posttoday

ความงามของ ‘ฮอร์โมน’

19 ธันวาคม 2558

หลังจากฉายต่อเนื่องมานาน 12 ตอน วันนี้จะเข้าสู่ตอนสุดท้ายของ “ฮอร์โมน” วัยว้าวุ่น ในซีซั่นส่งท้าย

โดย...สุภชาติ เล็บนาค

หลังจากฉายต่อเนื่องมานาน 12 ตอน วันนี้จะเข้าสู่ตอนสุดท้ายของ “ฮอร์โมน” วัยว้าวุ่น ในซีซั่นส่งท้าย

ความดีงามของซีรี่ส์เรื่องนี้ คือการส่งต่อบทเรียนที่จับต้องได้จริง อันต่างจากละครไทยทั่วไปชนิดฟ้ากับเหว

โดยเฉพาะการให้ความสำคัญกับความเป็นมนุษย์ ตามธีมหลักของเรื่องนี้ว่าด้วยทุกตัวละครล้วนมี “แผล” ทั้งนั้น ไม่มีใครเป็นคนดี 100% และไม่มีใครเป็นคนชั่วโดยสมบูรณ์แบบ

เพราะฉะนั้นการที่คนจะดี-จะชั่ว ล้วนมีเหตุปัจจัยนำพา โดยเฉพาะในวัยว้าวุ่นนั้น การตัดสินใจอะไรสักอย่างอาจถูกหรือผิดได้เสมอ เนื่องจากมีตัวแปรที่เกี่ยวข้องอีกมาก

ที่น่าสนใจคือ ตัวละครที่ถูกตราหน้าว่าเลวที่สุด ผู้สร้างก็ยังพยายามอธิบายให้เห็นว่า เพราะอะไรตัวละครนั้นถึงต้องกระทำ และอะไรคือเงื่อนปมที่ประกอบในการตัดสินใจ

จนในที่สุดคนดูก็ต้องเอาใจช่วย เพื่อให้โอกาสในการกลับตัวเข้าสู่สังคม มากกว่าจะแช่งชักหักกระดูกให้ต้องตายอย่างสาสมเหมือนในละครเรื่องอื่น หรือเหมือนคนที่ถูกสร้างภาพว่าเลวร้ายในชีวิตจริง

ขณะเดียวกัน ตอนที่น่าสนใจที่สุดก็คือ การจัด “กีฬาสี” ที่ตรงกับประสบการณ์ในวัยมัธยมของหลายๆ คน

ไม่ว่าจะเป็นการประชันความสวยงามของเชียร์ลีดเดอร์ ซึ่งต้องแลกมาด้วยเงินจำนวนมหาศาล กับความลำบากของคนอยู่เบื้องหลัง ที่ต้องทำอุปกรณ์ประกอบสแตนด์ราคาแสนแพง และต้องทนนั่งตากแดดเป็นอุปกรณ์ประกอบ เพียงเพื่อจะแลกกับ “หน้าตา” ของสีที่ต้องสวยที่สุด

ทว่า เมื่อมีตัวละครลุกขึ้นมาพยายามตั้งคำถามกับปัญหานี้ กลับถูกด่าทอจากทุกคนว่าเป็นพวกขี้อิจฉา-ชอบสร้างความขัดแย้ง โดยไม่เคารพเชื่อฟังรุ่นพี่ที่อาวุโสกว่า

ตอกย้ำให้เห็นว่า สังคมไทยเป็นสังคมที่เลี่ยงความขัดแย้งแล้วซุกไว้ใต้พรมแทน คนที่อ่อนแอ-อาวุโสน้อยกว่า ไม่เคยมีสิทธิวิพากษ์อะไร

ในที่สุดเมื่อความขัดแย้งปะทุถึงจุดแตกหัก ความวุ่นวายก็ไร้การควบคุม เกิดเป็นแผลให้ผู้ที่มีส่วนร่วมจดจำว่าเป็นตัวการในการทำให้กีฬาสีล่ม ทั้งที่ทุ่มเทกับงานนี้แบบถวายหัว

เช่นเดียวกับทุกตัวละคร ล้วนได้รับแผล ต่างกรรม ต่างวาระ ในแต่ละตอน

ต้องขอคารวะทีมผู้สร้างที่สอดแทรกสถานการณ์จำลองเข้าไปในเนื้อเรื่องเพื่อชวนให้เด็กไทยที่เป็นกลุ่มเป้าหมายหลักได้ตั้งคำถามกับสิ่งที่เกิดขึ้น

ว่าในสถานการณ์เดียวกัน พวกเขาคิดอย่างไรกับวิธีแก้ปัญหาของตัวละคร และหากเป็นพวกเขาต้องเจอกับ “แผล” ที่ตัวละครเจอในเรื่อง จะตัดสินใจหาทางออกอย่างไร

ทั้งหมดคุณูปการของซีรี่ส์เรื่องนี้ ที่มีเหนือการปลูกฝังแนวคิดท่องจำค่านิยมแบบนกแก้ว-นกขุนทอง ตามที่รัฐพยายามยัดใส่หัว หรือการปลูกฝังศีลธรรมจรรยาแบบ “ข้าดี-เอ็งชั่ว” ในแบบที่รัฐไทยพยายามสอนในวิชา “หน้าที่พลเมือง”

เพราะในโลกความเป็นจริง สิ่งที่เกิดขึ้นไม่อาจแยกขาว-ดำ ได้เสมอไปการเรียนรู้ปัญหา และหาวิธีในการก้าวข้ามปัญหาเพื่อใช้ชีวิตต่อไปให้ได้ต่างหากที่สำคัญที่สุด

ข่าวล่าสุด

ถ่ายทอดสด การท่าเรือ พบ ทรู แบงค็อก ช้าง เอฟเอ คัพ วันนี้ 21 ธ.ค.68