ฟอร์เวิร์ด เดอะ เคียวร์ ความช่วยเหลือที่ส่งผ่านซองยาเหลือใช้
โดย...วันพรรษา อภิรัฐนานนท์ ภาพ... เดอะ ลีโอ เบอร์เนทท์ กรุ๊ป
โดย...วันพรรษา อภิรัฐนานนท์ ภาพ... เดอะ ลีโอ เบอร์เนทท์ กรุ๊ป
ปรบมือดังๆ ให้กับผู้สร้างสรรค์งานโฆษณาเพื่อช่วยเหลือสังคม บริษัท เดอะ ลีโอ เบอร์เนทท์ กรุ๊ป ประเทศไทย ที่คว้ารางวัลบรอนซ์ไลออน (Bronze Lion) จากงานประกวดโฆษณาระดับโลก คานส์ ไลออนส์ 2016 (Cannas Lions 2016) ในสายฟาร์มาซีแอนด์เฮลท์&เวลเนสส์ รวมถึงต้องปรบมือดังๆ ต่อไปยังโรงพยาบาลอุ้มผาง จ.ตาก เจ้าของโครงการยาขยะ หรือต่อมาใช้ชื่อ ฟอร์เวิร์ด เดอะ เคียวร์ (Forward The Cure) การช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยยาเหลือทิ้ง
นพ.วรวิทย์ ตันติวัฒนทรัพย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลอุ้มผาง จ.ตาก เล่าให้ฟังถึงโครงการฟอร์เวิร์ด เดอะ เคียวร์ ส่งต่อความช่วยเหลือเพื่อผู้ยากไร้ว่า จัดทำขึ้นตั้งแต่ปี 2553 ผู้ริเริ่มโครงการคือ เทวฤทธิ์ ประเพชร หัวหน้าฝ่ายเภสัชกรรม โรงพยาบาลอุ้มผาง ซึ่งมองเห็นปัญหาในการปฏิบัติตามข้อกำหนดการใช้ยาของผู้ป่วยส่วนใหญ่ ซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อย โดยเฉพาะกะเหรี่ยง ซึ่งไม่มีความรู้ความเข้าใจในภาษาไทยกลางมากนัก
“เราประสบปัญหาผู้ป่วยกินและใช้ยาไม่ถูกต้อง หลายคนอ่านหนังสือไม่ออก หลายคนฟังไม่เข้าใจ เราจะแก้ปัญหานี้อย่างไร เพราะเมื่อกินยาไม่ถูก โรคที่เป็นก็รักษาไม่หาย” นพ.วรวิทย์เล่า
ฝ่ายเภสัชกรรมเสนอให้ใช้โครงการถุงผ้าดิบ แจกจ่ายถุงผ้าแก่ผู้ป่วยใส่ยากลับไปกินที่บ้าน และเมื่อกลับมาพบหมอตามนัดก็ให้นำถุงผ้านี้กลับมาด้วย เพื่อเช็กหรือตรวจสอบนับเม็ดยาที่เหลือมาว่าผู้ป่วยกินครบหรือถูกต้องหรือไม่ วิธีนี้แก้ปัญหาการปฏิบัติตามคำสั่งแพทย์ของผู้ป่วย (Patient Compliance) ตอบโจทย์ของผู้ให้การรักษาที่ต้องการปรับปรุงเรื่องการกินยาของผู้ป่วย รวมทั้งยังตอบโจทย์ที่สำคัญในเรื่องการตระหนักรู้เกี่ยวกับการใช้ยากินยาของผู้ป่วยเอง ทั้งนี้ ยานำส่งคืนที่มีประสิทธิภาพและยังไม่หมดอายุเท่านั้น ที่โรงพยาบาลจะคัดกรองก่อนจะแจกจ่ายต่อไปยังผู้ป่วย
“ปีแรกมียาที่นำส่งคืนถึง 96% คิดเป็นเงินกว่าสี่แสนบาท จุดประสงค์ของโครงการนี้ไม่ใช่เพราะเราต้องการยา แต่เราต้องการปรับปรุงปัญหาการกินยาไม่ตรงกับคำสั่งแพทย์ ซึ่งทำให้ควบคุมโรคไม่ได้”
โรงพยาบาลอุ้มผางมีคนไข้ในพื้นที่ 6.8 หมื่นคน (ณ เดือน ก.ค. 2557) ครึ่งหนึ่งเป็นประชาชนที่ไม่มีสิทธิตามหลักประกันสุขภาพใดๆ ประชาชนส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในศูนย์อพยพ หรือตามแนวรอยต่อตะเข็บชายแดน ความต้องการใช้ยาไม่เพียงพอกับที่ได้จากงบประมาณรัฐ จึงต้องดิ้นรนในเรื่องยาเพื่อให้เพียงพอกับความต้องการที่แท้จริง อย่างไรก็ตาม เรื่องยาและการบริหารจัดการยาให้เพียงพอเป็นเพียงส่วนหนึ่งของวัตถุประสงค์โครงการเท่านั้น
นพ.วรวิทย์กล่าวว่า สาเหตุที่แท้จริงของโครงการนอกจากจะคือการปรับปรุงเรื่องการกินยาใช้ยาหรือการปฏิบัติตามคำสั่งแพทย์ของผู้ป่วยแล้ว ยังมีประเด็นสำคัญในเรื่องของการลดความสูญเสียจากการใช้ทรัพยากรยาที่สูญเปล่าจากการใช้ไม่ถูกต้องของผู้กินเอง เหลือทิ้งเหลือขว้าง ทั้งจากความไม่เข้าใจหรือเพราะความสะดวกในการรับยาจากโครงการสิทธิประกันสุขภาพของรัฐต่างๆ
สำคัญที่สุดคือการมุ่งใช้ทรัพยากรให้คุ้มค่า นพ.วรวิทย์เล่าว่า ตัวเลขจากงานวิจัยระบุว่ามูลค่าของยาเหลือใช้จากโรงพยาบาลจำนวน 1,000 แห่งในประเทศไทยมีมูลค่าสูงถึง 1,000 ล้านบาท คิดเป็นมูลค่าสูญเสียมหาศาล การเรียกกลับคืนยาที่ไม่ได้ใช้กลับมาได้ ย่อมหมายถึงการลดต้นทุนของประเทศ โครงการเริ่มจากเล็กไปใหญ่ เริ่มจากตัวเองคือโรงพยาบาลอุ้มผางก่อนจะเหนี่ยวนำโรงพยาบาลรัฐหรือหน่วยงานอื่น แนวร่วมที่คาดหวังว่าจะมีมากขึ้นและมากขึ้น
นอกจากนี้ คือความอันตรายของยาที่หมดอายุเอง โดยยานั้นเป็นสารเคมี หลายตัวเป็นยาฆ่าเชื้อที่แม้เมื่อหมดอายุก็ไม่ได้หมดฤทธิ์ เพียงแต่อ่อนฤทธิ์ลงไปเท่านั้น ชาวบ้านส่วนใหญ่เมื่อใช้ยาไม่หมดมักโยนทิ้งเป็นขยะในถังขยะ ซึ่งโอกาสที่เชื้อจะดื้อยามีได้ หมายถึงประชาชนต้องแบกรับภาวะเสี่ยงของเชื้อโรคที่ดื้อยาเพิ่มขึ้น
“ยาเป็นสารเคมีอันตราย ต้องกำจัดให้ถูกวิธี นั่นคือต้องเผาทำลายที่อุณหภูมิ 600 องศาเซลเซียสตามหลักวิชาแพทย์ ไม่ให้ปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อม” นพ.วรวิทย์กล่าว
สถานการณ์เรื่องการปฏิบัติตามคำสั่งแพทย์ โดยชาวบ้านและชาวกะเหรี่ยงกินยาได้ถูกต้องครบถ้วนเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ จนต่อมาโรงพยาบาลอุ้มผางได้พัฒนาจากโครงการถุงผ้าดิบกลายเป็นโครงการยาขยะ หรือยาที่ผู้ป่วยไม่ใช้แล้วหรือทิ้งไว้ที่บ้าน นำยากลับมาที่โรงพยาบาลเพื่อแจกจ่ายยาต่อผู้ป่วยที่ยากไร้ต่อไป
ทั้งนี้ ยาเหลือใช้ที่นำคืนกลับมามีปริมาณน้อยลงทุกปี จนถึงปัจจุบันปี 2558 มียาที่คนไข้นำส่งคืนคิดเป็นมูลค่าแค่ประมาณ 3 หมื่นบาทเท่านั้น โดยยาที่ส่งคืนจากพื้นที่ในชุมชนเองน้อยลงเรื่อยๆ ขณะที่ยาซึ่งรับบริจาคมาจากนอกพื้นที่มีมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่น เมื่อเร็วๆ นี้ก็ได้รับบริจาคยาเหลือใช้จาก สสส. มูลค่าถึง 10 ล้านบาท ต้องใช้รถสิบล้อของทหารเรือขนมาจากกรุงเทพฯ
“เรื่องของโครงการได้ถูกกระจายไปด้วยโซเชียลมีเดียและอะไรก็ตาม วันหนึ่งๆ จะมียาบริจาคมาที่โรงพยาบาลหลายสิบกล่อง นี่เป็นเรื่องที่เราได้สัมผัสกับจิตใจของผู้คน ความรักความเมตตาอยากช่วยเพื่อนมนุษย์ ถือเป็นพันธกิจของเราที่จะนำยาไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด”
นพ.วรวิทย์กล่าวว่า สังคมไทยยังมีคนอีกมากที่ไม่มียาจะใช้ ประเทศไทยไม่ได้แบนราบ มีทั้งภูเขาสูงและเหวลึก มาช่วยกันเกลี่ยหรืออย่างน้อยทำให้ภูเขากับเหวไม่แตกต่างกันมากเกินไป ต้องขอบคุณกลุ่มบริษัท เดอะ ลีโอ เบอร์เนทท์ รวมทั้งร่วมดีใจกับรางวัลระดับโลกที่ได้รับ ฟอร์เวิร์ด เดอะ เคียวร์ คืองานสร้างสรรค์ที่ทำให้ความเมตตามีประสิทธิภาพ ได้บอกต่อและส่งผ่านถึงผู้ที่ต้องการอย่างแท้จริง
สกล คณาวุฒิกานต์ หัวหน้ากลุ่มฝ่ายสร้างสรรค์ บริษัท เดอะ ลีโอ เบอร์เนทท์ กรุ๊ป ประเทศไทย เล่าว่า กลุ่มบริษัทได้รับรู้ถึงโครงการรับบริจาคยาของโรงพยาบาลอุ้มผางแล้วคิดว่าเป็นโครงการที่ดี โจทย์คือจะทำอย่างไรเพื่อให้โครงการได้รับการบอกเล่าสู่คนจำนวนมาก ในฐานะสื่อที่ต้องการเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจในเรื่องยาและความขาดไร้ยา ซึ่งเป็นปัจจัยสี่พื้นฐานของมนุษย์
“บางคนเก็บยาไว้เฉยๆ ผมเชื่อว่ามีหลายคนที่ไม่รู้ว่า ยาที่เราเหลือจากการใช้รักษาพยาบาลตัวเราเองแล้ว นอนทิ้งอยู่ในตู้ยา ไม่ได้ใช้ ไม่ได้กิน มันมีค่าแค่ไหนกับคนที่ไม่มียา” สกลเล่า
ชิ้นงานโฆษณาที่ได้รับรางวัลเป็นซองใส่ยาเหลือทิ้ง จ่าหน้าซองโรงพยาบาลอุ้มผาง จ.ตาก วางไว้ตามจุดที่กำหนด ได้แก่ ร้านจำหน่ายยาและโรงพยาบาลหลายแห่งทั่วประเทศ ด้านหน้าเป็นโลโก้โครงการ ฟอร์เวิร์ด เดอะ เคียวร์ ส่วนด้านหลังเป็นภาพการ์ตูนที่สื่อถึงการส่งต่อยาแก่ผู้ยากไร้ เช่น “ถ้าพี่รักษาหายแล้ว หนูขอนะ” ผู้บริจาคเพียงแค่ใส่ยาที่ยังไม่หมดอายุ และยังอยู่ในผนึกที่ดี ใส่ลงในซองแล้วปิดผนึกซอง ส่งไปที่ไปรษณีย์หรือตู้รับบริจาคของโครงการ
หนึ่งปีเศษของการรณรงค์โครงการซองยาเหลือใช้ ฟอร์เวิร์ด เดอะ เคียวร์ นับว่าได้รับผลตอบรับอย่างดี ประชาชนมากมายหลั่งไหลความช่วยเหลือไปยัง
โรงพยาบาลอุ้มผาง ส่งต่อความช่วยเหลือผ่านซองยาและเม็ดยาที่ไม่ได้ใช้แล้ว ความรักความอบอุ่นที่เมื่อเปิดซองแล้วกรุ่นกำจายถึงกัน ทำหน้าที่บอกกล่าวความปรารถนาดีที่ไม่สิ้นสุด
สำหรับรางวัลใหญ่บรอนซ์ไลออน 2016 ที่ได้รับ สกลกล่าวว่า แน่นอนว่านำมาซึ่งความดีใจและความภาคภูมิใจ แต่ยิ่งไปกว่านั้นคือการได้ทำหน้าที่ของสื่อ ที่บอกต่อความดีงามของผู้คนในสังคม ถ้าคุณมียาเหลือใช้ที่ยังไม่หมดอายุ กรุณาส่งต่อยานั้นเพื่อผู้คนอีกมากที่กำลังต้องการ
ซองยาในโครงการ ฟอร์เวิร์ด เดอะ เคียวร์ ประชาชนที่สนใจบริจาคสามารถขอรับได้ที่โรงพยาบาลทั่วไป รวมทั้งที่เดอะ ลีโอ เบอร์เนทท์ กรุ๊ป หมายเลขโทรศัพท์ 02-684-5555 กรณีขององค์กรบริษัทห้างร้านที่มีความประสงค์จะร่วมบุญ พิมพ์ซองยาเหลือใช้เพื่อแจกจ่าย ก็สามารถติดต่อได้ที่เบอร์เดียวกัน
ยาที่คุณไม่ต้องการ มีคนอีกมากที่ต้องการมัน!


