โชห่วย ไม่หายไปไหน
เมื่อหลายปีที่แล้วมีคนจับคู่สงครามระหว่างซูเปอร์มาร์เก็ตบริษัทข้ามชาติกับร้านโชห่วย
โดย...ภาพ สุธน สุขพิศิษฐ์
เมื่อหลายปีที่แล้วมีคนจับคู่สงครามระหว่างซูเปอร์มาร์เก็ตบริษัทข้ามชาติกับร้านโชห่วย ว่าซูเปอร์มาร์เก็ตนั้นจะทำให้ร้านโชห่วยฉิบหาย บางคนเตลิดต่อไปอีกว่าจะทำให้ตลาดสดติดร่างแหตามร้านโชห่วยหายไปด้วย แล้วยังมีนักกิจกรรมทางความคิดเสนอแนวทางต่างๆ นานา บ้างก็ให้รัฐบาลลดภาษีให้กับผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคที่ส่งสินค้าให้กับร้านโชห่วย บ้างก็ให้รัฐบาลสนับสนุนเงินทุนหลายๆ รูปแบบให้กับร้านโชห่วย
ผมไม่ว่าใครที่มีความคิดอย่างนั้น แต่ผมไม่เคยคิดว่าซูเปอร์มาร์เก็ตจะมีพลังพอที่จะเปลี่ยนแปลงนิสัยคนไทยที่เคยพึ่งพาร้านโชห่วยได้ ซูเปอร์มาร์เก็ตกับร้านโชห่วยเหมือนเป็นรางทางรถไฟอยู่คนละเส้น คนไทยนั้นในบางเวลาบางสถานการณ์ก็เข้าซูเปอร์มาร์เก็ต บางเวลาก็ต้องพึ่งร้านโชห่วย
ลองมาดูร้านโชห่วยก่อนครับ ร้านนี้เหมือนพิพิธภัณฑ์กับโกดังผสมกัน ของโบร่ำโบราณที่ตกยุคขายไม่ได้ ก็ตั้งโด่เด่ไว้อย่างนั้น พอความนิยมมันหมุนเวียนกลับ ของที่เคยตกยุคกลับมาถูกใจใหม่ ก็ต้องวิ่งเข้าร้านโชห่วย เอาง่ายๆ ตอนนี้เครื่องสังกะสีเคลือบหรือเครื่องอินาเมล พวกจาน ชาม กะละมัง หม้ออวย หม้อสองหู ปิ่นโตลายดอก ช้อนสังกะสี คนกลับมาชอบว่าย้อนยุคสวยดี
เหยือกน้ำอะลูมิเนียมดุนลาย ถ้วยอะลูมิเนียม โถข้าว ของวัดขาดไป ก็มาที่ร้านโชห่วย ถ่านไม้ ปูนกินหมากที่หลายคนต้องเอาไปแช่เอาน้ำด่างเพื่อแช่ถั่วงอกขายก๋วยเตี๋ยว แช่มันเทศสำหรับแกงบวดก็มาที่ร้านโชห่วย กระติกน้ำร้อน กระติกน้ำแข็งตรานกยูง ครกดิน ครกหิน เตาอั้งโล่ กระทะทองเหลือง ยังมีอีกเยอะครับ และเดี๋ยวนี้ร้านโชห่วยเขาก็ไม่ได้นิ่งอยู่กับที่ เขาปรับตัวอยู่ตลอดเวลา ร้านใหญ่หน่อยมีเครื่องใช้สำหรับการทำอาหารขายครบหมด แม้กระทั่งคนทำโต๊ะจีน กระทะใหญ่ๆ หม้อต้มซุป กระบวย กระชอนลวกเส้นมีทุกขนาด แบบทองเหลืองก็มี ที่สำคัญอีกอย่างคือร้านโชห่วยนั้น คนซื้อและคนขายจะมีการสนทนา บางทีคุยกันเป็นคุ้งเป็นแคว คุ้นเคยกันก็เยอะ ต่อรองกันได้อีกด้วย แล้วยังมีความสนุกอีก เข้าร้านโชห่วยนั้นต้องสอดส่ายสายตา เดี๋ยวก็เจอของถูกใจโดยไม่คาดฝัน นั่นเป็นโชห่วยที่ขายเครื่องใช้ต่างๆ
มาดูซูเปอร์มาร์เก็ตบ้าง จริงอยู่เดินสบาย แอร์เย็นฉ่ำ ชั้นตั้งสิ่งของเป็นระเบียบ มีมากมายให้เลือก น้ำมันพืช น้ำปลา ซีอิ๊ว นมกระป๋อง มีสารพัดราคา บะหมี่ ขนมซองๆ ข้าวสารบรรจุถุง ไข่ ของแช่แข็ง สปาเกตตี เนย ชีส แฮม เบคอน เรียกว่ามีเยอะหลากหลาย แล้วยังเตร่ไปดูเครื่องไฟฟ้าได้อีกด้วย เมื่อได้ตามต้องการแล้ว ก็หิ้วตะกร้าหรือรถเข็นมาที่แคชเชียร์ที่เหมือนหุ่นยนต์ พูดได้แต่เรื่องราคากับหยิบของใส่ถุงพลาสติก นั่นเป็นการซื้อขายแบบง่ายๆ ความต่างมันเป็นอย่างนี้ อย่างที่บอกว่าบางเวลา บางสถานการณ์ต้องเลือกเข้าสถานที่ที่ตามต้องการ คนไทยหรือผู้ซื้อรู้ด้วยตัวเองทั้งนั้น ผมก็ไป Villa, Food Land, Max Value, Big C เรียกว่าอยากได้อะไร ก็ไปที่นั่น ที่ไหนราคาห่วย แพงเกินปกติก็รู้
สำหรับร้านโชห่วยที่ใครว่าจะฉิบหายวายวอดนั้น ผมอยากให้ไปดูที่ตลาดบ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร เยื้องกับโรงพยาบาลบ้านแพ้ว เป็นตลาดริมคลองดำเนินสะดวก เป็นตลาดเก่าที่ชาวคลองดำเนินสะดวกอยากได้อะไรก็มาที่นี่ เหมือนเป็นซูเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่ แล้วมีร้านโชห่วยทุกประเภทอยู่ข้างใน ทั้งขายผ้า ขายทอง ขายของใช้ในครัว ขายพระเครื่อง อาหารสำเร็จรูป เป็ดพะโล้ กุนเชียง กะปิ ปลาเค็ม ท้ายตลาดขายปลา ขายผัก ขายหมู ความที่เป็นตลาดริมคลองพื้นทางเดินยังเป็นไม้กระดานแผ่นโตๆ อยู่ ร้านโชห่วยเหล่านั้นเป็นที่ต้องการตามฤดูกาลด้วย พอก่อนเข้าพรรษาก็มีเครื่องสังฆทาน เทียนพรรรษาขาย ก่อนโรงเรียนเปิดเทอมก็มีชุดนักเรียนขาย ตลาดแบบนี้มีการเคลื่อนไหว ถ้าไปก็จะได้เห็นวิถีชีวิตไทย เป็นไปตามธรรมชาติ นั่นเป็นตัวอย่างเปรียบเทียบครับ
เมื่อหลายปีก่อนการท่องเที่ยวตัวดีไปจัดตั้งส่วนต่อของตลาดบ้านแพ้ว ตรงริมน้ำหน้าโรงพักบ้านแพ้ว ทำเป็นตลาดน้ำ ก็ตลาดน้ำจัดตั้งสำเร็จรูปอะไรทำนองนั้น ทำได้สักไม่กี่อาทิตย์ก็เรียบร้อย ม้วนเสื่อกลับการท่องเที่ยวไป มาถึงตอนนี้ผมจะบอกว่าคนที่จะทำลายร้านโชห่วยนั้นไม่ใช่ใครที่ไหนก็การท่องเที่ยวนั่นเอง
ผมอยากเน้นว่าย่านตลาดเก่าแก่นั้นเหมือนเป็นร้านโชห่วยหลายๆ ประเภท มาประกอบกันเป็นซูเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่ เมื่อถึงยุคสมัยสังคมเปลี่ยน ย่านเก่าแก่ของเดิมนั้นก็ซบเซาไป การท่องเที่ยวตัวดีชอบไปขุดย่านเก่าแก่นั้นมาขาย พังไปเป็นแถบ ผมเคยไปตลาดคลองสวน ริมคลองประเวศบุรีรมย์ ดั้งเดิมเขามีความเป็นตัวของตัวเอง สงบ เงียบ ขลัง มีเสน่ห์ พอการท่องเที่ยวไปทำร้านโชห่วยที่มีกระถางปูนกินหมาก มีใบจากมวนบุหรี่ ตะข้องจับปลา มีป้ายสังกะสีโฆษณาเหล้าสกอตวิสกี้ที่หายไปจากโลกนี้แล้ว ร้านขายยา แผงขายหมูที่ยังใช้ตาชั่งหูหิ้วหายหมด หน้าร้านคนกรุงเทพฯ ไปเช่าหน้าร้านขายเสื้อยืด ขายกาแฟสด ขายหมวก โปสต์การ์ดขายเต็มไปหมด เจ้าของดั้งเดิมไปนั่งซุกอยู่หลังร้าน ผมไปเห็นแล้วอนาถตา
ไม่ต้องอะไรที่ตลาดสามชุก ที่การท่องเที่ยวภูมิใจนักหนาว่าประสบความสำเร็จในเรื่องการท่องเที่ยว ร้านโชห่วยประเภทของใช้เอาเครื่องเคลือบสังกะสีมาตั้งเรียงเต็มหน้าร้าน ใช่มันเป็นของใช้ ที่คนเคยซื้อ แต่ไม่ใช่ลักษณะของการขาย มันเป็นการโชว์เพื่อเป็นสัญลักษณ์เท่านั้น สมมติถ้าตลาดนั้นซาความนิยม ร้านโชห่วยนั้นจะเหลืออยู่ไหม ตลาดน้ำริมคลองอัมพวา ตลาดดอนหวายนั่นเป็นอย่างไร ผมว่าต้องเข้าใจกันใหม่แล้วว่าซูเปอร์มาร์เก็ตบริษัทข้ามชาติ ทำอะไรร้านโชห่วยไม่ได้ ที่จะทำลายได้ก็คือการท่องเที่ยวของไทยนั่นเอง


