posttoday

กรองแก้ว ชัยฤกษ ความยากแค้นเป็นพลังชีวิต

19 กรกฎาคม 2553

ชีวิตของเด็กสาวบ้านนาเข้าสู่เมืองฟ้าอมร ตามหาฝันจนเจอเพราะไม่เคยย่อท้อต่อความแร้นแค้นของชีวิต มาวันนี้เธอได้พิสูจน์แล้วว่าความตั้งใจและความมุ่งมั่นเท่านั้นนำพาไปสู่ความสำเร็จ

ชีวิตของเด็กสาวบ้านนาเข้าสู่เมืองฟ้าอมร ตามหาฝันจนเจอเพราะไม่เคยย่อท้อต่อความแร้นแค้นของชีวิต มาวันนี้เธอได้พิสูจน์แล้วว่าความตั้งใจและความมุ่งมั่นเท่านั้นนำพาไปสู่ความสำเร็จ

โดย....สมชาย บุญเหลือ

ถ้าพูดถึงผู้ประกาศข่าวทางโทรทัศน์ในบ้านเรา น้อยคนที่ไม่เคยเห็นหน้า และได้ยินเสียงหวานๆ ของ แนน หรือ กรองแก้ว ชัยฤกษ ผู้ประกาศข่าวสาว สทท.11 กรมประชาสัมพันธ์ เธอนั่งอ่านข่าวช่วงเที่ยงของ สทท.11 อยู่เป็นประจำเกือบทุกวัน จนหน้าตาของเธอกลายเป็นโลโก้ สทท.11 ไปแล้ว ด้วยบุคลิกที่ร่าเริงสดใส พูดเก่ง เธอจึงกลายเป็นขวัญใจของทุกคน

กรองแก้ว ชัยฤกษ ความยากแค้นเป็นพลังชีวิต

แนนเกิด จ.ระยอง ก่อนจะย้ายตามแม่ไปเรียนอนุบาลใน จ.เพชรบุรี เพราะความที่พ่อแม่แยกทางกัน แม่จึงแยกไปอยู่เมืองเพชรเธอจึงตามไปอยู่ด้วย หลังจากนั้นเธอก็กลับมาเรียนที่ จ.ระยอง อีกครั้งจนจบ
ก่อนจะตัดสินใจเดินทางเข้าเมืองหลวงอันศิวิไลซ์มาเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง เลือกเรียนคณะมนุษยศาสตร์ เธอใช้เวลาเรียนแค่ 3 ปีก็เรียนจบ แต่อีกใจก็ตั้งใจไว้ว่าจะใช้เวลาเรียน 2 ปีพอ แต่เธอต้องทำกิจกรรมคณะและของมหาวิทยาลัยไปด้วย จึงใช้เวลาล่วงเลยไปอีก 1 ปี แต่ก็ต้องยกนิ้วให้ในความตั้งใจจริง และความมุ่งมั่นอันแน่วแน่ ในที่สุดก็คว้าปริญญามาได้ตามความตั้งใจ

สาเหตุที่เลือกเรียนคณะมนุษยศาสตร์ด้านการสื่อสารมวลชน เพราะเธออยากเป็นผู้ประกาศข่าว เนื่องจากฝังใจเคยไปอ่านหนังสือเจอ มีผู้ประกาศรุ่นพี่ให้สัมภาษณ์ไว้ว่า การเป็นผู้ประกาศได้เงินมาก จึงอยากได้เงินมาจุนเจือครอบครัว และที่ต้องไปเรียนมหาวิทยาลัยรามคำแหง ก็เพราะฐานะทางบ้านไม่ดี ต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายนั่นเอง

แนนเล่าอย่างไม่อาย ชีวิตในวัยเด็กลำเค็ญมาก สองคนกับแม่บางวันมีเงินติดตัวแค่10 บาท ในการใช้ชีวิต บางวันต้องไปซื้อข้าวเหนียวหมูปิ้งมาแบ่งกันกิน ชุดนักเรียนก็มีชุดเดียวใส่ทั้งอาทิตย์ ใส่เสร็จในแต่ละวันต้องนำกลับมาซักใหม่ เพื่อนก็เลยสงสัย มีอยู่วันหนึ่ง เพื่อนเอาปากกามาขีดปลายเสื้อไว้ เหมือนทดสอบเรา แต่แนนก็เอามาซัก พอวันรุ่งขึ้นนำกลับไปใส่ใหม่ เพื่อนจำได้เพราะรอยปากกาซักไม่ออกเพื่อนก็เลยแซวว่าใส่เสื้อตัวเดิม นี่แหละความลำเค็ญสมัยเด็ก

นอกจากนั้น บางวันก็ต้องไปช่วยแม่ขายกล้วยทอดในตลาด บางครั้งเจอเพื่อนก็แซว อายก็อาย แต่พอโตขึ้นก็มาคิดว่าไม่ใช่เรื่องน่าอายเลย การช่วยพ่อแม่ทำงาน เราอายไปได้อย่างไร แต่วันนี้คิดแล้วก็อดภูมิใจไม่ได้

แนนเล่าว่า การไปเรียนมหาวิทยาลัยรามคำแหงให้ประสบการณ์ชีวิตมาก ต้องเรียนด้วยความมุ่งมั่น อุตสาหะ ไม่เช่นนั้นไม่จบ แต่เธอก็จบมาได้ใช้เวลาเรียนแค่ 3 ปีเท่านั้น การไปเรียนรามคำแหงส่วนหนึ่งมาจากมีแรงบันดาลใจจากอา เพราะอาเรียนจบรามคำแหงเหมือนกันแล้วได้ทำงานดีๆ จึงคิดว่าสักวันเราต้องเป็นแบบอาให้ได้ วันนี้เธอก็ทำได้แล้ว

พอถามทำไมเลือกเรียนด้านสื่อสารมวลชน แนนรีบเฉลย เพราะต้องการเป็นผู้ประกาศข่าวนั่นเอง สมัยเรียนชั้นประถมเวลามีกิจกรรมของโรงเรียนเธอก็ทำเสมอ โดยเฉพาะการออกไปพูดหน้าห้องเรียนเพราะชอบ
แนนจบรามคำแหงมาก็ไม่ได้เป็นผู้ประกาศข่าวเลยตามที่ฝันไว้ แต่ไปเป็นเชลส์ขายเคมีภัณฑ์ต่างๆ ทำงานอยู่ 3 เดือน ก็มีรุ่นพี่ที่สถานีโทรทัศน์ไอทีวีแนะนำให้ไปทำงานที่สำนักข่าวแห่งหนึ่ง ทำข่าวทางออนไลน์ เกี่ยวกับข่าวตลาดหลักทรัพย์ โดยเริ่มจากการเป็นนักข่าววิ่งทำข่าวก่อน

ในที่สุดก็วิ่งตามหาฝันจนเจอ เมื่อเธอได้เข้าไปเป็นผู้ประกาศข่าวในสถานีโทรทัศน์ไอทีวีเป็นแห่งแรก ก่อนจะมาเป็นผู้ประกาศข่าวที่ช่อง 11 สมัยนั้น และทำงานมาจนถึงปัจจุบัน ได้นั่งแจ้วๆ หน้าจอ สทท.11 ช่วงข่าวเที่ยงวัน รวมเวลาที่มาอยู่บ้านหลังนี้ 6 ปีแล้ว และชีวิตก็ถือว่ามาตามฝันแล้วในวันนี้ ได้เงินไปจุนเจือครอบครัว เพราะมีแม่และญาติพี่น้องที่ต้องเลี้ยงดู

กรองแก้ว ชัยฤกษ ความยากแค้นเป็นพลังชีวิต

สำหรับรุ่นน้องหรือใครที่อยากเป็นผู้ประกาศข่าว แนนได้ข้อคิดว่า อันดับแรกต้องมีความตั้งใจในการทำงาน คนเราทุกคนมีโอกาสเท่าเทียมกันหมด อยู่ที่ใครจะไขว่คว้ามาได้หรือเปล่า ถ้าเป็นแนนใครให้โอกาสก็จะไขว่คว้าไว้ก่อน ขณะเดียวกันดวงก็มีส่วนช่วยด้วยเหมือนกันแต่สิ่งแรกต้องเกิดจากความตั้งใจก่อน

นอกจากนั้น การเป็นผู้ประกาศข่าวต้องมีใจรัก ต้องหมั่นศึกษาหาความรู้ใส่ตัวตลอดเวลา ที่สำคัญต้องตรงต่อเวลา เพราะอาชีพนี้มีเวลาที่ไม่เหมือนกับคนอื่นเขา เช่น ช่วงเทศกาลก็ไม่มีวันหยุดพักผ่อน แต่เธอก็ไม่ย่อท้อยังมีความตั้งใจจะทำงานด้านนี้ต่อไป

แนนยอมรับว่าการทำอาชีพนี้ชีวิตส่วนตัวจะหายไปเยอะ แต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมดของชีวิต ทุกวันนี้ไม่ใช่จะไม่มีเวลาพักผ่อน ก็มีโอกาสไปเที่ยวกลางคืนบ้าง สังสรรค์กับเพื่อนบ้าง แต่ไม่บ่อย ตั้งแต่มาทำงานด้านนี้นานเหมือนกันไม่ค่อยได้กลับไปเยี่ยมบ้านหาญาติพี่น้อง ก็จะมีเสียงบ่นออกมาเหมือนกันว่าลืมบ้าน

งานอดิเรกที่ทำคือชอบอ่านหนังสือ ใครจะชวนไปไหนไม่ค่อยชอบไป ทั้งดูหนังฟังเพลงไม่ค่อยชอบ แต่จะชอบอ่านหนังสือมาก มีสมาธิในการอ่าน หนังสือที่ชอบคือนิยายรัก โรแมนติก แต่หนังสือทั่วไปก็จะอ่านเกือบทุกชนิด รวมถึงหนังสือเด็กด้วย แต่เล่มที่ชอบที่สุดคือ “หางของเบอร์นา” เป็นหนังสือที่คนตาบอดมีสุนัขเป็นผู้นำทางนั่นเอง

สำหรับความใฝ่ฝันในอนาคตทุกคนย่อมมี มาถึงวันนี้พอเธอทำงานผู้ประกาศได้แล้วก็เริ่มฝันต่อไปอีก แนนบอกอยากมีรายการทางโทรทัศน์เป็นของตัวเอง เป็นรายการทีวี รายการเกี่ยวกับท่องเที่ยว สังคม วัฒนธรรม เนื่องจากเห็นว่า ปัจจุบันรายการส่งเสริมวัฒนธรรมมีน้อย เป็นรายการที่มีประโยชน์ ถึงแม้ตลาดจะไม่ค่อยดีแต่ก็อยากทำ ช่วงนี้ได้หารือร่วมกับเพื่อนในเรื่องของเนื้อหาอยู่บ้าง  แต่ติดปัญหาคือต้องหาสปอนเซอร์มาสนับสนุน ซึ่งรายการลักษณะนี้หาสปอนเซอร์ยากนั่นเอง

สุดท้ายขาดไม่ได้เลย พอถามถึงเรื่องความรัก แนนบอกแบบเขินๆ หน้าอมชมพูขึ้นมาทันทีว่า เรื่องของหัวใจห่างไกลกัน เนื่องจากเธออยู่กรุงเทพฯ แต่หัวใจอยู่ต่างจังหวัด แต่ก็มีความเข้าใจกันดี เธอรีบออกตัวไม่กลัวเสียเชิง “แหม...สวยๆ ขนาดนี้มันต้องมีหนุ่มๆ เข้ามาชอบอยู่ละน่า...” เธอบอกพร้อมกับหัวเราะร่วน

นี่แหละชีวิตของเด็กสาวบ้านนาเข้าสู่เมืองฟ้าอมร ตามหาฝันจนเจอเพราะไม่เคยย่อท้อต่อความแร้นแค้นของชีวิต มาวันนี้เธอได้พิสูจน์แล้วว่าความตั้งใจและความมุ่งมั่นเท่านั้นนำพาไปสู่ความสำเร็จได้ !!!

ข่าวล่าสุด

ไทยพาณิชย์-FWD คว้า 3 รางวัล Adman Awards 2025 ตอกย้ำเข้าถึงลูกค้าทุก Gen ด้วย "ประกันทรัพย์พอร์ตทุกวัย"