posttoday

ธีรวัฒน์ เฑียรฆประสิทธิ์ ลายเส้นสยองขวัญผลักดันให้มีวันนี้

25 สิงหาคม 2558

โดย...สมแขก

โดย...สมแขก

โอ-ธีรวัฒน์ เฑียรฆประสิทธิ์ นักวาดภาพประกอบ ฟรีแลนซ์อิลลัสเตรเตอร์และกราฟฟิกไดเรกเตอร์ ให้กับแบรนด์เสื้อผ้าของตัวเองชื่อ Painkiller โดยทำหน้าที่ดูแลเกี่ยวกับกราฟฟิกและลายพิมพ์ลายเสื้อต่างๆ ออกแบบลวดลายทั้งหมดในแบรนด์ และล่าสุดกับหนังสือ capital O เป็นหนังสือเกี่ยวกับผลงานตลอด 10 ปีที่ผ่านมาของเขา

“การวาดภาพ ผมวาดรูปมาตลอดชีวิต แต่ถ้าเริ่มอาชีพนักวาดภาพประกอบอย่างจริงจังก็เมื่อประมาณ 10 กว่าปีที่ผ่านมา คือหลังจากลาออกจากงานประจำผมก็เริ่มวาดภาพประกอบให้กับนิตยสารต่างๆ เล่มแรก คือ ลิปส์ และวาดให้เล่มอื่นๆ ด้วย เช่น อะเดย์ แฮมเบอร์เกอร์ จากนั้นก็มีงานเอเยนซีเข้ามา แล้วถึงได้ร่วมกับพี่น้องทำแบรนด์ Painkiller เมื่อ 5 ปีที่ผ่านมา ตอนแรกทำงานกับครอบครัวก็จะเกร็งๆ เพราะว่าเราทำให้ลูกค้าที่อยู่ไกลตัว แต่ตอนนี้สนุกมาก และ Painkiller ถือเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตไปแล้ว ซึ่งตอนนี้งานของเราก็นอกเหนือจากสิ่งพิมพ์ไปแล้ว เป็นโมชั่นกราฟฟิก เป็นแฟชั่น เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาตามโอกาสที่เราได้รับ”

จุนจิ อิโต้ นักเขียนการ์ตูนต้นแบบ

กว่าจะมาเป็นนักวาดภาพประกอบมือต้นๆ ของเมืองไทย เราถามถึงคนต้นแบบซึ่งเป็นแรงบันดาลใจของเขา โอ ธีรวัฒน์ ตอบอย่างไม่ลังเลและเขาบอกว่า มีเพียงหนึ่งเดียวในดวงใจสำหรับเขาก็ว่าได้ คนนั้นคือ อาจารย์จุนจิ อิโต้ (Junji Ito) บุคคลในตำนานแห่งวงการการ์ตูนสยองขวัญของประเทศญี่ปุ่น

“สิ่งที่ผลักดันให้เรามาถึงตรงนี้ฟังดูอาจจะแปลกๆ นิดหน่อย เพราะผมเป็นคนชอบการ์ตูนสยองขวัญของญี่ปุ่นและชื่นชอบนักเขียนการ์ตูนญี่ปุ่นคนหนึ่งมากๆ คือ อาจารย์จุนจิ อิโต้ ซึ่งประวัติของนักเขียนท่านนี้ คือ อาจารย์จุนจิได้รับอิทธิพลการวาดจากพี่สาวและงานของ อาจารย์อุเมซุ คาซุโอะ นักเขียนสยองขวัญยุคเก่า ทำให้เขาเริ่มสนใจเกี่ยวกับการ์ตูนสยองขวัญและเขาเป็นคนที่เราติดตามงานมาเรียกได้ว่าตลอดชีวิต ผมเริ่มติดตามผลงานของเขาตั้งแต่ผมเรียนอยู่ชั้น ม.ต้น เรียกว่าเป็นติ่งเหนียวแน่นมาก คือเก็บผลงานทุกชิ้นที่ออกมา ออกหนังสือการ์ตูนอะไรมา ผมเก็บหมด และเหมือนเขาเป็นคนเงียบๆ เพราะว่าไม่ได้มีสินค้าอย่างอื่นออกมานอกจากการ์ตูน อาจจะเพราะเป็นการ์ตูนสยองขวัญด้วย ผมก็เลยได้ติดตามแต่หนังสือ แล้วก็ติดตามไปอ่านเรื่องราวของเขาตามบล็อกต่างๆ”

สำหรับการ์ตูนสยองขวัญที่ทำให้อิโต้ดังเปรี้ยงขึ้นมา คือ เรื่อง โทมิเอะและก้นหอยมรณะ ที่ถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์และหลังจากนั้นก็มีผลงานสยองขวัญที่เป็นเรื่องสั้นออกมามากมาย แม้ว่าตอนนี้แวดวงการ์ตูนสยองขวัญจะซบเซา แต่การ์ตูนของอาจารย์จุนจิยังเป็นอมตะไม่เสื่อมคลายจนกลายเป็นหนึ่งในตำนาน

“ผมเคยอ่านบทให้สัมภาษณ์ของอาจารย์จุนจิไว้ว่า เขาจะวาดผู้หญิงที่สวยที่สุด ขณะเดียวกันเขาก็จะวาดผีให้น่ากลัวที่สุด คำนี้เป็นคำที่ฝังอยู่ในใจของผมตลอดมา สิ่งที่เขาพูดก็คือความสวยงามที่สุดกับความน่ากลัวที่สุดมันเป็นคนละฝั่งกัน แต่ก็ต้องทำให้ถึงทั้งสองด้าน และผมก็มีความรู้สึกแบบนี้เหมือนกัน เพราะว่าเราทำงานหลายอย่าง หลายแนว ซึ่งทุกแนวที่ได้ทำผมก็อยากทำให้มันถึงทำให้มันดีที่สุดในแต่ละแนว ผมรู้สึกว่าผมอยากทำให้ได้แบบนี้บ้าง”

เมื่อถามถึงการเริ่มติดตามผลงานของปรมาจารย์ด้านการ์ตูนสยองขวัญญี่ปุ่นคนนี้ โอ ธีรวัฒน์ บอกว่า “ผมติดตามงานของอาจารย์จุนจิมาตั้งแต่เด็ก ชีวิตนี้อยากเจอตัวจริงมากๆ ครั้งหนึ่งผมเคยตามไปในงานพบปะแฟนหนังสือของเขาในงานหนังสือของสิงคโปร์ ประมาณว่าผมไปถึงสิงคโปร์แล้ว แต่ก็คลาดกันจนได้ แต่ความตั้งใจของผมก็คือชีวิตนี้จะต้องเจอเขาให้ได้ ถ้าได้เจอเขาก็จะบอกเขาว่า งานของเขาทำให้เรามีวันนี้ได้”

การเติบโตมาพร้อมผลงานของมือต้นของนักวาดการ์ตูนสยองขวัญของญี่ปุ่น นักวาดภาพประกอบมือต้นของเมืองไทย อธิบายงานของอาจารย์จุนจิ ว่า “มันทั้งสวยทั้งพิศวง มันน่ากลัวด้วย แต่ก็มีความน่าสนใจที่คนอื่นไม่สามารถเขียนแบบนี้ได้ ผมมองว่ามันเป็นมากกว่าความน่ากลัว คือ ทั้งหลอน สวย และพิศวง ไม่รู้คิดได้ยังไง สิ่งที่เรานำมาใช้ในงานของเราที่ดูเหมือนจะคนละแนว แต่ผมว่าจริงๆ แล้วเราเชื่อว่าในทุกๆ สาขาของศิลปะมันมีความงามที่เชื่อมโยงกันอยู่ อย่างรูปผู้หญิงสวยหรือผู้หญิงน่ากลัวที่พูดถึง รูปผู้หญิงสวยแววตาเขาก็น่ากลัวได้ ขณะเดียวกันรูปที่มีความน่ากลัวอยู่เส้นผมของเธอก็อาจจะสวยได้”

เพราะความงามทุกอย่างมันมีความเกี่ยวข้องกัน...

ข่าวล่าสุด

ขนส่ง เตือน! รถติดถุงลมนิรภัยทาคาตะ เสี่ยงอันตรายถึงชีวิต เช็ก-เปลี่ยนฟรี