ทายาทหัตถศิลป์ สืบทอดจิตวิญญาณสุนทรียศาสตร์ไทย
ครูช่างฝีมือ ชุมชนหัตถกรรมและผลงานหัตถศิลป์ที่มีอัตลักษณ์ไทยโดดเด่น คือวิถีวัฒนธรรม วิถีแห่งภูมิปัญญา
โดย...พริบพันดาว ภาพ ศ.ศ.ป.
ครูช่างฝีมือ ชุมชนหัตถกรรมและผลงานหัตถศิลป์ที่มีอัตลักษณ์ไทยโดดเด่น คือวิถีวัฒนธรรม วิถีแห่งภูมิปัญญา ซึ่งสามารถบอกได้อย่างเต็มปากเต็มคำว่า นี่คืองาน “ประณีตหัตถศิลป์” ที่เป็นงานชั้นยอดของสุนทรียศาสตร์ภูมิปัญญาไทยพื้นถิ่น
ที่ผ่านมาหลายปี มีการคัดสรรทายาทช่างศิลปหัตถกรรม ยกระดับสู่ช่างหัตถศิลป์ เพื่อบ่มเพาะประกาศเกียรติคุณให้มุ่งมั่นสรรค์สร้างงานอันประณีตให้อยู่คู่แผ่นดินไทย ในปี 2559 นี้ ก็เช่นเดียวกัน ก็มีคัดเลือกสุดยอดช่างฝีมือผู้สืบทอดศิลปหัตถกรรมและอนุรักษ์งานศิลปหัตถกรรมมรดกไทย และผลงานที่ต่อยอดความงดงามให้สอดคล้องร่วมสมัยกับวิถีชีวิตผู้คนปัจจุบัน
13 ยอดฝีมือประณีตหัตถศิลป์รุ่นใหม่
ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน) หรือ ศ.ศ.ป. จัดโครงการประกวด “เชิดชูทายาทช่างศิลปหัตถกรรม” ภายใต้งานเทศกาลนวัตศิลป์นานาชาติ 2559 ซึ่งได้คัดเลือกช่างฝีมือผู้สืบทอดงานหัตถกรรมจากงานศิลปหัตถกรรมใน 9 สาขา คือ สาขาเครื่องไม้ เครื่องจักสาน เครื่องดิน เครื่องทอ เครื่องรัก เครื่องโลหะ เครื่องหนัง เครื่องกระดาษ และเครื่องหิน และได้นำผลงานของแต่ละคนมาแสดงในงานเพื่อรอการตัดสินให้เป็นสุดยอดช่างฝีมือทายาทหัตถกรรมประจำปี 2559
สำหรับการคัดเลือกมีหลักการพิจารณา คือ 1.ด้านการอนุรักษ์ สาขาเทคนิคงานศิลปหัตถกรรมที่มีการสืบทอดมาอย่างยาวนานหรือกำลังจะสูญหาย 2.ด้านฝีมือ องค์ความรู้และนวัตกรรมเชิงภูมิปัญญา ทักษะฝีมือของทายาท การสืบทอดองค์ความรู้ดั้งเดิม การสร้างสรรค์เทคนิคใหม่ 3.ด้านสังคม เป็นที่ยอมรับด้านตัวบุคคลและผลงาน มีรางวัลเกียรติคุณจากหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนทั้งในและต่างประเทศ และการร่วมกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับงานศิลปหัตถกรรมที่ดำเนินอยู่ และ 4.ด้านความร่วมสมัย รูปแบบสินค้าหรือการนำเสนอสินค้าและเรื่องราว
ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน) อัมพวัน พิชาลัย กล่าวว่า
“รู้สึกปลาบปลื้มใจที่ปัจจุบันยังมีช่างฝีมือทั้งที่เป็นผู้ที่สืบสายเลือดโดยตรงจากครูช่างหรือช่างศิลปหัตกรรม บุคคลภายในครอบครัว รวมถึงลูกศิษย์ที่สืบสานงานศิลปหัตถกรรม ให้ความสำคัญและมุ่งมั่นในการสานต่องานด้านนี้อยู่เป็นจำนวนมากตามสาขาต่างๆ”
ประเภทงานหัตถกรรมเครื่องกระดาษ (ตัดกระดาษรังผึ้ง) ปอลิณ หยุ่นตระกูล ช่างตัดกระดาษรังผึ้งผู้ที่อุทิศตนเพื่ออนุรักษ์งานศิลปะ จาก อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก ทายาทรุ่นที่ 2 ซึ่งเป็นผู้สืบทอดงานตัดกระดาษรังผึ้งจากครูเปี่ยม ส่งชื่น ผู้เป็นพ่อ ด้วยมีความคิดเห็นว่า การตัดกระดาษรังผึ้งเป็นงานฝีมือโบราณที่เริ่มมีน้อยลง ปอลิณ จึงคิดสานต่ออุดมการณ์ของพ่อ ผู้อุทิศตนให้กับงานกระดาษและทุ่มเทมาทั้งชีวิตโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน การตัดกระดาษรังผึ้งนิยมนำมาประดับในงานรื่นเริง เช่น พิธีแต่งงาน ขึ้นบ้านใหม่ พิธีบวชนาค แต่ปัจจุบันความนิยมกลับลดน้อยลงทำให้งานตัดกระดาษรังผึ้งหาดูได้ยาก
ประเภทงานหัตถกรรมเครื่องจักสาน พีระศักดิ์ หนูเพชร ช่างงานจักสานใยตาล นักพัฒนาสินค้าจาก จ.สงขลา ทายาทรุ่นที่ 2 เป็นผู้สานต่องานจักสานใยตาลจากคุณแม่เสริญสิริ หนูเพชร โดยแรกเริ่มไม่สนใจงานจักสานเลยแม้แต่น้อย แต่ด้วยความที่เห็นความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะพัฒนางานอย่างไม่หยุดนิ่งของแม่ จึงเกิดการซึมซับอยากสานต่อเจตนารมณ์ที่แม่สร้างงานจักสานมาให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย
ประเภทงานหัตถกรรมเครื่องปูนปั้น สมชาย บุญประเสริฐ ช่างฝีมืองานปูนปั้นสด ผู้มีใจรักและความอดทนเป็นเลิศจาก จ.เพชรบุรี ทายาทรุ่นที่ 3 เป็นลูกศิษย์เอกที่สั่งสมประสบการณ์จากคุณอาทองร่วง (อาเขย) ผู้เป็นช่างฝีมือดั้งเดิมที่หาใครมีฝีมือเปรียบได้ยาก งานปูนปั้นสดเป็นงานที่ต้องใช้ทักษะกระบวนการฝีมือเชิงช่างหลายแขนงต้องเป็นผู้มีความอดทน และมีใจรักจึงจะสามารถทำงานได้สำเร็จ
ประเภทงานหัตถกรรมเครื่องดิน (ประติมากรรม, น้ำต้น) กิตติศักดิ์ ฟั่นสาย ช่างฝีมือผู้หลงใหลในงานศิลปะบวกกับความมุ่งมั่นในงานปั้นดิน จาก จ.เชียงใหม่ ทายาทรุ่นที่ 3 เป็นช่างฝีมืองานปั้นดินจากเชียงใหม่เดินรอยตามจากงานฝีมือคุณน้าสมทรัพย์ ด้วยความหลงใหลในงานศิลปะตั้งแต่ยังเด็กจึงเริ่มศึกษาและเรียนอยู่อย่างจริงจังหลังจากได้เรียนรู้ขั้นตอนในเบื้องต้นแล้วจึงนำมาพัฒนาต่อในเรื่องของรูปแบบเพราะมีความคิดที่ว่าศิลปะเป็นสิ่งที่ไม่ตายตัว สามารถต่อยอดเป็นงานที่มีรูปทรงที่น่าสนใจได้หลากหลาย
ประเภทงานหัตถกรรมเครื่องไม้ พิเชฎฐ์ เกิดทรง ช่างแกะสลักเครื่องดนตรีไทยที่ถูกหล่อหลอมมาตั้งแต่เด็กแห่งเมืองพระนครศรีอยุธยา เป็นทายาทรุ่นที่ 2 เป็นช่างฝีมือต่อยอดจากครอบครัวคุณพ่อพิมพ์และคุณแม่บุญศรี เกิดทรง จากที่ได้ร่ำเรียนการเขียนลายไทยและการแกะสลักเครื่องไม้จากคุณพ่อพิมพ์และงานลงรักปิดทองจากคุณแม่บุญศรีตั้งแต่อายุได้เพียง 12 ปี หลังจากลาออกจากโรงเรียนจึงหันมาช่วยคุมงานของครอบครัวอย่างเต็มตัว โดยเริ่มแรกได้ศึกษาการเขียนลายไทย ลายกนกจนชำนาญ และสามารถเริ่มแกะสลักเครื่องดนตรีได้
ประเภทงานหัตถกรรมเครื่องรัก แดง แจ่มจันทร์ ที่ผันตัวเองจากชาวนามาเป็นช่างเครื่องรักประดับมุก จ.นครปฐม ทายาทที่ได้สืบทอดจากครูจักรกริศษ์ สุขสวัสดิ์ จากเดิมเป็นชาวนาผู้ประกอบอาชีพเกษตรกรรมตามวิถีของครอบครัว ต่อมาได้รู้จักและคุ้นเคยกับครูจักรกริศษ์จึงหันเหชีวิตมาเอาดีทางด้านงานเครื่องรักประดับมุก ซึ่งเริ่มแรกเป็นเพียงลูกมือของครูจักรกริศษ์เพียงเท่านั้น งานลงรักประดับมุกเป็นงานที่ต้องใช้ทักษะฝีมือสูง เป็นงานที่นับวันจะหาผู้สืบทอดได้ยาก
ประเภทงานหัตถกรรมเครื่องโลหะ มี 2 คน คือ ซุลฟาการ์ อะตะบู ช่างทำกริชรามันที่เคร่งครัดด้วยจิตวิญญาณ จ.ยะลา ทายาทรุ่นที่ 7 เป็นช่างฝีมือผู้สืบทอดการทำอาวุธโบราณ สืบทอดมาจากครูตีพะลี อะตะบู ผู้เป็นพ่อ เป็นช่างฝีมือผู้ผันตัวเองมาเป็นผู้สืบสานงานทำอาวุธโบราณ โดยเรียนรู้ประวัติศาสตร์ความเป็นมาของการทำกริชรามัน ที่ได้รับการถ่ายทอดจากผู้เป็นพ่อ โดยการเป็นช่างทำกริชโบราณที่ดีต้องมีสมาธิจิตวิญญาณและสามารถยึดข้อปฏิบัติที่ถูกทำสืบต่อกันมา 25 ข้อ อย่างเคร่งครัดจึงจะสามารถสร้างกริชที่สมบูรณ์ได้อย่างแท้จริง ไม่ใช่ใครก็ได้ที่สามารถมาทำกริชรามันโบราณนี้ได้เพราะต้องอาศัยความเข้าใจและทักษะเชิงช่างที่ต้องฝึกฝนมาเป็นระยะเวลานาน
เพชรรัตน์ เจียวทอง ช่างเครื่องประดับเงินโบราณ จ.สุรินทร์ ทายาทรุ่นที่ 2 เป็นช่างฝีมือผู้สืบสานต่อและแบ่งเบาภาระหน้าที่ของพ่อคือ คุณพ่อป่วน เจียวทอง ในการสานต่อเครื่องเงินลายโบราณ งานที่รังสรรค์ด้วยความประณีตใส่ใจทุกรายละเอียด เพราะปัจจุบันช่างฝีมือมีน้อยลงแต่ชุมชนบ้านโชคยังคงมีช่างฝีมือผู้อนุรักษ์และทำงานกันอยู่ จึงไม่มีคู่แข่งทางการตลาดมากนักเพราะชื่อเสียงที่สั่งสมมานานทำให้ผู้ซื้อบอกกันปากต่อปากจึงมีรายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่อง จึงส่งผลให้งานหัตถศิลป์อันทรงคุณค่าแขนงนี้คงอยู่ได้ในปัจจุบัน
ประเภทงานหัตถกรรมเครื่องทอ มี 5 คน คือ ธนพล รักษาวงศ์ อายุ 28 ปี ช่างฝีมือกลุ่ม “ดาหลาบาติก” จ.กระบี่ ทายาทรุ่นที่ 3 เป็นช่างฝีมือผู้สืบสานหัตถศิลป์ไทย นับเป็นภูมิปัญญาประจำท้องถิ่นภาคใต้ที่บรรพบุรุษในครอบครัวถ่ายทอดสืบต่อกันมาให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง นอกเหนือจากในท้องถิ่นของตนศิลปะบนผืนผ้าที่มีเอกลักษณ์ในการใช้น้ำเทียนสร้างสรรค์ ให้เกิดลวดลาย จึงคิดพัฒนารูปแบบและสีสันให้มีความน่าสนใจมากกว่าในอดีต
ธนกฤต คล้ายหงษ์ ช่างฝีมือผ้าไหมมัดหมี่ จ.ขอนแก่น ทายาทช่างฝีมือผู้ที่เรียนรู้กระบวนการทอผ้าไหมมัดหมี่จากครูช่าง สงคราม งามยิ่ง ซึ่งเป็นทั้งพ่อตาและครูผู้สั่งสอนจนเกิดความเชี่ยวชาญ เมื่อได้มีความรู้และประสบการณ์จึงพัฒนาลวดลายใหม่ๆ โดยนำลายดั้งเดิมมาดัดแปลงให้มีความทันสมัยเหมาะสมกับยุคปัจจุบันจนได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี
นิดดา ภูแล่นกี่ ช่างฝีมือผ้าไหมแต้มหมี่ ภูมิปัญญาดั้งเดิม จ.ขอนแก่น ทายาทรุ่นแรก ที่ริเริ่มงานผ้าไหมแต้มหมี่ที่คิดพัฒนากระบวนการจากการมัดหมี่เปลี่ยนมาใช้การแต้มหมี่ โดยผ้าไหมมัดหมี่เป็นภูมิปัญญาดั้งเดิมของท้องถิ่นอีสานได้เรียนรู้และสืบทอดภูมิปัญญาของครอบครัวที่ทำกันมาตั้งแต่รุ่นคุณยาย รวมทั้งได้รับความร่วมมือจากสำนักงานพัฒนาชุมชนและมหาวิทยาลัยขอนแก่น โดยมีการออกแบบผลิตภัณฑ์ให้มีความทันสมัยอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ชิ้นงานมีความน่าสนใจ
ยลดา ภูริผล ช่างฝีมือผ้าทอลาวครั่ง จ.อุทัยธานี ทายาทรุ่นที่ 6 มุ่งเน้นพัฒนาลวดลายและสีสันผลงานทุกชิ้นมีความละเอียดประณีตมากกว่าสมัยที่บรรพบุรุษเคยทำเพื่อคุณภาพของชิ้นงานที่มีความวิจิตรและได้มาตรฐาน จึงทำให้ยลดาพัฒนาการสร้างผลงานอย่างไม่หยุดนิ่ง แต่ยังคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์กระบวนการดั้งเดิมทุกขั้นตอน
ธีรวัฒน์ ทองประศาสน์ ช่างฝีมือผ้าไหมมัดหมี่ จ.ขอนแก่น ทายาทรุ่นที่ 2 เป็นช่างฝีมือผู้สืบทอดจากบรรพบุรุษโดยมุ่งมั่นพัฒนาขั้นตอนการผลิตให้สัมพันธ์กับยุคปัจจุบัน รวดเร็วและได้ผลผลิตจำนวนมากตามความต้องการของตลาด พัฒนาลวดลายสีสันให้สวยงามกว่าที่เคยสร้างสรรค์ไว้โดยไม่ทิ้งภูมิปัญญาดั้งเดิมของบรรพบุรุษให้หายไป
‘ไม่หวงวิชา’ ขอส่งต่อสู่คนรุ่นต่อไป
การสืบทอดภูมิปัญญาของงานประณีตหัตถศิลป์เหล่านี้ เหล่าทายาทช่างศิลปหัตถกรรมเหล่านี้ ล้วนเปิดใจกว้างไม่จำกัดอยู่แค่คนในครอบครัวหรือสายตระกูลของตัวเอง พวกเขาทั้ง 13 คนต่างมองพ้องกันว่า สมควรที่คนรุ่นหลังหรือคนรุ่นใหม่ไม่ว่าเป็นใครก็ตามที่สนใจงานภูมิปัญญาท้องถิ่นเหล่านี้ สามารถเข้ามาศึกษาเรียนรู้และฝึกฝนได้อย่างไม่มีข้อจำกัด แม้กระนั้นก็ตามก็ยังมีคนที่เข้ามาน้อย เพราะเป็นงานที่ต้องใช้ความอดทนและเพียรพยายามในการเรียนรู้และฝึกฝนทักษะความชำนาญและพัฒนาตัวเองที่ใช้เวลานาน
สมชาย บุญประเสริฐ ช่างปูนปั้นสดบอกว่า “อยากให้เด็กที่มีความสนใจเกี่ยวข้องกับงานปูนปั้นสด ลองมาฝึกจับลองทำกันดู เพราะว่ามันเป็นอาชีพที่อนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมประจำชาติได้เป็นอย่างดี” ซึ่งตรงกับ ซุลฟาการ์ อะตะบู ช่างทำกริช ที่อยากให้เยาวชนศึกษา แล้วก็เรียนรู้ในเรื่องศิลปวัฒนธรรมให้รักษาคงอยู่ต่อไป
ช่างฝีมือผ้าทอลายครั่ง ยลดา ภูริผล เธออยากให้คนรุ่นหลังได้เห็นและเรียนรู้วิธีการโบราณที่กว่าจะมาเป็นผ้าหนึ่งผืนต้องใช้เวลานาน ทุ่มเทสร้างสรรค์ด้วยความอดทนจึงจะสามารถสร้างสรรค์ผ้าออกมาได้สำเร็จ เช่นเดียวกับ นิดดา ภูแล่นกี่ ช่างฝีมือผ้าไหมแต้มหมี่ที่ฝันว่า
“อยากจะบอกคนรุ่นหลังทั้งหมดว่าเรามาช่วยกันพัฒนาสืบสานแล้วก็ต่อยอด เพื่อจะยังคงไว้ซึ่งงานที่พ่อแม่ถ่ายทอดมาให้เราแล้ว เพราะฉะนั้นเราต้องช่วยรักษามันไว้เพื่อให้คงอยู่ตลอดไป”
ปอลิณ หยุ่นตระกูล ช่างตัดกระดาษรังผึ้ง บอกว่า อยากจะให้คนรุ่นหลังเข้าไปศึกษาและรับรู้ว่างานทุกประเภทที่ภูมิปัญญาชาวบ้านทำ “เป็นงานที่คู่ควรที่จะอนุรักษ์ให้เป็นมรดกของประเทศ ซึ่งไม่น้อยหน้าใคร ให้อยู่คู่ประเทศของเราไปตลอดกาล” สอดคล้องกับช่างงานถักสานใยตาล พีระศักดิ์ หนูเพชร ที่บอกคนรุ่นใหม่ว่า ถ้าสนใจก็มาช่วยกันรักษาวัฒนธรรมเหล่านี้ให้คงอยู่
“ภูมิปัญญารากเหง้าตรงนี้เป็นเรื่องที่เจ๋ง และมีเสน่ห์ของเราเองไม่ต้องไปตามใคร”
ปิดท้ายด้วย เพชรรัตน์ เจียวทอง ช่างเครื่องประดับเงินโบราณ ที่บอกว่า เครื่องประดับเงินโบราณต้องใช้ความอดทนในการฝึกฝน และเป็นงานที่มีชื่อเสียงมีหน้ามีตา
“อยากให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาไว้ เพราะไม่อยากให้หายไป เป็นประวัติศาสตร์ก็ว่าได้ อยากให้มีคนสืบทอดต่อไป เพราะเป็นงานที่ประณีตมาก และเป็นสิ่งที่หารายได้ให้เราด้วย”


