posttoday

สองสาวผู้กำกับ-นักแสดง รับ-ส่ง ‘บท’ จากเวทีถึงชีวิตจริง

17 กันยายน 2559

นํ้าพึ่งเรือเสือพึ่งป่า นักแสดงต้องพึ่งผู้กำกับการแสดง ผู้กำกับการแสดงต้องพึ่งนักแสดง

โดย...วันพรรษา อภิรัฐนานนท์ ภาพ... กิจจา อภิชนรจเรข

นํ้าพึ่งเรือเสือพึ่งป่า นักแสดงต้องพึ่งผู้กำกับการแสดง ผู้กำกับการแสดงต้องพึ่งนักแสดง อันนี้เป็นเรื่องจริงต่างคนต่างหน้าที่และบทบาท หากแต่ต้องรับ-ต้องส่ง “บทบาท” ที่ได้รับในเรื่องหรือในละครกันให้ได้ มิพักจะหมายถึงการตีความบทที่ได้รับให้แตกกระจุยเท่านั้น หากหมายถึงการสวมบทบาทนั้นๆ อย่างไม่มากหรือน้อยเกินไป แสดงอย่างเข้าใจจากภายใน จะทำเช่นนั้นได้ ทั้งผู้กำกับและนักแสดงต้องรู้จักรู้ใจ รู้มือรู้ฝีมือ ซึ่งกันและกันไปข้าง!

ฝ่ายผู้กำกับการแสดง เป็นเจ้าของผลงานแสดงและสร้างสรรค์งานระดับแถวหน้าของเมืองไทยรวมถึงระดับโลก สุดารัตน์ ศรีสุรกานต์ วัย 34 ปี หรือคุณครูเปิ้ล ผู้กำกับละครเวทีดังแห่งปี “ก๊วนคานทอง เดอะ มิวสิคัล” และกรรมการผู้จัดการ สถาบันสอนศิลปะการแสดงเพื่อพัฒนาศักยภาพ “ไอดีโอ เพอร์ฟอร์มมิ่ง อาร์ตส” (IDEO PerForming Arts School) ด้านนักแสดงคือ ฝ้าย-เอมิสา รักสยาม วัย 30 ปี นอกจากจะเป็นนักแสดงคู่ใจผู้กำกับคนเก่ง ฝ้ายยังเป็นเอดิเตอร์ของ 8ggMagazine.com และเป็นรองกรรมการผู้จัดการของไอดีโอฯ ด้วย

เรื่องของความ “คลิก” บางทีก็ต้องอธิบายด้วยกลไกของจักรวาล เพราะบางทีเราก็ไม่รู้ว่าทำไมการที่คนสองคนมาเจอกันแล้วจึงพูดกันได้ทุกเรื่อง คุยกันได้ทุกเรื่อง รับ-ส่งกัน หัวเราะและลึกซึ้งกันกับทุกบทบนเวทีและกับทุกเรื่องในชีวิต จากรุ่นพี่รุ่นน้องในรั้วมหาวิทยาลัยศิลปากร ครูเปิ้ลหรือขณะนั้น “พี่เปิ้ล” อยู่ปี 4 เป็นผู้กำกับละครเวทีของมหาวิทยาลัย ฝ้ายเป็นนักศึกษาปี 1 ดาวมหาวิทยาลัยอีกต่างหาก พี่เปิ้ลชวนน้องมาเล่นละครเพลงแสนโหด “แสงเทียน”

ในครั้งนั้นน้องฝ้ายต้องรับบทหนักเพราะน้องต้องแบกพละกำลังมากมายเพื่อช่วยเหลือเยียวยาตัวเองและคนในสังคม เทียนเล่มเล็กๆ ที่สะท้อนใจและเรียกหาสิ่งที่อยู่ไกลมาก จากวันนั้นถึงวันนี้ได้ร่วมงานละครกันอีกหลายครั้งแม้ช่วงหนึ่งต้องแยกกันไปแต่ก็กลับมาร่วมงานกันคราวนี้เป็นการร่วมธุรกิจ สถาบันไอดีโอ เพอร์ฟอร์มมิ่ง อาร์ตส เปิดคลาสสอนการแสดงเพื่อเสริมความมั่นใจและความสุข

สองสาวผู้กำกับ-นักแสดง รับ-ส่ง ‘บท’ จากเวทีถึงชีวิตจริง

 

จากใจผู้กำกับถึงนักแสดง

“เราทั้งคู่มองตรงกัน สนใจในสิ่งที่เหมือนกัน นั่นทำให้เราอยากทำในสิ่งเดียวกัน นั่นคือสถาบันสอนการแสดงที่ไม่สอนเรื่องการแสดงเท่านั้น แต่สอนคนให้พัฒนาตัวเองจากการแสดงด้วย ก่อนหน้าที่เปิ้ลจะมาเปิดสถาบันด้านการแสดง เปิ้ลสนใจคน สนใจว่าเพราะอะไรคนจึงทำอะไรอย่างที่คนทำ (ฮา) ก็เลยไปเรียนปริญญาโทสาขาสุขภาพจิตที่คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อ๋อ คนเป็นแบบนี้เพราะเขาเป็นแบบนี้ ที่นี่จึงเป็นโรงเรียนการแสดงที่จะช่วยให้ผู้เรียนเกิดการพัฒนาตัวตนจากด้านใน การแสดงต้องอาศัยทั้งเอาต์เทอร์ (Outer) และอินเนอร์ (Inner) การพัฒนาศักยภาพของตัวเองก็เช่นเดียวกัน

ไม่ใช่การเรียนการแสดงที่มุ่งเป็นดาราเท่านั้น แต่พัฒนาตัวตนจากด้านใน ร้อง เล่น เต้น พูด พัฒนาบุคลิกภาพ เดินแบบ พัฒนาความมั่นใจ ใช้ความกล้าแสดงออก เพื่อแสดงซึ่งความเป็นตัวตนของตนออกมา เรื่องแบบนี้ละครช่วยได้และช่วยมาเยอะ บทเรียนของไอดีโอฯ ช่วยคนให้ก้าวผ่านความเครียด พัฒนาทักษะความสัมพันธ์ เป็นเรื่องของละครที่พัฒนาคนและสนุกกับชีวิตด้วยจิตวิทยาการแสดง เพราะเราทั้งคู่ชอบเรื่องเดียวกันนี้ สถาบันไอดีโอฯ จึงได้เกิดขึ้น”

ครูเปิ้ลเล่าว่า ฝ้ายเป็นคนทำการบ้าน ในฐานะนักแสดงเขาเป็นคนเปิดกว้างมุมมอง ละเอียด และเก็บสะสม “วัตถุดิบ” ด้านอารมณ์ความรู้สึก น้องเป็นคนสนใจด้านจิตวิทยา เป็นนักพัฒนาตัวเอง เป็นคนอดทน ทุ่มเท และทำเพื่อคนอื่น จุดเชื่อมที่ต้องมี ฝ้ายมี แน่ล่ะเมื่อร่วมทำธุรกิจด้วยกัน ธรรมชาติของงานอาจทำให้ต้องปะทะกันบ้าง แต่ก็เป็นการปะทะที่ช่วยกันมอง พูดกันด้วยเหตุด้วยผล ต่างคนต่างทำหน้าที่

“พี่น้องก็มุมหนึ่ง ผู้บังคับบัญชากับผู้ใต้บังคับบัญชาก็มุมหนึ่ง ในฐานะที่เราทั้งคู่เป็นนักพัฒนาตัวเองตัวยง เรารับมือกับมันได้ (ฮา) ทั้งหมดคือกระบวนการที่จะมาซัพพอร์ต ถ้าเป็นเรื่องงานเราตัดอารมณ์ คัต! กลับมาคุยกัน รู้ตัวแล้ว (ฮา) สำหรับเรื่องงานที่สถาบันฯ ได้แบ่งหน้าที่กันชัดเจน โดยเปิ้ลจะรับหน้าที่ด้านเนื้อหาหลักสูตร ความรู้เชิงลึกสายจิตเวชที่มีความถนัด ขณะที่งานด้านภาพลักษณ์ของไอดีโอฯ ฝ้ายรับไป”

ครูเปิ้ลเล่าต่อว่า ฝ้ายนั้นอะไรๆ ก็ดีทุกอย่าง ไม่ดีอย่างเดียวคือกินเก่ง ทุกครั้งที่สั่งอาหารมากิน จะไม่ยอมสั่ง อ้างว่าไม่อยากกิน แต่พออาหารที่ (เปิ้ล) สั่งมาเต็มโต๊ะฝ้ายกินเรียบและเร็วด้วย ยิ่งไปกว่าอาหารคือขนม ฝ้ายที่ผอมมาก กินขนมไม่ยั้ง เสียแรงที่ปรายตาไปเตือนก็หลายครั้ง หากไม่ได้ผลเลย ฝ้ายกินเหมือนปล้น โดยเฉพาะขนมชิ้นสุดท้ายที่มือแสนไว ฝ้ายคว้าไปได้ทุกครั้งสิน่า!

จากใจนักแสดงถึงผู้กำกับ

“ตัดสินใจไม่ยากค่ะ พี่เปิ้ลชวนก็มาเลย เนื่องจากเราสนใจเรื่องจิตวิทยาเหมือนกัน ปกติเวลาฝ้ายพูดคุยกับพี่เปิ้ลก็คือต้องขอเหตุผลจากพี่เปิ้ล ทำไม ทำไม ทำไมคนถึงทำแบบนี้ เหตุการณ์ในชีวิตเกิดขึ้น เราอยากรู้ว่าทำไม อยากรู้เหตุผล ไม่เฉพาะเรื่องการแสดง แต่ฝ้ายกับพี่เปิ้ลคุยกันทุกเรื่อง และฝ้ายก็สามารถขอเหตุผลจากพี่เปิ้ลได้ในทุกเรื่องของชีวิตค่ะ (ฮา)”

ฝ้ายเล่าว่า ปลื้มพี่เปิ้ลมาก พี่เปิ้ลเป็นครูสอนด้านจิตวิทยา เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาศักยภาพด้วยศิลปะการแสดงและจิตวิทยา ที่ปรึกษาและวิทยากรให้องค์กรรัฐและหน่วยงานเอกชนชั้นนำหลายแห่ง รวมทั้งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ทางด้านการแสดงนอกจากจะเป็นผู้บริหารและสอนศิลปะการแสดงที่ไอดีโอ อารีย์ (ซอยอารีย์) แล้ว พี่เปิ้ลยังเป็นอาจารย์สอนการแสดงและขับร้องที่วิทยาลัยดนตรี มหาวิทยาลัยรังสิต รวมทั้งงานกำกับละครเวทีอีกมากมาย

“ตอนอยู่ปี 2 ฝ้ายต้องย้ายจากทับแก้ว จ.นครปฐม เข้ามาเรียนที่ท่าพระ กรุงเทพฯ เนื่องจากฝ้ายเรียนคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ แต่ก็ได้มีโอกาสได้ร่วมงานละครกับพี่เปิ้ลอีกหลายครั้ง บทที่ได้รับหนักขึ้นเรื่อยๆ (ฮา)ตัวละครซับซ้อนและมีปัญหาใหญ่กว่าเดิมทุกครั้ง พี่เปิ้ลบอกว่าตอนเขียนบทก็เห็นหน้าฝ้ายลอยมาแล้ว ลอยขึ้นมาตลอด (ฮา) มาถึงปัจจุบันได้รับคาแรกเตอร์ใหม่ คือ การเป็นนักธุรกิจ พัฒนาคนด้วยจิตวิทยาการแสดง”

สำหรับหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายคือการดูแลภาพลักษณ์สถาบันฯ ฝ้ายบอกว่า ความเป็นไอดีโอฯคือความไนซ์และความเป็นโปรเฟสชันแนล (Nice and Profesional) มู้ดและโทนไปในทางเดียวกัน เราเป็นมืออาชีพพร้อมๆ กับความเป็นกันเอง เป็นมิตรและคุยได้ทุกเรื่อง (ฮา) จะพูดว่าไนซ์และใช้งานได้จริงก็คงไม่ผิด จัดการอารมณ์ที่มาจากอดีตได้คุณก็จัดการกับ (การแสดง) อารมณ์ที่อยู่ตรงหน้าได้

ธุรกิจใหม่เป็นเรื่องน่าตื่นเต้น ฝ้ายถามตัวเองว่าทำไมถึงรักสถาบันไอดีโอฯ นี้มาก อาจเป็นเพราะที่นี่จะเป็นสถานที่ที่ทำให้ผู้คนได้เข้าใจการแสดง ได้เข้าใจตัวเอง ได้มองเข้าไปข้างในตัวของตัว ทุกบทเรียนของไอดีโอฯออกแบบมาเพื่อการนี้ นั่นคือทำให้คนทุกคนได้เข้าใจในสิ่งที่ตัวเองทำและสิ่งที่ตัวเองเป็น Acting For Best Self ขณะเดียวกันก็เข้าใจคนอื่น เข้าใจผู้อื่น อยู่ร่วมกับผู้อื่นได้ สังคมเป็นสุข

“พี่เปิ้ลเป็นคนที่ฝ้ายรู้ว่าฝ้ายจะไม่ได้เจอคนแบบนี้อีก เราไม่ได้เจอกันบ่อยนะคะแต่เราคลิกกันง่าย ไม่ต้องปูนาน มีไม่กี่คนแบบนี้ในชีวิตของเรา วันแรกที่เจอกันก็ได้เห็นพี่เปิ้ลเป็นแบบ “แสงเทียน” เลยค่ะ คือเป็น Light จุดประกายเราได้ จุดแข็งของพี่เปิ้ลคือเป็นคนที่อยู่ด้วยแล้วสบายใจ ไม่ใช่คนที่จะมาสะกดจิตเรา เป็นที่พักใจของเรา และเป็นที่ปรึกษาที่ดีแน่นอน”

ข่าวล่าสุด

ตำรวจไซเบอร์-ทหาร ถกเข้มชายแดนสระแก้ว เตรียมรับคนไทยจากกัมพูชากลับบ้าน!