ค้นหาความรักความหมาย ในบทเพลงของ ‘สควีซ แอนนิมอล’

โดย...พรเทพ เฮง ภาพ : เฟซบุ๊ก Sqweez Animal [SQ] Official

การหยิบบทเพลงของวงดนตรีวงใดวงหนึ่งมาฟังอย่างต่อเนื่องรวดเดียวจบทุกอัลบั้มไม่ค่อยเกิดขึ้นบ่อยนัก เป็นการค้นหาความหมายอีกครั้งหนึ่ง ในวันเวลาที่ความเศร้าในโศกนาฏกรรมของการจากไปก่อนกาลเกิดขึ้น

วงสควีซ แอนนิมอล (Sqweez Animal) เป็นวงดนตรีดูโอ มีสมาชิกคือ วิน ศิริวงศ์ (วิน) ร้องนำ ประชาธิป มุสิกพงศ์ (สิงห์) กีตาร์ มีผลงานสตูดิโออัลบั้มมาแล้ว 2 ชุด คือ “อาจยังไม่สาย” ปี 2550 กับ “ไม่มีที่มา” ปี 2554

พวกเขาเล่นดนตรีและเขียนเพลงโดยมีพื้นฐานอยู่ในแนวทางดนตรีป๊อปร็อก มีกลิ่นอายของดนตรีแนวฟังค์กี้ ริธึ่มแอนด์บลูส์หรืออาร์แอนด์บี โซล และดิสโก้ ผสมผสานอย่างลงตัว

ด้วยการเขียนเนื้อร้องที่ไม่โดดเด่นล้ำเลิศนัก หรือมีบุคลิกเฉพาะมากนัก รวมถึงวิธีการร้องที่บีบดัดเสียงในแนวทางเพลงป๊อปไทยสมัยนิยม ทำให้งานเพลงไม่โด่งดังแบบสุดกู่ แต่สามารถเกาะตลาดเพลงยอดนิยมอยู่ได้ระดับหนึ่ง โดยเฉพาะคนฟังเพลงรุ่นปัจจุบันตามผับที่ชื่นชอบงานเพลงในสไตล์นี้

มิติที่แตกต่างในส่วนของดนตรี โดยเฉพาะการเล่นกีตาร์ของ สิงห์-ประชาธิป ค่อนข้างที่จะมีความเป็นส่วนตัวและลูกเล่นในลักษณะของตัวเอง ไม่ต้องโชว์เทคนิคแพรวพราว เอากันพองามฟังไม่ยาก เล่นกับอารมณ์และทางเพลงให้ลื่นไหลอย่างน่าสนใจ โดยเฉพาะทางดนตรีที่เป็นไซเคเดลิคและโซลที่ฟุ้งลอยอยู่

การหยิบงานของสควีซ แอนนิมอล ทั้งสองอัลบั้มมาฟัง รู้สึกได้ว่าพวกเขายังมีเวลาที่จะเดินไปข้างหน้าอยู่ไม่น้อย บทเพลงส่วนใหญ่อยู่ในอารมณ์อกหักและไม่มั่นใจในรักที่เป็นอยู่ และคอยเฝ้าหาใครสักคน จึงพยายามจับเอาเนื้อร้องในแต่ละบทเพลงที่สื่อถึงความรักความหมายที่ลึกซึ้งคมคายออกมาได้อยู่ประมาณหนึ่ง

จากอัลบั้ม “อาจยังไม่สาย” ก็มีหลายเพลงที่เขียนเนื้อร้องฉายฉานอารมณ์ความรู้สึกผ่านเนื้อคำและถ้อยความออกมาได้อย่างน่าสนใจ อย่างบทเพลง “ไม่มองกลับหลัง” สะท้อนถึงความหมายไม่ให้ไปยึดติดกับอดีตและมองไปข้างหน้า

“บอกกับตัวเองจะไม่มองกลับหลัง

จากนี้วันนี้พรุ่งนี้จะไม่ไปคิดถึงมัน

อีกแล้วตลอดไป จะเริ่มต้นใหม่ จะไม่นั่งร้องไห้”

บทเพลง “เริ่มใหม่” ก็มีลักษณะเดียวกันกับเพลง “ไม่มองกลับหลัง” สื่อสารถึงการให้ยอมรับความจริง

“วันที่มีความหมายและทำให้ใจของเราเบิกบาน

เพียงเรา ยอมรับวันใหม่ๆ

เพียงเรา ยอมรับวันเก่าๆ ให้ผ่านไป”

ส่วนอัลบั้ม “ไม่มีที่มา” การเขียนเนื้อร้องโดยรวมนั้นพัฒนาขึ้นมาอีกระดับหนึ่ง ดนตรีไม่จัดจ้านและหวือหวาเท่าชุดแรก เน้นฟังง่ายในตลาดเพลงป๊อปมากกว่า บทเพลง “พรุ่งนี้ที่ดีกว่า” ก็ยังตอกย้ำความคิดที่ให้ยอมรับความจริง ทิ้งอดีตและมุ่งสู่อนาคต

“ฉันขอเวลาอยู่กับตัวเอง เพราะว่าวันนี้ไม่พร้อมจะเจอกับใคร

ขออยู่อย่างเหงาๆ ไปคนเดียวจะได้ไหม

มันต้องมีวันที่ฉันพบ จะโดดเดี่ยวฉันก็ยอมรับได้”

บทเพลงที่ดีมากในการเขียนเนื้อร้องคือ “ยาเวลา” ก็วนเวียนอยู่กับความพยายามที่จะหาทางออกของตัวเองในเรื่องความรัก อยู่ให้ได้เพื่อรอวันพรุ่งนี้

“กาลเวลา มันช่างคอยเยียวยารักษาบรรเทา

ยังไม่รู้ทางออก และไม่รู้จะบอกกับเขา

ว่าต้องทำเช่นไร

ยิ่งคิดยิ่งไม่เข้าใจ (อย่าเพิ่งท้อ)

และวันนี้ถ้าเธอเสียใจ (แค่เธอลองหาคำตอบ)

ในอีกวันที่ฝันเป็นใจ อย่าไปคิดอย่าไปมอง

ว่าพรุ่งนี้เป็นวันสุดท้ายปล่อยตามเวลา”

ปิดท้ายด้วยบทเพลงที่น่าสนใจอีกเพลง “2012” ซึ่งสิงห์-ประชาธิป เป็นคนเขียนเนื้อร้องและทำนองดนตรีเอง แสดงถึงความเด็ดเดี่ยวของเขาในมุมมองที่มีต่อโลกใบนี้

“อย่าให้โลกใบนี้คอยชี้ชะตา

อย่าให้ภูเขาแผ่นฟ้าล่องลอยลงมา

อย่าให้โลกใบนี้คอยชี้ชะตา

อย่าให้ภูเขาแผ่นฟ้าคอยซับน้ำตา”

แม้สมาชิกคนหนึ่งของวงสควีซ แอนนิมอล จะจากไปก่อนกาลและก่อนวัยอันควร แต่ดนตรีและบทเพลงของเขาก็ยังอยู่ในใจคนฟังเพลงและคงอยู่ต่อไปบนโลกใบนี้...