posttoday

อย่าใจถึง กับธุรกรรมการเงินออนไลน์

17 ตุลาคม 2558

ปัจจุบันผู้คนเริ่มเคยชินกับการทำธุรกรรมการเงินผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น จากการพัฒนาความปลอดภัย

โดย...ปากกาด้ามเดียว

ปัจจุบันผู้คนเริ่มเคยชินกับการทำธุรกรรมการเงินผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น จากการพัฒนาความปลอดภัยของผู้ให้บริการที่ทำให้เพิ่มความเชื่อมั่นได้มากขึ้น แต่ผลการทดสอบโดยแคสเปอร์สกี้ แลป เรื่อง “Are You Cyber Savvy?-Research Summary” จากกลุ่มตัวอย่าง 1.8 หมื่นราย แสดงให้เห็นว่าผู้ใช้หลายคนยังไม่รู้ (หรือรู้แต่ไม่ปฏิบัติตาม)กฎข้อปฏิบัติพื้นฐานเมื่อทำการชำระเงินออนไลน์ หรือใช้ระบบธนาคารออนไลน์

ผู้เข้าร่วมการทดสอบถูกขอให้เลือกไซต์ธนาคารที่แต่งขึ้นมาหนึ่งไซต์จากสี่ไซต์ เพื่อให้กรอกข้อมูลบัญชีธนาคารลงไป มีเพียงกึ่งหนึ่งของผู้เข้าร่วมทดสอบเท่านั้นที่สามารถระบุไซต์ที่ปลอดภัยจริงๆ ที่มีชื่อที่มิได้ปรับแต่งขึ้นมา และพรีฟิกซ์ https ที่ระบุการต่อเชื่อมแบบเข้ารหัสยิ่งไปกว่านั้น 5% ของผู้ทำการทดสอบได้เลือกไซต์ที่สะกดที่แอดเดรสไม่ถูกต้อง ซึ่งบอกใบ้ว่าอาจเป็นเพจปลอมที่สร้างขึ้น เพื่อขโมยข้อมูลทางการเงินของผู้ใช้ก็ได้

นอกจากนี้ เมื่อผู้ใช้ถูกถามถึงขั้นตอนที่ต้องทำก่อนที่จะกรอกข้อมูลทางการเงินของตนลงไป เพื่อดำเนินการชำระเงินทางออนไลน์มีเพียง 51%เท่านั้นที่บอกว่าตรวจสอบความถูกต้องของไซต์นั้นๆ และ 21% ที่ใช้เวอร์ชวลคีย์บอร์ด เพื่อป้องกันรหัสผ่านจากการโดนมัลแวร์แอบฉกไปขณะที่ 20% ตรวจดูให้โซลูชั่นเพื่อความปลอดภัยทำงานถูกต้องเพื่อให้แน่ใจได้ว่าธุรกรรมนั้นปลอดภัยจากมือมืดประสงค์ร้ายทั้งหลาย

ขณะที่ 29% ของผู้ใช้ บอกว่าจะไม่ทำอะไรแปลกพิเศษเพิ่มขึ้น เพราะว่าเว็บไซต์ของบริษัทองค์กรที่ใหญ่โต มีชื่อเสียงก็เพียงพอแล้วที่จะต้องได้รับการป้องกันเป็นอย่างดี

อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่แม้แต่ไซต์ที่มีการป้องกันเป็นอย่างดีก็ไม่สามารถการันตีได้ว่าจะรอดพ้นจากเงื้อมมือของอาชญากรไซเบอร์ เวลาทำธุรกรรมทางการเงิน หรืออุปกรณ์นั้นจะไม่ติดโปรแกรมร้ายที่ออกแบบมาเพื่อการโจรกรรม และ 11% ของผู้ใช้ตอบว่าใช้โหมด “Incognito” เมื่อชำระเงินออนไลน์เพื่อเป็นการป้องกันอีก 4% ใช้วิธีลบข้อมูลส่วนตัวมิให้ย้อนรอยได้ (Anonymizer) และ 7% ของผู้ที่ร่วมการทดสอบใช้วิธีเข้าไซต์นั้นซ้ำๆ หลายๆ ครั้ง และลบข้อมูลทิ้งเสีย เพื่อ “ทำให้ไวรัสสับสน” โชคร้ายที่กรรมวิธีเหล่านี้ไม่สามารถป้องกันข้อมูลของผู้ใช้ได้เลย

ที่สำคัญและน่ากลัวคือ 20% เห็นว่าไม่เห็นจะมีปัญหาอะไรเลยที่จะยื่นเครดิตการ์ดให้ใครๆ และเดินลับสายตาไป แสดงให้เห็นว่าผู้ใช้บางคนขาดความระมัดระวังเสียอย่างมากๆ ไม่ป้องกันตนเองเวลาชำระเงิน จึงเป็นช่องทางให้นักปลอมแปลงขี้ฉ้อเหล่านี้แอบทำก๊อบปี้ไว้

ข่าวล่าสุด

ถอดพฤติกรรมการเงินคนไทย 4 เจเนอเรชัน จาก Gen Z ถึง Baby Boomer