posttoday

อย่าปล่อยให้คนข้างตัว ซึมเศร้า โดดเดี่ยว

30 สิงหาคม 2559

ถ้ามีคนในครอบครัวป่วยเป็นโรคซึมเศร้าควรดูแลอย่างไร โรคซึมเศร้ารักษาให้หายได้หรือไม่

โดย...ราตรีแต่ง

ถ้ามีคนในครอบครัวป่วยเป็นโรคซึมเศร้าควรดูแลอย่างไร โรคซึมเศร้ารักษาให้หายได้หรือไม่ และต้องรักษาอย่างไร คงเป็นคำถามที่ผุดขึ้นมาอีกครั้งในช่วงนี้กับข่าวการฆ่าตัวตาย เป็นเหตุการณ์ร้ายแรงที่เกิดขึ้นในครอบครัวของดาราสาวชื่อดัง หญิงสาวสวย หน้าที่การงานดี มีคนรักอยู่ข้างกาย แต่เหตุใดจึงตัดสินใจจบชีวิตตัวเอง?!!

แต่เหตุผลเหล่านั้นคือการตัดสินเขาด้วยมุมมองของเราเองทั้งสิ้น โรคซึมเศร้าเป็นความเศร้าที่ซึมลึกและรุนแรง ถ้าพูดให้เห็นภาพคือ เศร้าเกินกว่าเหตุ เศร้ามาก เศร้านาน เศร้าไม่เลิก เศร้าแบบต่อเนื่อง สำหรับคนที่เป็นโรคนี้ อะไรๆ มันมืดไปหมด มันเหนื่อย มันท้อ อยากนอนแห้งตายไปจริงๆ โดยไม่มีสาเหตุ ถ้ามีอาการเศร้าซึมเป็นอย่างน้อย 2 สัปดาห์ขึ้นไป โดยไม่มีท่าทีว่าจะดีขึ้น นั่นแสดงว่าเป็นอาการแตกต่างไปจากอารมณ์เศร้าปกติที่อาจเกิดขึ้นได้กับทุกๆ คน ซึ่งอาจมีอาการทางร่างกายอื่นๆ ตามมา เช่น นอนไม่ค่อยหลับ หรือหลับๆ ตื่นๆ เบื่ออาหาร น้ำหนักลด หรือถึงขั้นเก็บตัวหมดความสนใจในโลกภายนอก ไร้ความรู้สึกกับทุกสิ่งจนไม่อยากทำอะไร คนทำงานอาจขาดความรับผิดชอบ ขาดลางานบ่อยๆ คนทั่วไปอาจยากเข้าใจได้ แล้วถ้าคนในครอบครัวไม่เข้าใจ หรือขาดความรู้ที่ถูกต้องก็ยิ่งเป็นการซ้ำเติมในการแก้ปัญหายิ่งขึ้น

- ทำใจยอมรับ คือสิ่งแรกที่ควรทำเมื่อคนในครอบครัวป่วยเป็นโรคซึมเศร้า โรคนี้ไม่ใช่ความผิดของใครคนใดคนหนึ่ง ไม่ใช่กรรมเก่าในแบบที่คนไทยชอบคิดกันเลย แต่เป็นความเจ็บป่วยทั่วไปอีกโรคหนึ่งที่เกี่ยวกับสารเคมีในสมองชื่อ เซโรโทนิน (Serotonin) มีปริมาณลดลง ทำให้ผู้ป่วยมีอาการป่วยทั้งร่างกาย จิตใจ และความคิด รู้สึกท้อแท้ หงอยเหงา เบื่อหน่าย ไม่สนุกสนานกับชีวิต นอนไม่หลับ สะดุ้งตื่นกลางดึก ฝันร้ายบ่อยครั้ง ส่งผลกระทบให้ความสามารถในการทำงานลดลง  และเกิดขึ้นได้ในทุกเพศ ทุกวัย เช่นเดียวกับการเจ็บไข้ได้ป่วยทางกายอื่นๆ ที่จะต้องพบแพทย์เพื่อเข้ารับการรักษาและขอ

คำแนะนำการรักษาที่ถูกต้อง ซึ่งจะช่วยให้ผู้ป่วยอาการดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

โดยเฉพาะอาการซึมเศร้า ร้องไห้บ่อยๆ หรือความรู้สึกท้อแท้หมดกำลังใจ อาการเหล่านี้จะดีขึ้นอย่างมาก จนทำให้ผู้ป่วยบางคนถึงกับประหลาดใจเมื่อมองย้อนกลับไปขณะที่ป่วยว่า ทำไมตัวเองจึงรู้สึกเศร้าได้รุนแรงขนาดนั้น

คน (เคย) ป่วยแชร์ประสบการณ์ไว้ ไม่ต้องอายนะที่จะบอกใครว่าเราเคยพบจิตแพทย์ คนที่นั่งอยู่ในแผนกจิตเวชก็ไม่ใช่คนบ้า เขาแค่มาเพื่อรับคำปรึกษา และพยายามรักษาตัวเอง อยากให้สังเกตคนรอบข้างดูบ้าง เพื่อน พี่น้อง ญาติ คนไหนมีอาการเปลี่ยนไปหรือเปล่า อย่ารอจนสายเกินไป บางคนกว่าจะรู้ว่าคนข้างๆ ป่วย ก็ตอนไร้ลมหายใจไปแล้ว...

- คนข้างตัวเป็นโรคซึมเศร้า เขาเหล่านั้นต้องการที่พึ่งจริงๆ อย่าซ้ำเดิม อย่าด่าทอ ขอแค่รับฟังและให้กำลังใจ ให้ความเข้าใจเขาก็เพียงพอแล้ว  คำพูดต้องห้ามเมื่อมีคนในบ้านป่วย เช่น ทำตัวมีปัญหาเอง คิดไปเองว่าต้องหาหมอ ตัวเองทำตัวไม่ดีเอง ผู้ป่วยจะยิ่งซึมเซาเมื่อได้ยินประโยค (ซ้ำเติม) เหล่านี้

&O5532; การกินยาแก้เศร้า เพื่อรักษาอาการของโรค ไม่ได้หายทันทีที่กินยา อาการซึมเศร้าโดยส่วนใหญ่จะใช้เวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์ขึ้นไป อาการจึงจะดีขึ้นอย่างเห็นชัด ยาจะช่วยให้ผู้ป่วยหลับได้ดีขึ้น เจริญอาหารขึ้น เริ่มรู้สึกมีเรี่ยวแรงจะทำอะไรมากขึ้น และช่วยลดความรู้สึกกลัดกลุ้มหรือกระสับกระส่าย

ในบางเคสคุณหมอให้กินยาไปเรื่อยๆ ไม่มีกำหนด ควบคู่ไปกับการรักษาสุขภาพจิตให้ดี เช่น ออกกำลังกาย หางานอดิเรกกิจกรรมอื่นๆ ทำ จะได้ไม่คิดไม่เครียด 

- ผู้หญิงประสบกับภาวะนี้มากกว่าผู้ชาย 70% และมักเริ่มต้นเมื่อราวอายุ 32 ปี เมื่อเด็กเข้าสู่วัยรุ่นจะพบว่าอัตราการเกิดโรคในวัยรุ่นหญิงมากกว่าวัยรุ่นชายถึง 2-3 เท่า เช่นเดียวกันกับในวัยผู้ใหญ่ คุณพ่อ คุณแม่ กดดันเขา (ด้วยความหวังดี) มากเกินไปรึเปล่า เด็กๆ วัยรุ่นมีโอกาสเป็นโรคซึมเศร้าสูงมาก เพราะการบีบบังคับเขา “ฉันเลี้ยงแกมานะ!” “ทำไมฉันจะไม่มีสิทธิ ฉันเป็นพ่อแม่แกนะ”  “ไม่ต้องพูด ไม่ต้องเถียง เป็นลูกไม่มีสิทธิ” คำพูดแบบนี้น่ากลัวเกินไปที่ใช้พูดกันในครอบครัว เกิดเป็นความเครียด สะสมไปเรื่อยๆ ก็ไม่ไหวนะ

สาเหตุที่กระตุ้นให้เกิดอาการซึมเศร้ามาจากหลายปัจจัย ทั้งจากด้านกรรมพันธุ์ พัฒนาการของจิตใจ และสิ่งแวดล้อมที่เผชิญ เช่น ประสบกับความเครียดหนักๆ เจอมรสุมชีวิต เจ็บป่วยเรื้อรังจนหมดกำลังใจ พบกับความสูญเสียในชีวิต เช่น การพลัดพรากจากพ่อแม่ในวัยเด็ก สูญเสียคนรัก ครอบครัว ตกงาน ปัญหาเรื่องการเงิน ต้องย้ายบ้านกะทันหัน ความสัมพันธ์กับคนใกล้ชิดไม่ราบรื่น และหากเจอกับเหตุการณ์หรือความรู้สึกเหล่านั้นบ่อยๆ ก็อาจกระตุ้นให้โรคซึมเศร้าเกิดขึ้นได้ รวมถึงปัจจัยทางชีวภาพ เช่น การเปลี่ยนแปลงของระดับสารเคมีในสมองบางตัว ก็อาจส่งผลให้เกิดโรคซึมเศร้าได้เช่นกัน

- เข้าร่วมกลุ่มสนับสนุน (Support Group) สำหรับญาติผู้ป่วยโรคซึมเศร้า ที่โรงพยาบาลจัดขึ้น เช่น กลุ่มสายใยครอบครัว กลุ่มพักพิงพระพร เป็นต้น การเข้าร่วมกลุ่มเป็นเรื่องที่มีประโยชน์มากสำหรับญาติผู้ป่วย เพราะจะช่วยลดความรู้สึกโดดเดี่ยว สามารถเรียนรู้แลกเปลี่ยนประสบการณ์เป็นกำลังใจให้กันและกัน กลุ่มสนับสนุนบางกลุ่มมีการให้การศึกษาและอบรมแก่ผู้ที่ดูแลผู้ป่วยด้วย ผู้ที่สนใจสอบถามแพทย์หรือ
เจ้าหน้าที่ที่ให้การรักษา หรือติดต่อกองบรรณาธิการเพื่อนรักษ์สุขภาพจิต โรงพยาบาลศรีธัญญา โทร. 02-525-0981-5 ต่อ 1678

ในสังคมออนไลน์ทุกวันนี้ก็มีกลุ่มทางเฟซบุ๊ก สำหรับใครที่มีปัญหาเดียวกัน หรืออยากพูดคุย สอบถามข้อมูลต่างๆ มาเข้ากลุ่มปิดเหล่านี้ได้

ใครๆ ก็ป่วยซึมเศร้าได้ เมื่อป่วยก็ต้องรักษา คิดแค่นี้โรคนี้ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่เลย

ข่าวล่าสุด

พรรคประชากรไทย ชู 4 เสาหลักพลิกฟื้นประเทศ ส่งชิงเก้าอี้ สส.261 คน สู้ศึกเลือกตั้ง‘69