ผู้ชายหัวใจกันดั้ม
หลังจาก อามุโร่ เรย์ ตัดสินใจขึ้นขับหุ่นรบกันดั้มอาร์เอ็กซ์ 78-2 ของฝ่ายสหพันธ์ เอาชนะหุ่นยนต์แซคฝ่ายซีออนได้ถึง 2 ตัว
โดย...โยธิน อยู่จงดี
หลังจาก อามุโร่ เรย์ ตัดสินใจขึ้นขับหุ่นรบกันดั้มอาร์เอ็กซ์ 78-2 ของฝ่ายสหพันธ์ เอาชนะหุ่นยนต์แซคฝ่ายซีออนได้ถึง 2 ตัว ในปีศักราชอวกาศ 0079 (ปีแรกที่ออกอากาศปี 2522) นั่นคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้เราได้รู้จักกับหุ่นรบกันดั้ม ที่กลายมาเป็นซีรี่ส์แอนิเมชั่นครองใจเด็กผู้ชายทั่วโลกมายาวนานถึง 36 ปี
กันดั้มซีรี่ส์แอนิเมชั่นรุ่นแรกนั้นกำกับและเขียนบทโดย โทะมิโนะ โยะชิยุกิ และออกแบบตัวละครโดย ยะซุฮิโกะ โยะชิกะซุ เป็นเรื่องราวของหุ่นยนต์กันดั้มสงครามอวกาศในอนาคต แต่เน้นเรื่องราวดราม่าสงคราม ความรัก ความเศร้า ปมความหลังของตัวละครที่มาที่ไป จนหลายคนยกให้เป็นแอนิเมชั่นสำหรับผู้ใหญ่มากกว่าเด็ก ความสำเร็จของกันดั้มถูกนำไปสร้างเป็นซีรี่ส์ตามมาอีกหลายเวอร์ชั่น ซึ่งแต่ละเวอร์ชั่นก็มีเรื่องราวเฉพาะของตัวเอง แต่ใช้หุ่นรบกันดั้มเหมือนกัน โดยเวอร์ชั่นที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือกันดั้มวิง (Gundam Wing), กันดั้มซี้ด (Gundam Seed) และกันดั้มดับเบิ้ลโอ (Gundam OO)
แต่สิ่งที่ทำให้กันดั้มได้รับความนิยมตลอด 36 ปีที่ผ่านมาในหมู่เด็กผู้ชาย ไม่ใช่ตัวซีรี่ส์กันดั้มเพียงอย่างเดียว ยังมีหุ่นกันพลา (Gunpla) หรือโมเดลกันดั้มพลาสติกที่เข้ามาเสริมเติมเต็มจินตนาการของเด็กผู้ชายอย่างพอเหมาะพอเจาะ ซึ่งกันพลานี้ไม่ได้เป็นเพียงของเล่นพลาสติกธรรมดา แต่กลุ่มผู้ชายที่ชอบเล่นกันพลาเก่งๆ เขาพัฒนาให้เป็นงานศิลปะชิ้นเอกกันเลยทีเดียว
ธนพล กิจเลิศไพโรจน์ ผู้บริหารสายการตลาด บริษัท ดรีมทอย ตัวแทนจำหน่ายกันพลาในประเทศไทย อธิบายถึงกันพลาว่า กันพลาตัวแรกเริ่มวางจำหน่ายหลังออกอากาศซีรี่ส์กันดั้มในปี 2522 ประมาณ 1 ปี ซึ่งนับถึงปัจจุบันก็เป็นเวลาประมาณ 35 ปีแล้ว ตั้งแต่มีกันพลาตัวแรกออกมา
“กันดั้มเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์หุ่นยนต์รบที่ครองใจเด็กผู้ชายทั่วโลก ทำให้กันพลาเป็นของเล่นเด็กผู้ชายที่ได้รับความนิยมสูงมาก เฉพาะในประเทศไทยต่อปีก็ขายได้นับหมื่นกล่องต่อรุ่น
ธนพล บอกว่า คนเล่นกันพลาจะแบ่งออกเป็น 2 สาย คือ 1.สายคนที่ดูแอนิเมะมาก่อนแล้วมาซื้อกันพลาตัวที่ชอบมาประกอบ คนที่เล่นกันพลากลุ่มนี้จะเป็นกลุ่มที่เล่นเพื่อเติมเต็มความชอบในเรื่องราวของกันดั้ม เน้นการประกอบตกแต่งพอสวยงาม แค่ประกอบวางโชว์ก็มีความสุขแล้ว 2.สายโมเดลเลอร์คือคนที่เล่นโมเดลเป็นงานอดิเรกมาก่อน อาจจะเล่นโมเดลแบบอื่นมาแล้วมาเล่นตัวกันพลา คนเล่นกลุ่มนี้มองกันดั้มเป็นงานศิลปะอย่างหนึ่ง พวกเขาจะมีฝีมือในการประกอบและทำสีใส่รายละเอียด บางคนแต่งเติมร่องรอยเหมือนผ่านการต่อสู้ บางคนก็ทำฉากประกอบคล้ายกันดั้มกำลังเคลื่อนไหวจริงๆ
“หลังจากเริ่มต่อกันพลาตัวแรก คนที่เริ่มจากสายแอนิเมะก็อาจจะพัฒนาฝีมือการประกอบเก็บรายละเอียดทำสี ตกแต่งได้เหมือนกลุ่มโมเดลเลอร์ หรือคนที่เล่นโมเดลเลอร์พอประกอบเสร็จแล้วก็อยากจะตามไปดูเรื่องราวของหุ่นที่ทำเสร็จก็ได้เหมือนกัน”
ณัฏฐ์ ทิวไผ่งาม เจ้าของรางวัลชนะเลิศการประกวดเวที อะคาเดมี แฟนเทเชีย ซีชั่น 5 และเป็นศิลปินสังกัดค่าย CJ Group หนึ่งในค่ายเพลงชื่อดังของประเทศเกาหลี เล่าถึงความชื่นชอบในกันดั้มของเขาว่า
“ผมเริ่มดูกันดั้มตอนประมาณเรียนชั้นประถม ภาคที่ได้ดูคือกันดั้มวิง ตอนนั้นเราดูก็ชอบด้วยตัวหุ่นยนต์ดูเท่ แต่ตัวเรื่องราวนั้นไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่ เพราะกันดั้มเป็นเรื่องราวที่ค่อนข้างดราม่า มีความซับซ้อนของตัวละคร แต่ก็ติดตามกันดั้มมาตลอด
“จนกระทั่งผมเริ่มทำงานก็เริ่มซื้อต่อตัวแรกเป็นกันดั้มวิง เป็นตัวที่ผมชอบที่สุด ตอนนั้นใช้เวลาประกอบอยู่ประมาณ 2 วันจึงเสร็จ พอประกอบเสร็จเราก็รู้สึกภูมิใจ การต่อของผมจะค่อยๆ ต่อไปจนเสร็จไม่รีบร้อน ต่อเสร็จก็ซื้อมาประกอบเรื่อยๆ แต่บางตัวแฟนคลับก็ซื้อให้เพราะเห็นว่าเราชอบ จนตอนนี้ที่ประกอบเสร็จแล้วก็มีอยู่ประมาณ 20 กว่าตัว ไม่รวมที่ยังอยู่ในกล่องที่วางกองอยู่
“การเล่นกันพลาของผมจะเน้นตัวเอกของเรื่องในแต่ละภาค จะค่อยๆ ประกอบเน้นความประณีตละเอียด ผมมองว่ามันเป็นความสุขที่เราได้เห็นหุ่นยนต์ในแอนิเมชั่นที่เราดู ออกมาเป็นตัวหุ่นจริงๆ อยู่ตรงหน้า ไม่ต่างจากความรู้สึกของคนที่สะสมสิ่งของอื่นๆ เขาก็มีความสุขกับของสิ่งนั้น การเล่นกันพลาก็เช่นกัน แต่จริงๆ แล้วผมคิดว่ากันดั้มไม่ได้เป็นการ์ตูนหุ่นรบของเด็กๆ อย่างที่เราคิดกัน เพราะถ้าดูในเนื้อหาจริงๆ แล้วจะออกแนวดราม่าเล่าถึงความโหดร้ายของสงครามมากกว่าที่จะเป็นหุ่นยนต์ 2 ฝ่ายสู้กันอย่างเดียว”
เช่นเดียวกับ แบงค์-อาทิตย์ ตั้งวิบูลย์พาณิชย์ ดาราหนุ่มสังกัดช่อง 7 ซึ่งกำลังจะมีผลงานละครเรื่อง โค้ด ฮันเตอร์ และคู่วุ่นลุ้นแผนรัก ก็เป็นหนึ่งในคนที่ชื่นชอบกันดั้มและสะสมกันพลา แบงค์บอกกับเราว่าเขาชื่นชอบกันดั้มมาตั้งแต่เด็กโดยมีตัวกันดั้มสไตรค์ ฟรีดอม (หุ่นกันดั้มจากภาคกันดั้มซี้ด) เป็นตัวที่ชอบมากที่สุด
“กันดั้มมีเรื่องราวเข้มข้นไม่ต่างจากซีรี่ส์ฝรั่ง ผมจึงมองว่ากันดั้มเหมือนซีรี่ส์เรื่องหนึ่งที่เราสามารถติดตาม โดยเฉพาะความลับต่างๆ ในเรื่องที่มีหักมุมในตอนจบ เพียงแค่มีหุ่นยนต์และสงครามอวกาศเป็นฉากเล่าเรื่อง
“กันพลาตัวแรกที่ผมซื้อมาเป็นแบบเพอร์เฟกต์เกรด เป็นเกรดที่ดีที่สุดของกันพลา ตัวแรกก็เอามาทำสีเลยครับ ปกติตัวแรกคนที่เล่นกันพลาเขาจะเล่นตัวไฮเกรดราคาประหยัดมาหัดทำสี แต่ผมใช้เพอร์เฟกต์เกรดมาทำทั้งที่ประกอบครั้งแรกเลย การเล่นกันพลาของผมจะเป็นแบบค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป วันนี้ประกอบหัว อีกวันประกอบตัว งานแบบนี้ต้องใช้ความละเอียดและใช้สมาธิสูง เป็นการประกอบโมเดลที่เราทำแล้วรู้สึกมีความสุขไปกับมัน”
ธนพล อธิบายเพิ่มเติมว่า ตัวกันพลานั้นก็มีหลายเกรดให้เลือก เริ่มต้นจากเกรดเอสดี (SD-Super Deform) เป็นเกรดล่างสุดสูงประมาณ 7 ซม. เกรดนี้เป็นโมเดลตัวเล็กหัวโต ดูน่ารักประกอบง่ายเหมาะสำหรับเด็กอายุ 6 ขวบขึ้นไป ต่อมาเป็นไฮเกรด (HG-High Grade) เป็นเกรดที่ดีขึ้นมาอีกระดับ เหมาะสำหรับคนที่ชอบทำสีเองราคาไม่สูงมาก ขนาดประมาณ 10-12 ซม.
ถัดมาเป็นมาสเตอร์เกรด (MG-Master Grade) เป็นเกรดยอดนิยมที่สุด ขนาดประมาณ 14 ซม. มีโครงสร้างข้อต่อภายในให้ขยับได้เหมือนมนุษย์ เก็บรายละเอียดสมจริงที่สุดรุ่นหนึ่ง
ตามด้วยรุ่นใหม่ล่าสุด เรียลเกรด (RG-Real Grade) เป็นเกรดที่กำลังได้รับความนิยมไม่แพ้ไฮเกรด มีขนาดประมาณ 12 ซม. แต่มีโครงสร้างข้อต่อขยับนิ้วมือ เคลื่อนไหวสมจริงเหมือนมาสเตอร์เกรดมีราคาถูกกว่า ซึ่งกำลังได้รับความนิยมอย่างมาก
เกรดสุดท้าย เพอร์เฟกต์เกรด (PG-Perfect Grade) เป็นกันพลาขนาดประมาณ 20 ซม. ทุกอย่างเหมือนมาสเตอร์เกรดแต่มีขนาดที่ใหญ่กว่า ใส่ลูกเล่นได้เยอะเหมือนกับหุ่นยนต์จริงๆ ในซีรี่ส์กันดั้ม
สำหรับคนที่เพิ่งเริ่มหัดเล่นกันพลาแนะนำให้เริ่มเล่นจากไฮเกรด แล้วค่อยขยับขึ้นไปเล่นเกรดที่สูงขึ้น เน้นตัวที่ชอบมากที่สุด แต่ส่วนมากแล้วคนที่เล่นกันพลาทุกคนจะต้องมีตัวหลักซึ่งถือว่าเป็นตัวระดับตำนานของกันดั้ม ก็คือกันดั้มอาร์เอ็กซ์ 78-2 รุ่นออริจินัล ตัวเดียวกับที่ยืนตระหง่านอยู่ที่หน้าไดเวอร์ซิตี้ โอไดบะ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น กันดั้มรุ่นนี้ถือว่าเป็นตัวหลักที่ทุกคนควรมี และเป็นตัวต้นแบบที่พัฒนาไปสู่การออกแบบกันดั้มซีรี่ส์ต่างๆ
“โดยส่วนตัวแล้วเชื่อว่าผู้ชายทุกคนชอบกันดั้มโดยธรรมชาติ เพราะผู้ชายส่วนมากชอบหุ่นยนต์ เครื่องยนต์กลไก ชอบการต่อสู้ และการต่อกันพลาก็เป็นสิ่งหนึ่งที่เสริมความฝันต่อจากความชื่นชอบในเรื่องราวกันดั้ม ผมจำได้ว่ากันพลาตัวแรกที่ผมประกอบนั้นเต็มไปด้วยความสงสัยว่า แผงพลาสติกที่มีชิ้นส่วนมากมายจะประกอบขึ้นมาเป็นหุ่นกันพลาได้อย่างไร พอเริ่มค่อยๆ ต่อไปตามคู่มือ เริ่มเห็นเป็นรูปเป็นร่างเราก็รู้สึกภูมิใจหลงใหลในเสน่ห์ของหุ่นกันดั้ม และเชื่อว่าผู้ชายทุกคนก็มีความชอบในตัวกันดั้มเหมือนกัน”


