posttoday

ความงาม จากห้องแล็บ ฝีมือนักวิจัยหญิงรุ่นใหม่

29 กรกฎาคม 2558

เรื่องความสวยความงามมีให้เก็บความรู้ในอีเวนต์ระดับชาติ มหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2558 (Thailand Research Expo 2015)

โดย...ปอย ภาพ ภัทรชัย ปรีชาพาณิช

เรื่องความสวยความงามมีให้เก็บความรู้ในอีเวนต์ระดับชาติ มหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2558 (Thailand Research Expo 2015) ปีนี้จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 10 แล้ว เจ้าภาพสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ หรือ วช. จึงขอฉลองครบทศวรรษ จัดใหญ่ จัดเต็ม ระหว่างวันที่ 16-20 ส.ค.นี้ ณ โรงแรมเซ็นทารา
แกรนด์ และบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ เพื่อเปิดโอกาสและสร้างเวทีทางวิทยาศาสตร์ให้นักวิจัย นักวิชาการ ได้ปล่อยของโชว์ผลงานที่คิดค้นกันมาแรมปี 

วช.ย้ำว่าวันนี้ขอเปิดโลกงานวิจัย ที่ใครๆ ฟังแล้วพานคิดว่าอัดแน่นด้วยเอกสารหนาหนักๆ ยกกันทีกล้ามขึ้นเป็นมัดๆ หรือปล่อยให้เป็นแค่เปเปอร์วางอยู่บนหิ้งอย่างทรงคุณค่า แต่วันนี้งานวิจัยขยายวงกว้าง เน้นการนำไปต่อยอดสามารถนำไปใช้งานได้อย่างจริงจัง งานวิจัยที่นอกจากจะเดินออกจากกระดาษอย่างเป็นรูปธรรมแล้ว ในวันนี้ยังก้าวเข้ามาแนบชิดกับชีวิตประจำวันของคนรุ่นใหม่ทุกเพศ ทุกวัย

ไม่เว้นแม้แต่แวดวงความงาม แฟชั่น และ DIY ซึ่งในงานนี้มีผลิตภัณฑ์ที่คิดค้นจากมันสมอง “นักวิจัยหญิงรุ่นใหม่” ระดมผลงานมาโชว์ครบ 360 องศา ถ้ากล่าวว่าใครมาเดินเที่ยวงานนี้จะได้เห็นโลกของความงาม ตั้งแต่สวยจากภายในสู่ภายนอกเลยก็ว่าได้ 

ความงาม จากห้องแล็บ ฝีมือนักวิจัยหญิงรุ่นใหม่

‘เครื่องประดับเงิน’ คิดค้นให้ปั้นกันชิลๆ

งานวิจัยเพื่อตอบสนองแฟชั่น Magic Metal Clay Jewelry From Micro/Nano Sized Precious Metal Particles คือแนวคิดของดอกเตอร์หน้าละอ่อน ผศ.ดร.พิมพ์ทอง ทองนพคุณ อาจารย์จากมหาวิทยาลัยบูรพา และทำงานให้กับหน่วยวิจัยอัญมณีและเครื่องประดับในสถาบันแห่งนี้ด้วย 

ผศ.ดร.พิมพ์ทอง หยิบซองผงโลหะสีขาวๆ ให้ดู อธิบายว่าพร้อมปั้นสำหรับผลิตภัณฑ์เครื่องประดับทำมือ ได้แก่ ซิลเวอร์เคลย์ คอปเปอร์เคลย์ และสเตอร์ลิงค์ซิลเวอร์เคลย์ ผลิตจากผงโลหะเงินและทองแดงระดับนาโนเมตรและไมโครเมตร เป็นการคิดค้นเพื่อเสนอทางเลือกใหม่ในการผลิต เครื่องประดับและงานศิลป์สำหรับอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับไทย

งานวิจัยชิ้นนี้คิดมาคู่กับเตาเผาขนาดเล็ก ทำจากเซรามิกไฟเบอร์ทนความร้อนสูง สำหรับใช้ร่วมกับเตาไมโครเวฟในครัวเรือน เรียกว่าใครอยากทำงานอดิเรกหรือทำเป็นเอสเอ็มอีก็ย่อมได้

“ใครที่มีฝีมือประดิดประดอยก็น่าจะชอบผลิตภัณฑ์โลหะผงซึ่งปั้นได้เหมือนดินเหนียว ใช้เวลาในการทำไม่ถึง 10 นาทีก็เผาเสร็จแล้วนะคะ ทำเครื่องประดับชิ้นเล็กๆ เช่น ต่างหู แหวน สร้อยข้อมือ

ความงาม จากห้องแล็บ ฝีมือนักวิจัยหญิงรุ่นใหม่ ผศ.ดร.พิมพ์ทอง ทองนพคุณ อ.ดาวรรณ หมัดหลี

 

ดิฉันคิดงานชิ้นนี้ขึ้นมาโดยคิดถึงชาวบ้านเอสเอ็มอีเป็นหลักค่ะ อยากให้มีผลิตภัณฑ์ที่ทำได้ง่ายๆ สร้างอาชีพได้สบายๆ ผงโลหะในรูปแบบนี้มีขายที่ญี่ปุ่น แต่ด้วยส่วนผสมแตกต่างจากเรา ราคาจึงสูงมาก ดิฉันจึงคิดต่อยอดด้วยการทำให้ราคาวัสดุถูกลงด้วย พัฒนาจากซิลเวอร์เคลย์ เงิน 100% มาเป็นสูตรที่ทำได้ในต้นทุนต่ำ เป็นสเตอร์ลิงค์ซิลเวอร์เคลย์ ปั้นได้ง่ายเหมือนกันค่ะ” ผศ.ดร.พิมพ์ทอง อธิบายและโชว์เครื่องประดับสวยงาม หลากรูปแบบ

งานนี้มีบัดดี้ช่วยกันเรื่องดีไซน์ ดาวรรณ หมัดหลี อาจารย์คณะอัญมณี มหาวิทยาลัยบูรพา วิทยาเขตจันทบุรี

“ใครมาเที่ยวงานก็แวะมาที่บูธได้ค่ะจะมีให้ทดลองปั้นและเผา ได้ทำเครื่องประดับสวยๆ กัน แล้วในวันเปิดงาน 16 ส.ค. มีแฟชั่นโชว์เครื่องประดับของนักศึกษา ม.บูรพา ด้วยนะคะ ถ้าสนใจมาคุยกันได้เพราะดิฉันก็จะได้ไอเดียใหม่ๆ จากงานนี้เสมอค่ะ เช่น ปีที่ผ่านมาก็มีเจ้าของเอสเอ็มอี บอกอยากให้ช่วยคิดผงทองแดง ซึ่งนี่คือความยากของนักวิทยาศาสตร์ที่ต้องคิดค้นอนุภาคเหมาะสมกับการปั้นได้ เผาแล้ววัสดุแข็งแรง

งานชิ้นแรกดิฉันใช้เวลาในการวิจัยเกือบ 2 ปี บางตัวคิดมาได้ นักออกแบบเครื่องประดับ อาจารย์ดาวรรณ ก็บอกว่าสูตรนี้ปั้นออกมาไม่ได้ เนื้อเหลวเกินไป ดิฉันก็ต้องกลับไปคิดใหม่ แต่ดิฉันคิดว่านี่คือความท้าทายของการทำงานในห้องแล็บ ถ้าทำสำเร็จก็กลายเป็นความสนุกที่ได้คิดค้นสิ่งวัสดุใหม่ๆ ออกมาได้”  ผศ.ดร.พิมพ์ทอง กล่าวถึงผลงานอย่างภูมิใจ

ความงาม จากห้องแล็บ ฝีมือนักวิจัยหญิงรุ่นใหม่

‘เห็ดหอม’ ในขวดโลชั่น

อีกชิ้นงานวิจัยเพื่อความงาม ครีมบำรุงผิวจากสารสกัดเห็ดหอม ผลงานของ ผศ.ณพัฐอร บัวฉุน อาจารย์คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์

สมุนไพรจัดเป็นนางเอกของวงการความงาม นักวิจัยคิดสูตรเครื่องสำอางเลือกพืชพรรณธรรมชาติเป็นองค์ประกอบสำคัญหรือเป็นสารออกฤทธิ์ในเครื่องสำอาง กลายเป็นเทรนด์ฮิตไม่เลิกรา ในเมืองไทยมีพืชสมุนไพรที่นำมาพัฒนาได้อีกมาก แต่การพัฒนาเป็นสินค้าได้ยังมีอุปสรรคอยู่หลายประการ เช่น เทคโนโลยีการผลิตที่เกี่ยวกับสูตรผสมต่างๆ ยังไม่พัฒนาเท่าที่ควร  ผศ.ณพัฐอร บอกว่างานของนักวิทยาศาสตร์จะช่วยต่อยอดในเรื่องนี้

“ครีมต่อต้านริ้วรอย ผิวขาว ยังเป็นเครื่องสำอางที่ได้รับความนิยมในกลุ่มผู้หญิงไทย ส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์เหล่านี้มักเป็นสารธรรมชาติจากพืชที่แสดงฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ได้แก่ สารกลุ่ม Flavonoids, Phenylpropanoids หรือสารที่มีฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์ไทโรซิเนสซึ่งเกี่ยวข้องการสร้างเม็ดสีของผิวหนัง เช่น สารจำพวก Phenolic Compounds พืชจึงเป็นแหล่งวัตถุดิบที่สำคัญในอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง

ความงาม จากห้องแล็บ ฝีมือนักวิจัยหญิงรุ่นใหม่ ผศ.ณพัฐอร บัวฉุน

 

ดิฉันสนใจปริมาณสารฟีนอลิกสกัดจากเห็ดหอม ซึ่งเห็ดหอมที่ใช้ปลูกในไทยนะคะและนำผลที่ได้ไปพัฒนาเป็นส่วนประกอบในครีม โลชั่น เซรั่ม ใช้ในการบำรุงผิว ผลงานครีมกระปุกแรกออกมาเนื้อหนักไปค่ะ ก็ต้องกลับมาปรับสูตรจนได้เนื้อครีมที่เบาทาสบายขึ้นในอากาศร้อนชื้นบ้านเรา แล้วปัญหาของเครื่องสำอางจากสมุนไพร คือ มีโลหะหนักอยู่เยอะ งานนักวิจัยก็ต้องช่วยคิดสูตรเพื่อการแก้ไขปัญหานี้ด้วยค่ะ สูตรนี้กว่าจะได้ ดิฉันใช้เวลาอยู่ในแล็บ 6 เดือนเต็ม ภูมิใจค่ะที่ได้ผลงานที่แก้ปัญหาสกัดโลหะหนัก

สมุนไพรไทยน่าสนใจหลายๆชนิด เลยค่ะ แต่เรายังขาดการพัฒนาอย่างเป็นระบบ ดิฉันสนใจสารเอเอชเอในผลไม้ตระกูลลูกหว้า ชื่อ พิลังกาสา หรือลูกเนียง เป็นผลไม้ที่ไม่มีใครสนใจเพราะรสชาติออกเปรี้ยว ฝาด ต่อไปอาจไม่มีใครปลูก ก็อยากหยิบผลไม้ชนิดนี้มาเข้าแล็บคิดสูตรเครื่องสำอางคุณภาพซึ่งต้องทำหน้าที่ทาแล้วเห็นผล”  ผศ.ณพัฐอร บอกพร้อมรอยยิ้ม

‘ข้าวไรซ์เบอร์รี่’ ก็เกี่ยวกับความสวยนะ!

การพัฒนาระบบการหมักน้ำส้มสายชูจากข้าวไรซ์เบอร์รี่แบบต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2555 และเริ่มวางขายให้ผู้ประกอบการ คือ Lanicha International ได้ในปี 2556 ผลงานของ เขมพัษ ตรีสุวรรณ นักวิจัย ฝ่ายจุลชีววิทยาประยุกต์ สถาบันค้นคว้าและพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหาร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จึงเป็นงานลงจากหิ้งเข้าถึงผู้บริโภคและเข้ากระแสเทรนด์ฮิตได้อย่างจริงๆ จังๆ 

“ถ้าใครชอบแอปเปิ้ลไซเดอร์ก็น่าจะชอบขวดนี้ ทำงานโดยมีโจทย์จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ให้คิดเพิ่มมูลค่าข้าวไทย ดิฉันสนใจข้าว 4 ชนิด คือ ข้าวหอมนิล หอมมะลิแดง ข้าวสินเหล็ก และข้าวไรซ์เบอร์รี่

ความงาม จากห้องแล็บ ฝีมือนักวิจัยหญิงรุ่นใหม่ Lanicha International

 

สูตรนี้ใช้เวลา 1 ปีครึ่งค่ะ ข้าวพันธุ์ไรซ์เบอร์รี่มีแอนโทไซยานินซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระสูง การผลิตน้ำส้มสายชูหมักจากไวน์ข้าวไรซ์เบอร์รี่จะได้กลิ่นหอมของข้าว จึงนำข้าวสายพันธุ์นี้มาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ทางเลือกของคนรักสุขภาพ อยากดื่มน้ำผลไม้ไม่หวาน โดยนำมาผสมกับน้ำผลไม้เป็นเครื่องดื่มที่ช่วยเรื่องระบบย่อยอาหาร

นักวิจัยวันนี้ก็ต้องสนใจเทรนด์ด้วยนะคะ เพื่อสร้างเอกลักษณ์ให้ผลิตภัณฑ์ น้ำส้มสายชูจากข้าวไรซ์เบอร์รี่ผสมน้ำทับทิม อีกสูตรคือผสมฮันนี่เลมอน คนรุ่นใหม่ก็ซื้อง่ายขึ้นด้วย

นอกจากสร้างสมมติฐาน นักวิจัยต้องมีไอเดียด้วยค่ะ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับจังหวะ โอกาส และสถานการณ์ ณ ตอนนั้นด้วย นี่คือเรื่องยากในการทำงานอย่างหนึ่ง ดิฉันทำงานวิจัยบนพื้นฐานต้องนำไปใช้ประโยชน์ได้จริงค่ะ ส่งผลเป็นแรงบันดาลใจให้เราคิดค้นงานใหม่ๆ ได้ขึ้นมากเรื่อยๆ ซึ่งตอนคิดงานนี้ขึ้นมา ดิฉันมีโจทย์ว่าทำอย่างไรจึงจะคิดสูตรน้ำส้มสายชูได้โดยไม่ต้องใช้เวลาหมักนานและได้ปริมาณเยอะ เพื่อตอบสนองตลาดที่เพิ่มขึ้นซึ่งเป็นตัวชี้วัดความสำเร็จของเราด้วย”

นางเอกของวันนี้เธอคือไรซ์เบอร์รี่

งานวิจัยเพื่อความงามผลงานของสาวสวยวัย 27 ปี พัลลภา วุฒิภาพรกุล  นักวิจัย ฝ่ายนาโนเทคโนโลยีและเทคโนโลยีชีวภาพ สถาบันค้นคว้าและพัฒนาผลิตผลทางการเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร วิทยาเขตบางเขน คิดสารสกัดจากโปรตีนจากรำข้าวไรซ์เบอร์รี่  และนำไปพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงาม

พัลลภา ทุ่มเทเวลากว่า 2 ปีในห้องแล็บ ในที่สุดของความภูมิใจเมื่อได้ลิปมันหลอดนี้ กลิ่นหอมนุ่มของข้าวไทยน่าใช้ที่สุด

“ข้าวไรซ์เบอร์รี่เป็นข้าวสีม่วงพัฒนาสายพันธุ์ขึ้นมาใหม่และยังไม่มีการคิดค้นสูตรใช้ในเครื่องสำอาง การสกัดเย็นก็ได้โปรตีนและโปรตีนไฮโดรไลเสทจากรำข้าว ที่ได้โปรตีน 30-40% สารประกอบฟีนอลิก กรดอะมิโน มีคุณค่าทางอาหารสูง สำหรับผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางก็เลือกใช้ในเรื่องความนุ่มชุ่มชื่น

ความงาม จากห้องแล็บ ฝีมือนักวิจัยหญิงรุ่นใหม่ พัลลภา วุฒิภาพรกุล

 

ผลิตภัณฑ์ชิ้นนี้ใช้เวลา 2 ปี เป็นงานทีสิสตอนเรียนปริญญาโทที่คณะวิทยาศาสตร์ สาขาพัฒนาผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ แล้วก็มาทำงานที่นี่ ซึ่งถ้าเทียบกับเงินเดือนก็ไม่สูงเหมือนงานเอกชน (บอกพร้อมรอยยิ้ม) แต่งานวิจัยได้เห็นอะไรใหม่ๆ สนุกดีนะคะ  อย่างในไทยก็ได้เห็นความหลากหลายของพืชพรรณที่มีคุณสมบัติดีๆ มากมาย ในกลุ่มข้าวสีม่วงมีสารต้านอนุมูลอิสระได้ ช่วยผลัดเซลล์ผิวได้ งานของดิฉันก็ต้องคิดสูตรที่สมบูรณ์ออกมา

งานทดลองในห้องแล็บต้องทุ่มเทมากว่า 8 ชั่วโมงต่อวัน เฟลบ่อยๆ นะคะ ยอมรับว่าเหนื่อย ท้อมาก เมื่อผลลัพธ์ออกมาไม่ตรงกับทฤษฎี ก็ต้องกลับไปศึกษาค้นคว้าตำราอีก แต่เมื่อเราประสบความสำเร็จกับการเป็นผู้ค้นพบใหม่ นี่คือแรงบันดาลใจในการทำงานเลยนะคะ

มหกรรมงานวิจัยฯ ครั้งนี้ ดิฉันคิดว่าคนทำงานทุกคนย่อมมีหวังว่าเราจะได้เจอผู้ประกอบการที่สนใจผลงานของเราและซื้อองค์ความรู้ของเราไปผลิตในระดับแมส ซึ่งนี่คือที่สุดความฝันของคนทำงานในวงการนี้เลยค่ะ” พัลลภา นักวิจัยหญิงรุ่นใหม่บอกทิ้งท้ายพร้อมรอยยิ้มสดใส

ข่าวล่าสุด

ขนส่ง เตือน! รถติดถุงลมนิรภัยทาคาตะ เสี่ยงอันตรายถึงชีวิต เช็ก-เปลี่ยนฟรี