บอม เปล่งพานิช ชีวิตติดเดินทาง
สาวนักเดินทางแห่งตระกูลเปล่งพานิช บอม-ฑิชากร เปล่งพานิช ที่ตอนนี้เธอยังไม่เดินตามสายละครเหมือนพ่อแม่
โดย...รอนแรม ภาพ ฑิชากร เปล่งพานิช
สาวนักเดินทางแห่งตระกูลเปล่งพานิช บอม-ฑิชากร เปล่งพานิช ที่ตอนนี้เธอยังไม่เดินตามสายละครเหมือนพ่อแม่ เพราะกำลังทำในสิ่งที่ตัวเองรัก เธอเป็นนักเขียนคอลัมน์ท่องเที่ยว เธอเป็นพิธีกรรายการท่องเที่ยว และเธอเป็นนักท่องเที่ยวมืออาชีพที่แม้ตัวเลขอายุ 25 ปีแต่ตัวเลขประสบการณ์มีจนนับไม่ถ้วน
เดินทางแต่เด็ก
“บอมเป็นคนอยู่ที่เดียวนานๆ ไม่ได้” บอมกล่าวเช่นนั้น นั่นอาจเป็นเพราะเธอออกจากบ้านไปเรียนต่างประเทศคนเดียว 6 ปี ตั้งแต่อายุ 15 ปี และเริ่มเดินทางท่องเที่ยวตั้งแต่ตอนนั้น
“บอมไม่เคยเจอใครที่ไม่ชอบเที่ยว ทุกคนชอบเที่ยวเหมือนกันหมด แต่บอมโชคดีตรงที่สามารถทำงานเก็บเงินแล้วไปเที่ยวเองโดยที่ไม่ต้องขอเงินพ่อแม่” ส่วนเรื่องที่เป็นลูกสาวคนเดียวของตระกูลเปล่งพานิชแล้วพ่อแม่จะเลี้ยงเป็นไข่ในหินหรือไม่นั้น เธอได้พิสูจน์ตัวเองแล้วว่าสามารถดูแลตัวเองได้ตั้งแต่สมัยเรียนที่นิวซีแลนด์ก็ทำงานเก็บเงิน หรือเวลาไปเที่ยวก็สามารถดูแลตัวเอง
ปลายปีนี้บอมจะจบการศึกษาระดับปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยศิลปากร คณะมัลติมีเดียดีไซน์ โดยจะได้รับปริญญาสองใบจากศิลปากร และจากเบอร์มิงแฮมที่เรียนหลักสูตรอินเตอร์
“ความจริงที่เรียนช้าเพราะดร็อปไปทำงาน บอมไม่ซีเรียสว่าต้องจบพร้อมเพื่อนคนอื่นๆ เพราะการทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยก็โอเค” เธอกล่าว
เดินทางเป็นอาชีพ
เธอเป็นนักเขียนคอลัมน์ท่องเที่ยวฟรีแลนซ์ให้แอลล์แมกกาซีน แต่งานที่กำลังตื่นเต้นอยู่ตอนนี้คือทำรายการท่องเที่ยวกับ เรย์ แมคโดนัลด์ ชื่อรายการว่า SoFa(r) So Good ทางช่องทรูเอ็กซ์ไซต์ ซึ่งเป็นงานที่เธอเลือกมาแล้วว่าเข้ากับไลฟ์สไตล์ส่วนตัว
“บอมชอบไปเที่ยวแล้วได้เห็นหมดไม่ว่าจะเป็นวัฒนธรรม ธรรมชาติ วิถีชีวิต และเป็นคนชอบเที่ยวในประเทศ” นอกจากนี้เธอยังชอบเสาะหาสถานที่แปลกๆ ที่บางแห่งไม่ใช่แหล่งท่องเที่ยว ยกตัวอย่าง เลบานอน โอมาน เกาะนิวเว (Niue)
บอมเล่าทริปนิวเวที่ไปมาเมื่อกลางปีที่แล้วว่า เกาะนิวเวอยู่ในหมู่เกาะโปลินีเซียกลางทะเลแปซิฟิก เมื่อก่อนเป็นของนิวซีแลนด์ แต่ตอนนี้ปกครองตัวเอง เธอรู้จักเกาะนี้ตอนไปทำงานที่นิวซีแลนด์ 7 เดือน ระหว่างนั้นสายการบินแอร์นิวซีแลนด์ออกโปรโมชั่นไปยังเกาะรอบๆ ประเทศซึ่งมีนิวเวอยู่ในนั้น
“นิวเวเป็นเกาะที่คนไปน้อยที่สุดในโลก” เธอกล่าว “สิ่งแรกที่ประทับใจคือ ตม. ตื่นเต้นกับพาสปอร์ตไทยมากๆ เพราะไม่เคยเห็นมาก่อน ส่วนเรื่องความสวยงามของท้องทะเลไม่ต้องพูดถึง เพราะที่ที่คนน้อยมักมีธรรมชาติที่สมบูรณ์อยู่แล้ว”
นอกจากนี้ เธอยังสารภาพว่าทุกทริปที่ไปโหดหมด “เพราะเราเอนจอยที่จะอยู่เอาต์ดอร์ แต่เราไม่ใช่คนที่เข้าฟิตเนสแล้ววิ่งทุกวัน ซึ่งสถานที่ที่จะไปส่วนใหญ่มันออฟโรดอยู่แล้ว ถ้าเทียบกับเพื่อนคนอื่นที่ไม่ได้ไปด้วยกัน อาจรู้สึกว่ามันอันตราย หวิดตกเขามาหลายรอบ ซึ่งทุกครั้งก็จะคิดว่ามันสวย ไม่เป็นไร”
การเดินทางไม่คาดฝัน
เธอชอบไปเที่ยวกับเพื่อนอย่างมากไม่เกิน 3 คน เพื่อความคล่องตัว และประเทศที่ต้องอาศัยเพื่อนและความคล่องตัวคงหนีไปพ้นอินเดียกับประสบการณ์ “บอมเคยแอบขึ้นรถไฟอินเดีย” เธอหัวเราะร่วน
“จำได้ตอนนั้นเป็นช่วงคริสต์มาส บอมรอขึ้นรถไฟจากพุทธคยาไปพาราณสี ตั๋วที่มีเขียนว่ารถไฟจะออกตอน 4 ทุ่ม แต่ตี 1 แล้วยังไม่มา และสุดท้ายก็ไม่มาจริงๆ เราเลยต้องซื้อตั๋วใหม่ คนขายตั๋วบอกว่ารถไฟจะมาตอนตี 4 แต่ในตั๋วมีภาษาอังกฤษอยู่คำเดียวคือ พาราณสี ไม่รู้ว่าอยู่โบกี้ไหน รถไฟขบวนไหน นั่งที่ไหน จนกระทั่งตี 4 รถไฟก็ยังไม่มา รอไปจนถึงตี 5 มีรถไฟเข้าสถานีมาหนึ่งขบวน ตอนนั้นไม่แน่ใจเลยว่ารถไฟขบวนนั้นจะไปพาราณสีไหม แต่ถ้าไม่ขึ้นก็อาจจะไม่ได้ขึ้นอีกนาน เลยตัดสินใจไปขึ้นโบกี้สุดท้าย เดินหาเตียงว่าง 2 เตียง แล้วนอนทั้งที่ไม่รู้ว่านอนถูกคลาสไหม ถูกที่ไหม พอมีเจ้าหน้าที่มาตรวจเราก็แอบไม่ให้ตรวจบัตร เพราะกลัวว่าจะโดนไล่ลงรถ แต่ท้ายที่สุดรถไฟก็ไปถึงพาราณสี”
อย่างไรก็ตาม เธอกลับไปประเทศอินเดียบ่อยที่สุด ถ้านับรวมทริปเดือน เม.ย.ที่จะถึงนี้ก็จะเป็นอินเดียครั้งที่ 5
ลิสต์การเดินทาง
ทุกประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ญี่ปุ่น รัสเซีย ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ซามัว อินเดีย ศรีลังกา จีน ปากีสถาน โอมาน ตุรกี อิตาลี กรีซ ลักเซมเบิร์ก เบลเยียม เนเธอร์แลนด์ ประเทศเหล่านี้เธอเคยไปมาหมดแล้ว
“บอมโฟกัสไปประเทศที่ไม่รู้ว่าจะได้ไปอีกเมื่อไหร่มากกว่า อย่างอังกฤษ อเมริกา ฝรั่งเศส ยังไงมันก็อยู่ตรงนั้น เราไม่ได้ไปเพื่อซื้อของ แต่เราไปเพื่อเห็นสิ่งที่คนอื่นไม่เห็น เรียนรู้ในสิ่งที่เราเองก็ไม่เคยเห็นมากกว่า บอมเลยเลือกที่จะไปประเทศทางเลือกเป็นอันดับแรกของลิสต์การเดินทาง”
เธอให้คำนิยามการเดินทางว่ามันไม่ใช่การเปิดโลกกว้าง แต่คือการทำเป้าหมายให้สำเร็จทีละข้อ เธอกล่าวว่า ตั้งแต่เด็กบอมจะลิสต์ไว้ว่าอยากไปเที่ยวไหนบ้าง ถึงตอนนี้มันเหมือนได้ขีดฆ่ามันออกไป ทำสำเร็จไปทีละข้อๆ และที่สำคัญเลยคือได้เรียนรู้
“เพราะบอมเป็นคนอ่านหนังสือเยอะมาก การอ่านหนังสืออยู่ที่บ้านมันเหมือนการเตรียมตัวก่อนเรียน แล้วการออกไปเห็นเองมันคือห้องเรียนที่จะได้เรียนรู้จริงๆ บอมไม่อยากใช้คำว่าการเที่ยวคือชีวิต เพราะการเรียนรู้ต่างหากที่คือชีวิต” ตอนนี้ลิสต์ของเธอยังเหลือให้ออกเดินทางอีกมากมาย ซึ่งไม่ทราบว่าต้องใช้กระดาษกี่หน้าถึงจะพอ
โลกของบอม
ถ้าเธอมีโลกของตัวเองหนึ่งใบ เธออยากให้โลกใบนั้นก็ยังเป็นโลกใบนี้ “โลกใบนี้มันดีอยู่แล้ว แต่คนต่างหากที่ทำให้โลกไม่น่าอยู่ แค่เราต้องใส่ใจให้มากขึ้น แค่เราไม่ไปทำลายธรรมชาติ โลกใบนี้ก็อยู่กับเราไปเรื่อยๆ”
สาวบอมวางแผนการเดินทางไว้ตลอดปีและอาจยาวไปถึงปีหน้า สามารถติดตามการเดินทางของหญิงสาวแห่งตระกูลเปล่งพานิชคนนี้ได้ทางอินสตาแกรม @ms_plengpanich


