posttoday

‘คลินิกคนข้ามเพศ’ แห่งแรกในเมืองไทย

08 ตุลาคม 2558

กลางเดือน ต.ค.นี้ คลินิกชื่อ แทงเจอรีน (Tangerine) กำลังจะก่อตั้งขึ้นโดยศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย

โดย...ปอย ภาพ วีรวงศ์ วงศ์ปรีดี

กลางเดือน ต.ค.นี้ คลินิกชื่อ แทงเจอรีน (Tangerine) กำลังจะก่อตั้งขึ้นโดยศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย ซึ่งเล็งเห็นความสำคัญต่อการให้บริการสุขภาพสำหรับคนข้ามเพศ โดยร่วมมือกับสถาบัน Research Triangle Institute หรือสถาบัน RTI ภายใต้การสนับสนุนจากองค์กรเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐอเมริกา หรือ USAID ได้ริเริ่มงานวิจัยเพื่อพัฒนาต้นแบบการให้บริการด้านสุขภาพแก่คนข้ามเพศในประเทศไทยแห่งแรกขึ้น โดยได้บูรณาการกับบริการตรวจหาเชื้อเอชไอวีและการรักษาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆ คลินิกแห่งใหม่นี้จึงจะก่อตั้งขึ้นที่ชั้น 2 ตึกนิรนาม สภากาชาดไทย

เมื่อเร็วๆ นี้ ทางศูนย์วิจัยฯ และองค์กรภาคีได้จัดประชุมกับตัวแทนชุมชนคนข้ามเพศจากหลากหลายสาขาอาชีพ เพื่อรับฟังข้อเสนอแนะ ความต้องการ รวมทั้งอุปสรรคในการเข้ารับบริการสุขภาพ

ข้อมูลที่ได้จากการประชุมครั้งนี้ มีรายงานวิจัยจากโครงการ Transrespect versus Transphobia (TVT) หรือทีวีที ที่ศึกษาโดยองค์กรคนข้ามเพศแห่งสหภาพยุโรป (Transgender Europe) ร่วมกับเครือข่ายเพื่อนกะเทยไทยในปี 2015 สำรวจจากประชากรตัวอย่างที่เป็นกะเทย สาวประเภทสอง ผู้หญิงข้ามเพศ ผู้ชายข้ามเพศ และคนข้ามเพศ จำนวน 202 คนในประเทศไทย มีข้อมูลสำคัญพบว่า

- 84% รายงานว่าไม่เคยเข้ารับคำปรึกษาเรื่องการใช้ฮอร์โมน หรือการปรับเปลี่ยนร่างกายเพื่อการข้ามเพศจากแพทย์โดยตรง

- 55% รายงานว่าไม่มีความจำเป็นที่จะต้องไปรับคำปรึกษาด้านสุขภาพจากแพทย์

- 47% รายงานว่ามีประสบการณ์เชิงลบต่อการเข้ารับบริการจากหน่วยงานให้บริการด้านสุขภาพ

รายงานไม่กี่ข้อนี้ก็ทำให้เห็นภาพชัดเจนว่า คนกลุ่มนี้ยังเข้าไม่ถึงเรื่องการประกันสุขภาพ จึงเป็นที่มาของการตั้งคำถามถึงสาเหตุ? และผู้ที่ให้คำตอบได้ดีที่สุดก็คือคนทำงานที่คลุกคลีอยู่กับสาวข้ามเพศมาเป็นเวลายาวนาน และเป็นพลังให้ทำงานก่อตั้งคลินิกแห่งนี้ขึ้นมา

‘คลินิกคนข้ามเพศ’ แห่งแรกในเมืองไทย

ชวนสาวๆ มาหาหมอกันเยอะๆ

ชื่อน่ารัก ฟังแล้วเป็นมิตร แทงเจอรีน แปลว่าส้มเขียวหวาน ซึ่งไปพ้องเสียงกับคำว่า ทรานส์เจนเดอร์ (Transgender) แปลว่า คนข้ามเพศ “รีน่า” รัตนวัฒน์ จันทร์อำนวยสุข ผู้ประสานงานโครงการ ศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย อธิบายว่าใช้สัญลักษณ์สีส้มรูปวงกลมตัว G ที่เริ่มสตาร์ทในกลางเดือน ต.ค.นี้ เป็นโลโก้คลินิก

คลินิกเริ่มต้นไม่ใหญ่โต มีเจ้าหน้าที่ราว 15 คน แต่จะมากด้วยความเข้าอกเข้าใจ นี่คือสิ่งที่คนข้ามเพศต้องการมากที่สุด

“ดิฉันทำงานมาสิบกว่าปีแล้วค่ะ ตั้งแต่เรียนจบคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คงพูดได้นะคะว่าดิฉันเป็นทั้งผู้ให้บริการในงานด้านสุขภาพ และในบางครั้งเราก็คือสาวประเภทสองที่เป็นผู้ป่วย ต้องสลับมาเป็นผู้รับบริการอีกด้วย จึงเข้าใจเลยค่ะว่าทำไม... เมื่อเจ็บป่วย สาวประเภทสอง กะเทย หรือเกย์ และคนที่เลือกเพศวิถี LGBT จึงไม่ค่อยอยากมาหาหมอตามโรงพยาบาลทั่วไป จุดประสงค์ของการก่อตั้งคลินิกนี้ขึ้นมาเพื่ออยากให้คนข้ามเพศโดยเฉพาะสาวประเภทสองเข้ามาใช้บริการ พบแพทย์มากยิ่งขึ้น แต่ด้วยคำตอบที่คนกลุ่มนี้ถูกตีตรา ถูกปฏิบัติด้วยความไม่เข้าใจ ด้วยวิถีทางเพศแตกต่าง โครงการนี้จึงอยากทำคลินิกเฉพาะขึ้นมา

...ยกตัวอย่างนะคะ คำถามจากหมอ-พยาบาล มักเริ่มด้วยคำถามทำไม เช่น ทำไมไม่ใส่ถุงยางอนามัย? ในคลินิกนี้มีการอบรมเจ้าหน้าที่ให้เปลี่ยนคำถามให้ฟังแล้วละเอียดอ่อนมากขึ้น... โดยใช้คำถามใหม่ว่า... คนไข้ให้ความสำคัญกับถุงยางอนามัยขนาดไหน? แล้วให้ข้อมูลตามมาสำหรับคนที่ไม่เลือกใช้ด้วยค่ะ

ก่อนเปิดคลินิกเรามีการอบรมในเรื่อง Gender Sensitization คือการอบรมในประเด็นการตั้งคำถามคนไข้ ไม่ใช้ประโยคคำถามตัดสินในเรื่องพฤติกรรมทางเพศ หรือเรื่องใดควรระมัดระวัง เช่น การใช้คำนำหน้านาม คำว่า นายสำหรับคนข้ามเพศเป็นหญิง น.ส. การข้ามเพศเป็นชาย ในคลินิกนี้ไม่เห็นความจำเป็นในการใช้คำนำหน้าเหล่านี้เลยค่ะ

‘คลินิกคนข้ามเพศ’ แห่งแรกในเมืองไทย

 

อย่างฝรั่งก็ไม่ได้ใช้มิส มิสเตอร์ เขาใช้คุณเราก็ยังคุยกันรู้เรื่อง ซึ่งเรื่องนี้ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่มีการเก็บข้อมูล เพราะจากรายงานที่ว่ามีประสบการณ์เชิงลบต่อการเข้ารับบริการจากหน่วยงานให้บริการด้านสุขภาพ สาวประเภทสองแปลงเพศแล้วสวยงามไปโรงพยาบาล แล้วเจ้าหน้าที่เรียก นาย... เข้าพบแพทย์ ซึ่งเสียงก็ต้องดังได้ยินกันทั้งห้องนะคะ ทำให้อับอาย ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ปฏิเสธโรงพยาบาล ป่วยก็ไม่อยากไปหาหมอ บางรายกว่าจะมาหาหมอก็ปล่อยให้อาการหนักสุดๆ แล้วนะคะ

ในระบบสาธารณสุขในไทยยังให้บริการแก่สองเพศกระแสหลัก คือ ชาย และหญิง ล่าสุดมีน้องสาวประเภทสองแปลงเพศแล้ว ป่วยหนักต้องแอดมิท สุดท้ายบุคลากรทางการแพทย์ก็ไม่รู้จะให้เขาไปอยู่หวอดผู้ชายหรือผู้หญิง ก็เลยเข็นน้องไปไว้หน้าลิฟต์ ซึ่งเราก็ไม่ได้มองแง่ร้ายที่สุดว่าเขาตีตรารังเกียจนะคะ แต่ก็มองว่าอาจเป็นการไม่เข้าใจในการจัดการผู้ป่วยอย่างไร

อีกเรื่องสำคัญคือการฉีดฮอร์โมน จากประสบการณ์ของดิฉันเอง แม้จะอยู่ในสังคมเด็กเรียนหนังสือ แต่พวกเราก็ยังให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากๆ ค่ะ ดิฉันฉีดฮอร์โมนตั้งแต่มัธยมปลาย และตกใจมากเมื่อน้องๆ รุ่นหลังๆ เริ่มใช้ฮอร์โมนตั้งแต่ยังเรียนชั้นประถม เบาะๆ ก็แอบกินยาคุมกำเนิดเพื่อเพิ่มฮอร์โมนเพศหญิง ซึ่งก็มีผลข้างเคียงต่อร่างกายต่อไปแน่ๆ ค่ะ

ถามว่าไปปรึกษาหมอที่โรงพยาบาลหรือไม่? ไม่ค่ะ (บอกพร้อมรอยยิ้ม) เพราะในโรงพยาบาลรัฐไม่มีแผนกใดที่แพทย์ให้คำปรึกษาในเรื่องนี้โดยตรงเลย และนี่ก็คือการเข้าไม่ถึงในการรักษาอย่างหนึ่ง ซึ่งในเวลานั้นก็สิบกว่าปีแล้วนะคะ พอมาถึงรุ่นน้องๆ พวกเราสังคมกะเทยก็ยังไม่ต่างจากอดีต คือไปซื้อฮอร์โมนมาฉีดกันเองจากการขอคำปรึกษารุ่นพี่ๆ หรือศึกษาข้อมูลแลกเปลี่ยนกันจากอินเทอร์เน็ต แล้วก็ทดลองใช้ฉีดๆ กันตามหอพักอะไรแบบนั้น

‘คลินิกคนข้ามเพศ’ แห่งแรกในเมืองไทย

แล้วก็จะมี ‘ตัวแม่’ ที่น้องๆ ให้ความเชื่อถือกันอย่างมาก แถมฮอร์โมนบางตัวก็ผิดกฎหมาย มีการขายสินค้าแถมมาด้วยอีก มีโฆษณาเกินจริงฉีดแล้วผิวใส ฉีดแล้วเพิ่มหน้าอก ความปลอดภัยไม่ต้องพูดถึงเลยค่ะ บางเคสใช้เข็มร่วมกัน ก็มีโรคแถมมาอีก

ในบางประเทศที่พัฒนาแล้วในการฉีดฮอร์โมนถูกรับรองโดยอินชัวรันส์ หรือเข้าสู่ระบบการประกันสุขภาพ ยกตัวอย่างในสหรัฐ การฉีดฮอร์โมนในคลินิกก็จะสามารถเบิกค่าใช้จ่ายตรงนี้ในระบบนี้ได้ด้วยค่ะ แต่ในบ้านเราเมื่อไม่มีรองรับ ประชากรกลุ่มนี้จึงต้องเดินเข้าสู่ระบบที่เรียกว่าตลาดมืด อยากให้เดินเข้ามาปรึกษาหมอที่คลินิกค่ะ ความต้องการเลือกอัตลักษณ์ทางเพศซึ่งไม่ตรงกับเพศกำเนิด โดยการข้ามเพศตั้งแต่การเริ่มต้นใช้ฮอร์โมนทรีตเมนต์ เป็นการปรับเปลี่ยนร่างกายไม่ใช่ความผิด ไม่ใช่เรื่องน่ากลัวอีกด้วยถ้าเราได้รับคำปรึกษาที่ถูกต้อง” 

รีน่า เจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย ขอฝากข้อมูลเหล่านี้ไปถึงเพื่อนๆ น้องๆ ให้มาใช้บริการกันโดยไม่ต้องกังวล นอกจากตัวเธอที่จะคอยเทกแคร์ในฐานะคนทำงานแล้ว ใครมาที่นี่ก็จะได้เจอการต้อนรับของ “พี่แด๊นซ์” เจ้าหน้าที่สาวประเภทสองอีกคนที่ทำงานขยันขันแข็งในบริเวณแผนกต้อนรับด้านหน้า ด้วยรอยยิ้ม และความเข้าใจ 

บริการครอบคลุมไปถึงความสวยความงาม

แม่งานใหญ่ในคลินิกแทงเจอรีน อีกหนึ่งคนทำงาน พญ.นิตยา ภานุภาค พึ่งพาพงศ์ หัวหน้าโครงการวิจัยฯ กล่าวว่า การให้บริการสุขภาพแก่ประชากรทุกกลุ่มนั้น ควรให้ความสำคัญต่อการเข้ามามีส่วนร่วมอย่างมีความหมายของชุมชนเจ้าของปัญหา คลินิกแห่งนี้เริ่มต้นตั้งแต่การออกแบบ การวางแผน และการประเมินผลของบริการนั้นๆ ซึ่งจะส่งผลให้ชุมชนเกิดความรู้สึกในการเป็นเจ้าของร่วมและเกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนไปด้วยกัน

‘คลินิกคนข้ามเพศ’ แห่งแรกในเมืองไทย

 

จึงมีการเซตทีมเจ้าหน้าที่ราว 15 คนขึ้นไป ตั้งแต่เจ้าหน้าที่ Peer supporter เลือกสาวประเภทสองมาทำงานนี้โดยเฉพาะ ส่วนเจ้าที่ทางการแพทย์-พยาบาล ไปจนเภสัชกร ก็เข้ารับการอบรม Gender Sensitization เพื่อทำความเข้าใจระหว่างผู้ให้และผู้รับบริการ ซึ่งเป้าหมายต่อไปคือสร้างโมเดลนี้กระจายไปอยู่ตามสถานพยาบาลทั่วประเทศ

“จากการประชุมนำร่องครั้งนี้ก่อนเริ่มเปิดคลินิก ก็ยิ่งได้คำตอบชัดเจนเลยค่ะว่าในประชากรกลุ่มนี้มีความต้องการรักษาแบบนี้อยู่แล้ว และบริการแบบไหนล่ะที่เพอร์เฟกต์ที่สุด ก็ได้ไอเดียหลายอย่างเลยค่ะ เช่น พอคิดถึงคลินิกข้ามเพศก็อยากให้คิดถึงเรื่องฮอร์โมนบำบัด เป็นการให้การรักษาทางสุขภาพกาย

นอกจากแนะนำการฉีดฮอร์โมนแล้ว คลินิกก็มีแผนให้บริการในเรื่องการฉีดสารทุกอย่างอย่างถูกต้อง เช่น ฉีดโบทอกซ์-ฟิลเลอร์เพื่อความงาม ให้คำแนะนำและบริการเรื่องพวกนี้ด้วยค่ะ เพื่อเป็นสิ่งจูงใจให้เขามาใช้บริการ ไปจนถึงการให้คำปรึกษาทางสุขภาพใจ บำบัดความเครียด ความวิตกกังวล ทั้งกายและใจคนไข้จะได้คำปรึกษาครบค่ะ แล้วจากประสบการณ์ของหมอที่ทำงานในคลินิกนิรนาม คนไข้ที่ประทับใจในการรักษาก็จะบอกกันปากต่อปาก หมอก็อยากให้สิ่งนี้เกิดขึ้นในคลินิกแห่งใหม่ด้วย

เราทำงานกับคนหลากหลายทางเพศมานานแล้ว คนกลุ่มนี้มีทั้งระดับผู้บริหาร หัวหน้างาน คนทำงานกับชุมชนคนข้ามเพศ ก็ได้เห็นศักยภาพคนกลุ่มนี้ที่มีสูงมาก มีความเป็นผู้นำ แต่พอไปโรงพยาบาลก็ยังมีประสบการณ์ในอดีตที่ผ่านมาที่ได้ประสบการณ์ไม่ดีๆ อยู่เรื่อยๆ ตั้งแต่เรื่องเบาๆ เรียกด้วยคำนำหน้านาม นาย ไปจนถึงใช้ทัศนคติตัวเองตัดสินว่าในเรื่องเพศที่ถ้าไม่ใช่หญิง/ชาย ก็คือเรื่องผิดธรรมชาติ ทำให้คนไข้สาวประเภทสองอับอาย รู้สึกผิด กลัวโดนตำหนิ ทำให้เขาหลีกหนีการใช้บริการสุขภาพทุกๆ รูปแบบ การเข้ามารับการรักษาไม่ใช่การดูแลเป็นพิเศษอะไรนะคะ เพียงแต่ไม่ให้ถูกตีตราว่านี่คือสาวประเภทสอง หรือนี่คือทอม สิ่งที่ทำง่ายที่สุดอันดับแรกคือไม่มีการขานคำนำหน้านามใดๆ ทั้งสิ้น

‘คลินิกคนข้ามเพศ’ แห่งแรกในเมืองไทย

 

แล้วไม่ใช่แค่เรื่องนี้ รวมไปถึงคำใช้เรียกอวัยวะต่างๆ ว่าอะไร เรื่องนี้ก็เป็นสิ่งละเอียดอ่อนที่ไม่ควรมองข้าม เช่น รายที่ผ่าตัดแปลงเพศมาแล้ว ก็มีนะคะที่ไม่อยากให้หมอใช้คำว่า Neo vagina ช่องคลอดใหม่ หรือช่องคลอดเทียม เธอบอกว่าไม่ใช่ของเทียมนะคะหมอ เรื่องพวกนี้ละเอียดอ่อนมาก แต่เราก็ใช้วิธีแก้ไขในแบบที่ใช้คำว่า Sensitization มองให้เป็นเรื่องธรรมดาค่ะ” คุณหมอนิตยา บอกพร้อมรอยยิ้ม

อีกเรื่องสำคัญ คือ การเปลี่ยนเพศนั้นเป็นเรื่องที่แพทย์ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด ทั้งการดูแลอวัยวะเพศใหม่หลังผ่าตัด หรือโรงพยาบาลทั่วไปยังมีข้อจำกัดเรื่องความเข้าใจคนข้ามเพศและขาดแพทย์ที่เชี่ยวชาญคลินิก หรือโรงพยาบาลเอกชนบางแห่งก็ไม่มีบริการหลังการผ่าตัด ถือว่าจบเคสไปแล้ว

“มาหาหมอที่นี่ได้เลยค่ะ มาขอคำปรึกษาได้ หมอทำงานตั้งแต่ประเมินว่าใครเข้าเกณฑ์ที่ควรได้รับการผ่าตัด และสำหรับผู้ที่ผ่าตัดไปแล้วก็มาคุยขอคำปรึกษาได้ด้วยนะคะ งานหลักของหมอคือ 1.ให้คนไข้รับฮอร์โมนบำบัดอย่างถูกต้อง 2.ปรึกษาเรื่องความสวยความงาม และ 3.ก็จะสอดแทรกเรื่องเอชไอวีไปด้วยค่ะ เพราะการที่หมอทำงานอยู่ที่ศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย ก็ได้ทราบสถิติว่าจำนวนประชากรที่มีความสัมพันธ์ชายกับชาย ติดเชื้อเอชไอวีถึง 25% ถ้าเกย์เดินมา 4 คน มี 1 คนติดเชื้อ ส่วนสาวประเภทสองติดเชื้อ 10% เป็นข้อมูลที่หมอบอกเพื่อความตระหนักแต่ไม่ตระหนก เป็นสถิติคงที่เมื่อ 5 ปีที่แล้ว คือโรคเอดส์ไม่เพิ่ม แต่ก็ไม่ลดลง

ปัจจุบันเรามีการรักษาในแบบ test and treat ถ้ามาคลินิกที่นี่ตรวจเลือดแล้วรักษาทันที ภายใน 6 เดือนร่างกายก็จะไม่มีเชื้อแล้วค่ะ และวันนี้การแพทย์ก็พัฒนาไปเรื่อยๆ ไม่แค่ถุงยางอนามัยเท่านั้นนะคะที่ป้องกันโรคได้ แต่มีวิธีอีกหลายอย่างร่วมกัน และเป็นนโยบายระดับประเทศในการรักษา คือการกินยาต้านไวรัสที่เรียกว่า ยาเพร็พ-ยาเป๊ป หรือ PREP30 กินยาวันละ 1 เม็ด เม็ดละ 30 บาท ยาตัวนี้จะเข้าสู่เซลล์เม็ดเลือดขาวและเข้าไปบล็อกไม่ให้เชื้อเข้าสู่ร่างกาย เป็นการป้องกันเชื้อได้ถึง 90% มีประสิทธิภาพกว่าถุงยางอนามัย และเป็นวิธีที่ถูกและง่ายมากๆ นะคะ หลายๆ เรื่องอาจเป็นสิ่งที่คนข้ามเพศไม่เคยทราบ หมอก็อยากให้คำแนะนำในเรื่องเหล่านี้ค่ะ” พญ.นิตยา กล่าวทิ้งท้าย

ศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย ซึ่งเตรียมเปิดศูนย์บริการคนข้ามเพศช่วงกลางเดือนนี้ และเตรียมเปิดอย่างเต็มรูปแบบในปลายปี จึงเป็นคลินิกคุณภาพของรัฐเพื่อดูแลสุขภาพคนข้ามเพศแบบครบวงจร

ข่าวล่าสุด

3 ชาติผนึกกำลังทลาย 'KK Park - ชเวก๊กโก' รังใหญ่ "แก๊งคอลเซ็นเตอร์"