบอากาศยานไร้คนขับบริเวณใกล้เขตสนามบินเมื่อคืนวันที่ 20 ธันวาคม 2568 และพบอีกครั้งในคืนวันที่ 21 ธันวาคม 2568 ในจุดที่ห่างออกไป
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการตามแผนเผชิญเหตุทันทีที่ตรวจพบ โดยประสานฝ่ายความมั่นคงเข้าตรวจสอบพื้นที่
"จากการประเมินสถานการณ์ ยืนยันว่าเหตุการณ์ดังกล่าว ไม่ส่งผลกระทบ ต่อการขึ้น-ลงของอากาศยาน ตารางเที่ยวบิน หรือการให้บริการผู้โดยสารแต่อย่างใด ทสภ. สามารถควบคุมสถานการณ์และดำเนินมาตรการรักษาความปลอดภัยตามมาตรฐานการบินสากลได้อย่างมีประสิทธิภาพ" กิตติพงศ์ กล่าว
งัดเทคโนโลยี Anti-Drone และกำลังพลคุมเข้ม 24 ชม.
เพื่อป้องกันปัญหา บินโดรนผิดกฎหมาย รุกล้ำพื้นที่ ทสภ. ได้ดำเนินมาตรการเชิงรุกร่วมกับกองทัพบก กองทัพอากาศ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดังนี้
- ติดตั้งและใช้งานอุปกรณ์ตรวจจับและต่อต้านอากาศยานไร้คนขับ (Anti-Drone)
- เพิ่มความถี่สายตรวจรถยนต์ร่วมกับ สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ตรวจตราแนวรั้วสนามบิน
- เฝ้าระวังผ่านกล้องวงจรปิด (CCTV) ตลอด 24 ชั่วโมง
- ซักซ้อมแผนเผชิญเหตุร่วมกับหน่วยงานความมั่นคงอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ตอบสนองต่อเหตุฉุกเฉินได้ทันที
เตือน! เขตห้ามบินโดรน ฝ่าฝืนโทษสูงสุด "ประหารชีวิต"
ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เน้นย้ำข้อกฎหมายว่า การนำโดรนขึ้นบินใน เขตห้ามบินโดรน โดยเฉพาะรัศมี 9 กิโลเมตรรอบสนามบิน เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายและมีความเสี่ยงสูง
หากการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยความผิดบางประการต่อการเดินอากาศ พ.ศ. 2558 ผู้ฝ่าฝืนมีบทลงโทษรุนแรงสูงสุดถึงขั้นประหารชีวิต
ด้าน พล.ต.ท.วัฒนา ยี่จีน ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 1 กล่าวเสริมว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้วางยุทธศาสตร์ป้องกันเหตุ โดยจัดกำลังตำรวจปฏิบัติการเชิงรุก ตั้งด่านตรวจค้นยานพาหนะรอบพื้นที่ และลงพื้นที่ตรวจสอบผู้ครอบครองโดรนที่จดทะเบียน พร้อมประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือประชาชนและสถานประกอบการรอบสนามบิน ช่วยสอดส่องแจ้งเบาะแสหากพบพฤติกรรมต้องสงสัย


