เสียงจาก "ขี้กระทิง" แห่งเขาแผงม้า
เข็มทอง โมราษฎร์
โดย...เข็มทอง โมราษฎร์
ผมขออนุญาตเป็น "ขี้กระทิง" บนเขาแผงม้า และขออนุญาตตั้งคำถามร่วมกับท่านผู้ทรงเกียรติทุกๆท่านนะครับ ท่านคิดเห็นยังไงในคำถาม ที่ขี้กระทิงเรียนถามท่าน
.........................................
วันที่ 1-5 กรกฎาคม 2558 มีงานรำลึก 20 ปี ฟื้นป่าเขาแผงม้าและภาวนา...รักษาป่าเขาแผงม้า อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมาในงานขอเชิญสื่อมวลชน และผู้สนใจลงพื้นที่ปลูกหญ้าเลี้ยงกระทิง เขาแผงม้าและการขยายถนนรอบเขาใหญ่
ก่อนอื่นต้องขอชื่นชมมูลนิธิคุ้มครองสัตว์และพรรณพืชแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ที่สร้างป่าเขาแผงม้าให้เกิดขึ้นมาในพื้นที่ 5,000 ไร่ ได้อย่างอัศจรรย์ ภายในยี่สิบปี
และสิ่งที่มูลนิธิคุ้มครองฯสร้าง คือสิ่งที่เป็นคุณค่าที่แสนวิเศษขึ้นมาอีก ก็คือป่าปลูกใหม่ผืนนี้ มีกระทิงจากป่าเขาใหญ่งลงมาอาศัย จากไม่ถึงสิบตัว ตอนนี้มีมากกว่า 200 กว่าตัว กระทิงก็ยังอาศัยในพื้น 5,000 ไร่
ในงานภาวนา ...รักษาป่าเขาแผงม้า โดยแกนนำสร้างป่าใหม่ให้เขาแผงม้า 5,000 ไร่ครั้งนี้ นำโดยพี่โชคดี ปรโลกกานนท์ พี่เบิ้ม อรทัย โจษกลาง พี่อ้วน นิคม พุทธา ในงานมีการตั้งคำถามจากเจ้าภาพงาน และท่านสนช.@Hannarong Yaowalers ซึ่งทั้งสี่ท่าน เป็นพี่ที่ผมรักเคารพ นับถืออย่างยิ่ง
ถ้าท่านพี่ทั้งสี่ จะเกลียดชัง ประนามหยามหมิ่นน้องนุ่ง ผมก็หลบเลี่ยงไม่ได้ และยินดีที่จะรับกรรม ถ้าพี่ทั้งสี่จะให้อภัยน้องนุ่ง ก็ถือว่าพี่ๆได้แผ่ความเมตตา ไปยังกระทิง กวางเก้ง หมูป่า สัตว์อื่นในเขาแผงม้า รวมไปถึงชุมชนที่มีพื้นที่ที่ติดกับเขาแผงม้า
ขอเริ่มเล่าเริ่มจาก 5 กันยายน 2554 กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ประกาศจัดตั้ง เขตห้ามล่าพันธุ์สัตว์ป่าเขาแผงม้า ประกาศหลังจากได้รับการส่งมอบพื้นที่ป่าเขาแผงม้า 5,000 ไร่ จากมูลนิธิคุ้มครองฯ
เมื่อประกาศเป็นเขตห้ามล่าพันธุ์สัตว์ป่าเขาแผงม้า หัวหน้าเขตท่านแรก วรรณชนก สุวรรณกร ลงมาบุกเบิกด้วยแผนแม่บท บ้านพักเจ้าหน้าที่ สำนักงานเขต ห้องน้ำ ห้องครัว แผนการทำงานอนุรักษ์ป้องกันกระทิง ป้องกันป่าถูกกางออกมาใช้
บ้านพักเจ้าหน้าที่ ห้องน้ำ ห้องครัว ชุดแรกที่ได้รับคำสั่ง หัวหน้าวรรณชนก ได้ไปขอความช่วยเหลือจากหลวงพ่อกัณหา สุขกาโม วัดป่าทรัพทวีธรรมมาราม ต.วังหมี อ.วังน้ำเขียว หลวงพ่อท่านก็มีเมตตา จัดสร้างให้ทันที ไม่ได้ใช้งบประมาณของรัฐบาลแม้แต่บาทเดียว
เมื่อเจ้าหน้าที่มีที่พักอาศัย แผนแม่บทต่อมาก็คือ สำนักงานของเขตห้ามล่าพันธุ์สัตว์ป่าเขาแผงม้า เจ้าหน้าที่มองว่า ถ้าจะสร้างที่เดิมที่เคยเป็นสำนักงานมูลนิธิคุ้มครองฯและบ้านพักเจ้าหน้าที่ เวลาออกสกัด ลาดตระเวณไม่ทันการณ์ ต้องลงจากเขามา๕กิโล ทางเป็นหินบนเขา ช้า ไม่ทันการ
จึงมาสร้างสำนักงานที่ปากทางขึ้นไปเขาแผงม้า มีการประท้วง ฟ้องศาลปกครอง เรื่องการตัดไม้ทำลายป่า ที่มูลนิธิคุ้มครองฯปลูกมา แต่ศาลปกครองก็ยกฟ้องไปแล้วโดยให้นำหนักยังไง ดุลยพินิจของศาลคงเห็นว่า มันเป็นสิ่งจำเป็น เหมือนจะสร้างโรงเรียนก็ต้องมีอาคาร สร้างโรงพักก็ต้องมีสำนักงานให้ตำรวจ
เจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าพันธุ์สัตว์ป่าเขาแผงม้า แม้ศาลจะอนุญาตให้สร้างได้ แต่ก็เคารพคนในพื้นที่ ยอมย้ายที่มาสร้างสำนักงานแห่งใหม่ เป็นพื้นที่รับได้ทั้งสองฝ่าย สมัยที่บุกเบิกใหม่ๆ เจ้าหน้าที่กางเต็นท์นอน ผมเคยไปทำกระสอบทราย ไปเป็นบังเกอร์ บังเกอร์นี้ไม่ได้กันกระสุนหรือระเบิดใดๆ แต่เป็นที่กันลมเวลาเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า ไปเฝ้าจุดสกัด ไล่กระทิงกลับเข้าป่าบ้าง กันคนล่ากระทิงบ้าง เพราะมันโล่ง 180 องศา ต้นไม้ไม่มี พวกเราขนทรายจากข้างล่าง ไปกรอกใส่ถุงปุ๋ย ทำเป็นบังเกอร์วงกลม สูงท่วมเอว ข้างบนกลางผ้าใบกันแดด กันลม กันฝน
มาในวันนี้ มีคำถาม รวมทั้งคำกล่าวหาว่า
"มีการแผ้วถางพื้นที่ปลูกป่า 500 ไร่ เพื่อปลูกหญ้าให้กระทิงกิน อยากรู้ว่าทำทำไม ได้ถามกระทิงล่ะหรือว่ากระทิงชอบป่าว หญ้า ลูซี่นี่เขาจัดการโครงการปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติฯกียอย่างนี้ กฎหมายต้องใช้อย่างเท่าเทียม ใช่ป่าว นากยกพูดแทบทุกวันที่นั่งนี่น่ะ อยากให้ระดับนโยบายมาตอบหน่อย ทวงคืนผืนป่า แต่ป่าดี ๆ คนลงแรงปลูก นี่ตัดทำไม
ถามอีกที ตัดทำไม ?????ให้พิทักษ์ได้อาศัย"
ผมยอมรับได้ เพราะเป็นพี่ๆที่เดินสาย อนุรักษ์ธรรมชาติ มาก่อนผม แต่ผมขอชี้แจงบ้างแม้จะไม่มีฐานะอะไร เลยขอชีแจงในฐานะขี้กระทิงแห่งเขาแผงม้า (พี่ๆจะเหยียบผมก็ได้นะครับ ถ้าไม่กลัวเหม็น)
ปี2557-58 มีงานวิจัยของนักศึกษาปริญญาโท มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ชื่องานวิจัย (ประมาณนี้) วิจัยศึกษาการแก้ปัญหาแบบมีส่วนร่วมระหว่างคนกับกระทิง ในพื้นที่เขตห้ามล่าพันธ์สัตว์ป่าเขาแผงม้า
ขอบเขตงานวิจัยแปลงกระทิงอาศัยหากินในพื้นที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาแผงม้า / ขอบเขตงานวิจัยพื้นที่อาศัยหากินในพื้นที่แปลงเกษตรพืชไร่รอบเขาแผงม้า / ออกแบบสอบถาม 700 ชุดสอบถาม ขอความคิดเห็น หมู่บ้านรอบเขาแผงม้า ในคำถาแบบปิด แบบเปิด ผมขอยกตัวอย่างคำถาม
ท่านเห็นด้วยหรือว่ากระทิง เป็นปัญหา ชาวบ้านส่วนมากเห็นด้วย
ท่านเห็นด้วยหรือไม่ ที่จะแก้ปัญหาร่วมกันทุกฝ่าย ชาวบ้านส่วนมากเห็นด้วย
ท่านเห็นด้วยกับวิธีการล้อมรั้วไฟฟ้า ชาวบ้านเห็นด้วย เพราะชาวบ้านก็ทำเหมือนกัน
ในแบบสอบถาม จะรวมไปถึง ให้สร้างแหล่งน้ำให้กระทิงในเขตห้ามล่า กระทิงจะได้ไม่ลงมาแย่งแหล่งน้ำในชุมชน รวมไปถึงหาพื้นที่ปลูกหญ้าปลอดสารเคมี เพราะชาวบ้านเห็นกระทิงลงมากินพืชไร่ ของคนในชุมชนตายเพราะสารเคมีมาแล้ว ถนนเพื่อลาดตะเวณและสกัดกระทิง ควรที่จะดีใช่หรือไม่
เขียนมาถึงตรงนี้ก็ยาวมากแล้ว มีหลายข้อ ผมนี้เขียนไม่ออก ที่เขียนไม่ออกนี้ เพราะมันแน่นในห้วใจ
มันแห้งแล้ง จะไม่ให้กระทิงมีแหล่งน้ำกินเลยหรือ
คนปลูกหญ้าให้กระทิง เขาก็ไม่ได้กินหญ้าที่ตัวเองปลูกสักต้น สักกอ
วันปลูกหญ้าก็มีชาวบ้านในอำเภอวังน้ำเขียว ผู้ว่า อัยการ ทหาร ตำรวจ เจ้าหน้าที่ป่าไม้มาหมด พวกพี่ท่านทั้งหลายอยู่ที่ไหน ทำไมไม่มาตั้งคำถาม ต่อหน้าชุมชน
ขี้กระทิงแห่งเขาแผงม้า พูดไม่ออกนะครับ มันจุก
ตัดป่า 500 ไร่ ขนาดผมเป็นคนนอก ผมยังยืนยันนอนยันเลยครับ เจ้าหน้าที่ไม่ได้ตัดไม้ ทำลายล้างอย่างที่กล่าวหา
ปลูกหญ้าลูซี่ จะให้ทำยังไงละครับ ป่ามัน 5,000 ไร่เท่าเดิม กระทิงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ไม่จัดการอะไร ปล่อยให้กระทิงไปทำลายพืชไร่ชาวบ้าน กระทิงที่เป็นมิตรกับชุมชนขนาดไหน ติดเชื้อมาตายหมดป่า เหมือนบางพื้นที่หรือครับ
การจัดการให้กระทิงมีแหล่งน้ำกิน ได้อาศัยในฤดูแล้ง มันผิดตรงไหนครับ
ไม่ทำสิผิด!!!!
อย่าอิจฉากระทิง เก้งกว้าง หรือคนที่เขาได้ทำเลยครับ
ขี้กระทิงก็มีน้ำตานะครับ
คุณค่าเราจะไม่ลดหายลงเลยครับ ถ้าไม่คอยแต่จับผิดบุคคล
เจ้าหน้าที่ก็ทำงานเต็มที่แล้ว พระก็สนับสนุนส่งเสริมแล้ว
ชุมชนก็รับรู้ปัญหา และกำลังหาทางออกร่วมกัน
ท่านก็ต้องสนับสนุนให้สมกับเป็นบุคคลากรที่ทรงคุณค่าของชุมชนสิครับ
บทบาทนำมันเปลี่ยนกันนำได้ นำคนเดียว องค์กรณ์เดียว ไม่ยั้งยืนหรอกครับ ต้องสลับสับเปลี่ยนกันไป ใครจะนำ ใครจะพาทำ ผลประโยชน์ตกอยูกับกระทิง สัตว์ป่า ชุมชนสงบสุข เยาวชนได้ใกล้ชิดกระทิง
ท่านพี่ทั้งหลายจะเอาอะไรอีกละครับ
เหยียบผมได้เลย เหยียบผมได้เลย
ที่มา https://www.facebook.com/khem2510/posts/952696111461732


