ปลายทาง ที่ ปางอุ๋ง
แม้นไม่ได้เดินทางมาเยือนนานแล้ว แต่ในใจก็ยังคิดถึงการเดินทางมาสัมผัสลมหนาวกับผองเพื่อนในครั้งนั้น
โดย...สืบสิน ภาพ : คลังภาพโพสต์ทูเดย์
แม้นไม่ได้เดินทางมาเยือนนานแล้ว แต่ในใจก็ยังคิดถึงการเดินทางมาสัมผัสลมหนาวกับผองเพื่อนในครั้งนั้น และการเดินทางที่น่าจดจำที่ จ.แม่ฮ่องสอน ยังจำได้ดีว่าปลายทางของพวกเราอยู่ที่ ปางอุ๋ง ดินแดนที่ใครไปเยือนต่างเรียกกันว่า สวิตเซอร์แลนด์แดนไทย
เราเดินทางผ่านเขตบ้านรักไทย หรือ “บ้านแม่ออ” เป็นหมู่บ้านเล็กๆ กลางหุบเขา ซึ่งอยู่ติดชายแดนไทย-เมียนมา แวดล้อมไปด้วยทิวเขาและพรรณไม้ต่างๆ ปัจจุบันกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม เพราะขึ้นชื่อในเรื่องของการปลูกชาพันธุ์ต่างๆ แล้ว ที่นี่เรายังได้สัมผัสกับวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของชาวจีนฮ่อ ไม่ว่าจะเป็นภาษาพูด ภาษาเขียน รวมถึงสภาพความเป็นอยู่ ที่สำคัญที่นี่ยังมีขาหมูและหมั่นโถวยูนนานให้ลิ้มลองอีกด้วยนะครับ
หลังจากอิ่มหนำสำราญและเดินเซลฟี่ในหมู่บ้านกันจนเต็มอิ่ม เราเดินทางต่อไปยังจุดหมายปลายทางที่ปางอุ๋ง หรือที่มีชื่อเรียกเต็มๆ ว่า “โครงการพระราชดำริปางตอง 2 (ปางอุ๋ง)” เป็นโครงการในพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ทรงเห็นว่าพื้นที่บริเวณนี้เป็นพื้นที่อันตราย อยู่ติดแนวชายแดนเมียนมา มีกองกำลังต่างๆ มีการขนส่ง ปลูกพืชเสพติด รวมไปถึงการบุกรุกพื้นที่ตัดไม้ทำลายป่าอยู่เสมอ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระบรมพระราชินีนาถ จึงมีพระราชดำริให้รวบรวมราษฎรกลุ่มน้อยบริเวณนั้น และพัฒนาความเป็นอยู่ รวมถึงส่งเสริมอาชีพปลูกป่า สร้างอ่างเก็บน้ำ โดยมีพระราชประสงค์สร้างความมั่นคงแนวชายแดน พัฒนาความเป็นอยู่ของราษฎรให้ดีขึ้นและฟื้นฟูอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติให้สมบูรณ์ยั่งยืนตลอดไป
คำว่า “ปาง” นั้นหมายถึง ที่พักของคนทำงานในป่า ส่วน “อุ๋ง” นั้น เป็นภาษาเหนือ หมายถึง ที่ลุ่มต่ำ คล้ายกระทะใบใหญ่มีน้ำขังเฉอะแฉะ ก็น่าจะหมายถึง ที่พักริมอ่างเก็บน้ำนี่เอง
ปางอุ๋ง จึงมีลักษณะเป็นพื้นที่เป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่บนยอดเขาสูง ริมอ่างเก็บน้ำเป็นทิวสนที่ปลูกเรียงรายกัน ภาพอันสวยงามของไอหมอกที่ลอยเหนือทะเลสาบกับบรรยากาศอันหนาวเหน็บในยามเช้า ทำให้ปางอุ๋งกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตสุดแสนโรแมนติกติดอันดับต้นๆ ของ จ.แม่ฮ่องสอน จนได้รับขนานนามว่าเป็น “สวิตเซอร์แลนด์แห่งเมืองไทย”
ยิ่งยามพระอาทิตย์ขึ้นจะสะท้อนผืนน้ำผ่านทิวสน และไอหมอกบางๆ ยิ่งเป็นภาพที่สร้างความประทับยากจะลืมเลือนกันทีเดียว แม้ในกระทั่งเวลาที่หมอกเลือนลางหายไปก็ยังคงเป็นภาพอันงดงามเย้ายวนให้หลายคนเดินทางมาเยือน
นอกจากจะได้ชมบรรยากาศของสายหมอกในยามเช้าแล้ว กิจกรรมอีกอย่างหนึ่งที่พลาดไม่ได้ คือ การนั่งแพชมทัศนียภาพและบรรยากาศโดยรอบที่สร้างความเพลิดเพลินจนลืมเวลา
รวมถึงยังได้ชมนกที่เป็นดาราแห่งปางอุ๋ง นั่นก็คือหงส์พระราชทานจากสมเด็จพระราชินี ซึ่งเป็นหงส์ดำและหงส์ขาวว่ายพลอดรักกันไปมาช่างเป็นภาพที่น่าอิจฉา
ที่สำคัญไม่ควรพลาดที่จะไปชมสวนปางอุ๋งใกล้กับที่ทำการของโครงการพระราชดำริฯ ซึ่งจัดสร้างขึ้นมาเพื่อให้มีพืชพรรณที่กลมกลืนกับสภาพภูมิประเทศบนที่สูงทดแทนไร่ฝิ่น ซึ่งเป็นประโยชน์ทางด้านอาหารและยาแพทย์แผนไทย ทั้งยังสร้างความกลมกลืนกับภูมิประเทศอีกด้วย เช่น อโวคาโด พลับ สาลี่ และบ๊วย
อีกทั้งยังมีการตกแต่งด้วยสวนไม้ ดอกไม้ประดับเมืองหนาว เช่น กุหลาบ ไฮเดรนเยีย พวงแสด อีกทั้งยังมีการพยายามนำพืชและสัตว์ประจำถิ่นของพื้นที่ปางอุ๋งกลับมา เช่น เอื้องแซะและ กล้วยไม้ต่างๆ และสัตว์อย่างเขียดแลน เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังมีบ้านพักของกองอุทยาน รวมถึงพื้นที่กางเต็นท์ท่ามกลางป่าสนให้กับนักท่องเที่ยว เรียกว่าคุณจะได้สัมผัสกับความงดงามของของปางอุ๋งที่เปลี่ยนผันไปตามเวลา
ในวันที่หมอกเริ่มจางสาย เราได้อำลาปางอุ๋ง เพื่อเดินทางไปเที่ยวต่อยังสถานที่อื่นๆ ของ จ.แม่ฮ่องสอน ที่งดงามไม่แพ้กัน หนาวนี้ถึงแม้จะไม่ได้เดินทางไปเยือน แต่เธอจะอยู่ในหัวใจลูกผู้ชายหัวใจรอนแรมคนนี้ตลอดไปนะจ๊ะ “ปางอุ๋ง”


