กรีนตารา...พระผู้เป็นแสงสว่างท่ามกลางความมืดมน
พระอารยตารา ทรงเป็นพระมหาโพธิสัตว์แห่งความกรุณาในร่างของสตรีที่ชาวทิเบตรักและบูชามากที่สุด...
พระอารยตารา ทรงเป็นพระมหาโพธิสัตว์แห่งความกรุณาในร่างของสตรีที่ชาวทิเบตรักและบูชามากที่สุด...
เรื่อง : แม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต
“ท่ามกลางท้องฟ้าอันมืดมิดแสงน้อยๆ ของดวงดาวจะเป็นดังเครื่องนำทางให้เรือกลับสู่ฝั่ง เฉกเช่นกรีนตารา...ที่จะเป็นแสงสว่างท่ามกลางความมืดมนให้ผู้คนเดินไปสู่การบรรลุธรรม”
คือความเปรียบอันงดงามที่มีคนเคยเอ่ยอ้างไว้ หากถามว่าเกินจริงหรือไม่ ก็คงตอบได้อย่างมั่นใจว่า...ไม่เลย
พระอารยตารา ทรงเป็นพระมหาโพธิสัตว์แห่งความกรุณาในร่างของสตรีที่ชาวทิเบตรักและบูชามากที่สุด เล่ากันว่าทรงกำเนิดมาจากน้ำพระเนตรของพระอวโลกิเตศวร คราวที่พระองค์ทรงกันแสงเมื่อทอดพระเนตรเห็นสรรพสัตว์ตกอยู่ในทุกขเวทนา แต่พระองค์ไม่สามารถจะช่วยเหลือทั้งหมดได้ ในน้ำพระเนตรหยดหนึ่งมีดอกบัวผุดขึ้น เมื่อดอกบัวบานออก พระตาราทรงปรากฏพระวรกาย พระองค์ตรัสแก่พระอวโลกิเตศวรว่าจะทรงช่วยพระองค์อีกแรงหนึ่งในการนำพาสรรพสัตว์ให้ข้ามทะเลวัฏสังสารไปยังอีกฟากฝั่งแห่งปัญญา หากสัตว์ทั้งหลายยังไม่หลุดพ้น ไม่ว่าพวกเขาจะเวียนว่ายตายเกิดไปอีกกี่กัลป์ พระองค์จะยังคงอยู่ในสังสารวัฏเพื่อช่วยเหลือพวกเขา และทรงตั้งพระปณิธานไว้ว่าจะขอเกิดแต่ในร่างสตรีเท่านั้น ทั้งนี้เพื่อแสดงว่าการเป็นสตรีไม่ได้เป็นอุปสรรคใดๆ ต่อการตรัสรู้
เมื่อกลางปี พ.ศ. 2549 หรือเมื่อ 4 ปีที่ผ่านมา ข้าพเจ้าได้รับมอบ “กรีนตารา” ซึ่งพระบาทซ้ายเป็นปางสมาธิ ในขณะที่พระบาทขวาพร้อมก้าวเดินเพื่อให้ความช่วยเหลือมวลมนุษยชาติ และมีดอกบัวรองอยู่ที่พระบาท จากเมืองแวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา โดยกัลยาณธรรมผู้มอบให้ เล่าให้ฟังว่า มองโกเลียในอดีตกาลเป็นประเทศที่พระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรืองอย่างมาก ต่อมามีผู้รุกราน เข้าเผาทำลายวัดวาอาราม รูปเคารพและศิลปะต่างๆ และฆ่านักบวชไปกว่าครึ่ง กรีนตาราองค์นี้ชาวบ้านช่วยกันนำฝังดิน เหลือเพียงยอดเศียรที่โผล่พ้นดิน จากนั้นก็ผ่านหลากมือหลายฝ่าย แต่ที่สุดก็หยุดอยู่ที่เธอ และเธอเห็นควรว่า “กรีนตารา” ควรอยู่ในที่ที่สามารถช่วยเหลือคนได้จริง ด้วยมิใช่เป็นเพียงงานศิลปะสวยงามที่มีไว้ประดับบ้าน แม้จะเคยมีพิพิธภัณฑ์ติดต่อขอเพื่อนำไปเก็บไว้ ทว่าเธอก็ยังยืนยันเจตนาเดิมที่จะเก็บไว้เพื่อรอบุคคลที่ทำงานเพื่อช่วยเหลือผู้หญิงอย่างแท้จริงมารับไป
และเสถียรธรรมสถาน คือ ที่ที่เธอรอคอย เธอจึง...
“ขอมอบตารา...กลับบ้าน”
จากวันนั้น “กรีนตารา” จากประเทศมองโกเลีย...รูปบูชาอันหาค่ามิได้ที่จะนำพาให้พ้นทุกข์ร่วมกันจากกัลยาณธรรมแดนไกล อายุกว่า 2,000 ปี ก็ได้มาประดิษฐาน ณ เสถียรธรรมสถาน นับเป็นหนึ่งกำลังใจอันยิ่งใหญ่ที่ทำให้เสถียรธรรมสถานมีความสุขกับการทำงานรับใช้มนุษยชาติในแง่งามของความเป็นแม่ที่มีจิตวิญญาณของการเยียวยาโลก และพวกเราทุกคนก็ได้ทำงานอย่างเข้มแข็ง ในอันที่จะทำให้ผู้หญิงและเด็กที่อยู่บนหนทางแห่งธรรมได้เรียนรู้ว่า ถ้าผู้หญิงคนหนึ่งได้ทำหน้าที่ของแม่ สอนเด็กให้รู้จักธรรม ศึกษาธรรมเพื่อทำให้เด็กคนนั้นมีใจของตัวเองเป็นที่พึ่งได้ ซึ่งนั่นหมายความว่า...ผู้หญิงจะได้เรียนรู้ที่จะกลับไปใช้หัวใจของโพธิสัตว์ทำงานเพื่อมวลมนุษยชาติอย่างยั่งยืนต่อไป
และเมื่อขึ้น 15 ค่ำเดือน 9 วันพระใหญ่ของปีที่ผ่านมา ชุมชนเสถียรธรรมสถานได้ตั้งใจร่วมกันว่าเราจะไม่ว่างเว้นจากการภาวนา ด้วยการเปิดหอประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุตลอด 24 ชั่วโมง ทั้ง 7 วัน จากที่แต่ละวันนั้นเสถียรธรรมสถานก็มีผู้คนเข้ามาปฏิบัติธรรมเป็นจำนวนมากมายอยู่แล้ว ดังนั้นเพื่อเป็นการเพิ่มช่องทางในการภาวนาให้ได้กว้างขวางมากขึ้น ข้าพเจ้าจึงได้ดำริที่จะสร้างสถูปมนต์ขึ้น ณ เสถียรธรรมสถาน เพื่อใช้เป็นที่ภาวนาและสวดมนต์
ไม่นานจากนั้น ด้วยความร่วมแรงร่วมใจที่จะทำงานตามพุทธประสงค์ในลักษณะและวัฒนธรรมที่แตกต่าง แต่เป้าหมายอันเดียวกัน คือการเป็นอิสรชน สถูปมนต์อันประกอบด้วยผืนธงที่มีรูป “กรีนตารา” และคาถาบูชาพระแม่ตารากว่า 1,000 ผืน ก็ตั้งตระหง่านขึ้น
และปีนี้ เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา พุทธชยันตี 2,600 ปี แห่งการตรัสรู้ธรรมขององค์สมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า และเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เสถียรธรรมสถาน ชุมชนแห่งการเรียนรู้ของนักบวชสตรี ขอเชิญร่วมมหากุศล สร้าง “สถูปมนต์จิตประภัสสร” และร่วมพิธีอัญเชิญผืนธงผ้าไหมสีทองประทับภาพพระอารยตารา มหาโพธิสัตว์ 1,600 องค์ และคาถาบูชา ซึ่งเป็นสถูปธงมนต์สีทององค์แรกของโลก ในวันที่ 8 ส.ค. 2553 เวลา 16.59 น. บนพื้นที่สร้างสาวิกาสิกขาลัย ณ เสถียรธรรมสถาน
จาก 1 องค์ “กรีนตารา” ที่ได้รับมอบ บัดนี้เคลื่อนสู่ 1,600 องค์ ที่จะส่งแสงสว่างทั้งในยามสว่างและยามมืด...ดังเพื่อนของทุกผู้นามที่ใฝ่หาพระธรรมอีกครั้ง
วันนี้ “ตารา” ได้ “กลับบ้าน”...กลับเข้ามาอยู่ในหัวใจของพวกเราทุกคนแล้ว จึงขอเชิญชวนทุกคนมาร่วมมหากุศล...เพื่อให้เบิกบานอยู่บนมรรคาแห่งการตื่นร่วมกัน
ธรรมสวัสดี
***ขอเชิญร่วมปฏิบัติธรรมเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ตั้งแต่วันนี้ถึง 15 ส.ค. และชม “เพลงกล่อมแม่” ฟรีคอนเสิร์ต Real Love เพื่อแม่...ผู้หญิงที่สร้างลูกเพื่อโลก พบกับ ปู-อานนท์ สายแสงจันทร์ และวง Black Head ป๊อด-ธนชัย อุชชิน, ภูสมิง หน่อสวรรค์, ปู-พงษ์สิทธิ์ คัมภีร์, ไท ธนาวุฒิ, เท่-อุเทน พรหมมินทร์ และศิลปินรับเชิญ...ผุสชา โทณะวณิก เวลา 17.00–19.00 น. สนใจติดต่อเสถียรธรรมสถาน 02-509-0085 และ www.sdsweb.org


