posttoday

ปุจฉาจากกรณีภาพยนตร์ ‘อาบัติ’

11 ตุลาคม 2558

เจริญพรสาธุชนผู้มีศรัทธามั่นคงในพระพุทธศาสนา มีปุจฉาว่าด้วยเรื่องภาพยนตร์ที่ชื่อ อาบัติ เหมาะสมหรือไม่...

โดย...พระอาจารย์อารยะวังโส

เจริญพรสาธุชนผู้มีศรัทธามั่นคงในพระพุทธศาสนา มีปุจฉาว่าด้วยเรื่องภาพยนตร์ที่ชื่อ อาบัติ เหมาะสมหรือไม่... ควรหรือไม่ ที่องค์กรพิทักษ์พระพุทธศาสนาจะต่อต้าน...

อาตมาไม่ทราบในเนื้อหาสาระของภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวทั้งหมด จึงไม่สามารถวินิจฉัยได้ว่า ภาพยนตร์เรื่องนี้ให้คุณโทษต่อพุทธศาสนาอย่างไรหรือไม่ เรื่องดังกล่าวควรเป็นหน้าที่ความรับผิดชอบของกระทรวงวัฒนธรรม หรือกระทรวงศึกษาธิการ หรือสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ที่ควรพิจารณาลงไปในรายละเอียดทุกมิติ เพื่อประโยชน์ของทุกฝ่ายโดยเฉพาะพระพุทธศาสนาของเรา

คำว่า อาบัติ นั้น จริงๆ แล้ว เป็นศัพท์บาลีคำหนึ่งที่นำมาใช้ในพระพุทธศาสนา แปลว่า การล่วงละเมิดในศีลหรือสิกขาบทที่พระพุทธองค์ทรงแสดงบัญญัติไว้ดีแล้ว จัดเป็นบาป เมื่อกระทำการล่วงละเมิด ส่วนจะเป็นบาปหรือโทษในระดับใดนั้น ก็ขึ้นอยู่กับเนื้อหาสาระแห่งอาบัตินั้นๆ ซึ่งจัดแบ่งไว้ถึง ๗ กอง (ปาราชิก, สังฆาทิเสส /ถุลลัจจัย, ปาจิตตีย์, ปาฏิเทสนียะ, ทุกกฎ และทุพภาสิต) เป็นสองคณะ (ครุกาบัติและลหุกาบัติ)

ในทั้งเจ็ดกองสองคณะนั้น ปาราชิก/ครุกาบัติ เป็นบาปหรือโทษหนักที่สุด เทียบเท่ากับโทษประหารชีวิตของทางโลก ทำให้ผู้ล่วงละเมิดขาดจากความเป็นภิกษุ ส่วนอาบัติมีโทษหนักรองลงมาชื่อ สังฆาทิเสส มี ๑๓ สิกขาบท ผู้ล่วงละเมิดต้องประพฤติวัตรอย่างหนึ่งจึงจะพ้นอาบัติได้ ส่วนอีกห้ากองที่เหลือ เป็นอาบัติฝ่ายลหุกาบัติหรือมีโทษเบา ผู้ล่วงละเมิดออกจากอาบัติ (บาป/โทษ) นั้นได้ ด้วยต้องประกาศสารภาพผิดต่อหน้าภิกษุด้วยกัน ที่เรียกว่า “ปลงอาบัติ”

สำหรับในภาพยนตร์ เรื่อง อาบัติ ดูจะเป็นการแสดงความผิดในการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้หญิง... และไม่ทราบว่าเป็นภิกษุหรือสามเณร ซึ่งถ้าเป็นสามเณร ก็ไม่ควรใช้คำว่า “อาบัติ” เพราะสามเณรสำเร็จเข้าสู่กระบวนการบรรพชาด้วยการเข้าถึงพระไตรสรณคมน์และรับสิกขาบท (ศีล) สิบ หากประพฤติผิดสิกขาบท เรียกว่า ล่วงละเมิดศีล... โดยมีการโยงเรื่องไปเกี่ยวเนื่องกับภูตผีเปรตทั้งหลายของผู้กระทำบาปอันหยาบช้า ล่วงเกินสิกขาบทในพระพุทธศาสนา

หากพิจารณาดูจุดประสงค์ของภาพยนตร์ดังกล่าว ถ้าเป็นไปตามเนื้อหาสาระโดยสรุปที่พอจะหามาได้ ก็คงรับได้ ถ้ามองในเชิงบวกว่า... ก็ดีเหมือนกัน อย่างน้อยๆ จะได้กระตุ้นให้สังคมชาวพุทธรู้จักคำว่า อาบัติ จะได้สนใจนำมาศึกษาว่าด้วยเรื่องอาบัติต่างๆ ที่เป็นบทลงโทษชี้ความเป็นบาป เมื่อภิกษุในพระพุทธศาสนานี้ได้กระทำการล่วงเกินสิกขาบทหรือข้อควรศึกษาที่ทรงบัญญัติแสดงไว้ดีแล้ว ในทางตรงข้ามจะได้เห็นคุณประโยชน์ของผู้ประพฤติอยู่ในสิกขาบท รักษาไว้ซึ่งศีลหรือวินัยของภิกษุอย่างบริสุทธิ์หมดจดว่า ให้คุณานุประโยชน์เป็นอย่างไร... สมดังที่กล่าวว่า ศีลเป็นรากแก้วของศาสนา วินัยเป็นรากเหง้าเค้ามูลของกุศลธรรมทั้งปวง... โลกียบุญกุศล โลกุตตรบุญกุศลเกิดขึ้นได้ด้วยการประพฤติถูกต้องตรงตามศีล... ตามวินัย...

แต่อย่างไรก็ตาม ในการนำเสนอเนื้อหาสาระใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนา ควรอย่างยิ่งที่จะต้องนำเสนอให้ครบถ้วนสมบูรณ์ทุกด้าน หมายถึง ต้องนำเสนออย่างปราศจากอคติต่อพระพุทธศาสนา... เพื่อจะไม่ชี้นำสังคมที่ไร้แก่นสาร เข้าสู่ความรู้ ความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนผิดไปจากธรรม

จึงควรระวังอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในกระแสโลกาภิวัตน์ ที่สัตว์สังคมตกอยู่ในอิทธิพลของสื่อ ...ผู้นำเสนอเรื่องราวต่างๆ ผ่านสื่อทุกชนิดจึงต้องรอบคอบ และควรวัดผลย้อนกลับจากกรณีการนำเสนอนั้นๆ ด้วย...  ...จะคิดคำนึงแค่เพียงประโยชน์ส่วนตน สนุกสนาน ถูกใจตัวอย่างเดียวไม่ได้ โดยเฉพาะหากเป็นเรื่องที่กระทบต่อกระแสศรัทธา ดังเช่น กรณีนำเรื่องศาสนาเข้าไปเกี่ยวข้องในการนำเสนอ... ซึ่งหากมีผลสะท้อนเกิดขึ้น ไม่ว่าในรูปแบบใด ผู้นำเสนอต้องตอบสังคมได้ตามวิถีแห่งธรรม!...

เจริญพร

ข่าวล่าสุด

งานเข้า! EU สอบสวน Google ข้อหาผูกขาดเนื้อหาให้กับ AI ของบริษัท