คุณแม่คนเก่งไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ภาดาท์ วรกานนท์
กลายเป็นคุณแม่คนสวยและคุณแม่คนเก่งไปพร้อมกัน ภาดาท์ วรกานนท์ วัย 38 ปี
โดย...วันพรรษา อภิรัฐนานนท์ ภาพ : กฤษณ์ พรหมสาขา ณ สกลนคร
กลายเป็นคุณแม่คนสวยและคุณแม่คนเก่งไปพร้อมกัน ภาดาท์ วรกานนท์ วัย 38 ปี ผู้อำนวยการสายงานภาพลักษณ์และการสื่อสารองค์กร บริษัท เฟรเกรนท์ พร็อพเพอร์ตี้ นักบริหารผู้ทุ่มเทเต็มที่กับการทำงาน ขณะเดียวกันก็เป็นภรรยาคนเก่งของชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ อดีต สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ และเป็น “คุณแม่วัน” ของลูกชาย 2 คน
ไลฟ์สไตล์การเลี้ยงลูก คุณแม่วันบอกว่า ลูกชาย 2 คนคือสไตล์ ลูกชายคนแรก น้องโอบีวัน หรือ ด.ช.พลิศอินท์ อินทรโกมาลย์สุต ในวัย 9 ขวบ และน้องอันดา-ด.ช.กันต์ชยุตม์ อินทรโกมาลย์สุต ในวัย 7 ขวบครึ่ง ทั้งคู่อยู่ในวัยกำลังซน คุณแม่ก็สนุกสนานตามไป โชคดีมีคุณแม่สามีคอยช่วยให้คำแนะนำเกี่ยวกับวิธีการเลี้ยงดูแล ต้องเข้าใจธรรมชาติของเด็กในแต่ละช่วงวัยว่าเด็กต้องการอะไร หลักๆ คือการใช้ประสบการณ์ การใช้เหตุผล และการใช้ความเข้าใจ
“เหนือสิ่งอื่นใด เด็กๆ จะต้องมีความเคารพในตัวเอง มีความอ่อนโยน ไม่ก้าวร้าว ให้เกียรติผู้อื่น ที่สำคัญเราต้องเป็นแบบอย่างที่ดี”
เลี้ยงลูกไปด้วย ทำงานไปด้วย ถ้าบริหารเวลาลงตัวก็ไม่มีปัญหาอะไร ภาดาท์เล่าว่า เคยมีความคิดที่จะลาออกจากงานเพื่อมาเลี้ยงลูกอย่างเดียว แต่ทำไม่ได้ เนื่องจากชอบทำงาน มีความสุขกับการทำงาน มีความสุขกับการเป็นผู้หญิงเก่ง ทุกวันนี้แบ่งเวลาชัดเจน จันทร์-ศุกร์ทำงานเต็มที่ 8 ชั่วโมง/วัน เวลาที่เหลือทุ่มเทให้ครอบครัว ทุกเย็นจะสอนการบ้านลูก กินข้าวเย็นด้วยกันเล่านิทานก่อนนอน แม่เล่าบ้าง ลูกเล่าบ้าง วันหนึ่งๆ เวลาหมดไปกับกิจกรรมที่มีค่าเหล่านี้
“วันหยุดเสาร์-อาทิตย์ พวกเราแม่ลูกจะตื่นเช้าไปวัดทำบุญ จากนั้นก็ไปเดินห้างสรรพสินค้า ปิดท้ายด้วยกิจกรรมขี่จักรยานและว่ายน้ำที่บ้านคุณย่า” คุณแม่เล่า
วางเป้าหมายอนาคตลูกไว้อย่างไร คุณแม่วันบอกว่า ไม่ได้ตั้งเป้าหรือวางธงใดๆ ทั้งสิ้น ขอให้ลูกได้เติบโตขึ้นมาและทำอะไรที่ลูกอยากทำ ทำแล้วมีความสุข พึ่งพาตัวเองได้ ที่สำคัญต้องรู้จักการใช้ชีวิตแบบพอเพียง เห็นคุณค่าของตัวเอง การเรียนคงให้เลือกเรียนตามถนัด แม้ขณะนี้ยังไม่ได้วางแผนชัดเจนว่าจะให้เรียนหนังสือในประเทศหรือต่างประเทศ
“น้องทั้งคู่เป็นเด็กมีวินัย ตั้งใจเรียน น้องโอบีวันชอบเรียนภาษาอังกฤษ ตอนเขาอายุ 5 ขวบ สามารถแต่งนิทานภาษาอังกฤษอย่างจริงจังได้ 7-8 เล่ม แม้แกรมม่าจะถูกบ้างผิดบ้าง แต่เขาตั้งใจ ส่วนน้องอันดาชอบเรียนทุกภาษา ชอบเรียนรู้สิ่งแปลกใหม่ มีความมั่นใจในตัวเอง ในบางวันมีเซอร์ไพรส์ เช่น วันนี้หนูท่องตัวเลขภาษาจีนได้ด้วย” คุณแม่เล่าปลื้มๆ
ได้ข่าวว่าลูกซนมาก คุณแม่อมยิ้มบอกว่า ลูกเป็นเด็กดี ใจดี อ่อนโยน ไม่หวงของ มีการบ้านก็รับผิดชอบ แต่เคยมีเหมือนกันที่ต้องทำโทษ เคยให้ยืนมุมบ้านเพื่อสงบสติอารมณ์ จากนั้นขอคุยด้วยเหตุผล หลักคือต้องการให้ลูกได้คิดและไตร่ตรอง
“ถ้าลูกของเราทำแก้วแตก จะหยิบแก้วหรือจะอุ้มลูก เราเลือกที่จะอุ้มลูกขึ้นมา เพื่อให้ลูกรู้ว่าเราเห็นลูกสำคัญกว่าแก้ว แล้วค่อยสอนเขาว่าคราวหน้าต้องระวัง”
ดูแลลูกนั้นเรื่องหนึ่ง ดูแลตัวเองก็เรื่องหนึ่ง ภาดาท์เล่าว่า การดูแลตัวเองสำหรับเธอแล้ว อันดับแรกคือสุขภาพ ทุกวันนี้ให้ความสำคัญกับการออกกำลังกาย ส่วนใหญ่ใช้วิธีว่ายน้ำและโยคะ โดยเฉพาะโยคะจะทำก่อนนอนทุกคืน 15 นาที ยืดเส้นสายกล้ามเนื้อ ช่วยได้มากคือการหายใจ หลับสบาย
นอกจากนี้คืออาหาร จะให้ความสำคัญกับอาหารเช้าและอาหารกลางวัน ถือเป็นสองมื้อหลักที่กินเต็มที่ เห็นผอมแบบนี้แต่กินเยอะนะ เจ้าตัวเล่าว่ากินไม่ยั้งเพราะถือว่าทำงานเต็มเวลาและใช้สมอง มื้อเย็นงดแป้งหลีกเลี่ยงไขมัน ทุกมื้อเน้นอาหารที่มีประโยชน์
ปิดท้ายความเป็นแม่ด้วยประโยคสำคัญ “เลี้ยงลูกต้องมีสติ ไม่ใช้อารมณ์” แม่สำคัญที่สุดในชีวิตลูก เด็กต้องมีที่ยึดเหนี่ยว สำหรับภาดาท์แล้ว เลี้ยงลูกเก่งไม่ใช่เรื่องบังเอิญ คุณแม่ทุกคนทำได้ด้วยสติ


