เบิ่งภู ดูน้ำซอง วังเวียง
โดย...ปัสสนาภา อัจจาธร
โดย...ปัสสนาภา อัจจาธร
“เดิมวังเวียงมีที่พักแค่ 10 กว่าแห่ง ตอนนี้เพิ่มเป็น 70 กว่าแห่งแล้ว” คุณอารมณ์ ถาวรสุข เจ้าของ “ถาวรสุข” รีสอร์ตริมน้ำซองที่เปิดมากว่า 10 ปีแล้ว บอกเล่าให้ฟังถึงความเปลี่ยนแปลงของวังเวียงในอดีตกับปัจจุบัน
ในวันนั้นวังเวียงยังคงเป็นเมืองท่องเที่ยวเล็กๆ อยู่ในแขวงเวียงจันทน์ ห่างจากเมืองหลวงประมาณ 150 กว่ากิโลเมตร และห่างจากเมืองหลวงพระบางประมาณ 200 กว่ากิโลเมตร ซึ่งนักเดินทางจากแดนไกลส่วนใหญ่มักจะมาหยุดพักสัก 1 คืนก่อนจะเดินทางด้วยรถยนต์ต่อไปยังหลวงพระบาง เพราะเป็นจุดกึ่งกลางระหว่างสองเมืองนี้ เพื่อไม่ให้เหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าจากการนั่งรถบนเส้นทางคดเคี้ยวลดเลี้ยวบนภูเขาสูงบ้างต่ำบ้างนานมากกว่า 6 ชั่วโมง
ด้วยความที่วังเวียงเต็มไปด้วยภูเขาปูนน้อยใหญ่เรียงรายสลับกัน โดยมีแม่น้ำซองไหลผ่าน ที่นี่จึงได้รับขนานนามว่าเป็น “กุ้ยหลินน้อยแห่งเมืองลาว” บ้างก็ว่า ถ้าเทียบกับไทยก็เหมือนเมืองปายของเรานั่นเอง
ทัศนียภาพอันงดงามเช่นนี้เป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยว ทำให้พวกเขาจากทุกมุมโลกหลั่งไหลกันมาเพิ่มมากขึ้นทุกปีๆ ซึ่งแม้จะไม่มีตัวเลขชัดเจนแต่สามารถดูได้จากจำนวนสิ่งก่อสร้าง ทั้งโรงแรม รีสอร์ต เกสต์เฮาส์ ร้านอาหาร บาร์เบียร์ และร้านขายของต่างๆ ที่ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด
ฉันเองเคยไปพักค้างแรมที่วังเวียงเมื่อ 8 ปีก่อน ตอนนั้นมีแต่อาคารบ้านเรือนเก่าๆ ไม่ได้มีตึกรามบ้านช่องสวยงามทันสมัยให้เห็น ผิดกับตอนนี้นักท่องเที่ยวโดยเฉพาะพวกฝรั่งหนาตาขึ้น มีร้านรวงเยอะขึ้น ไม่ว่าจะเป็นร้านขายของที่ระลึก ร้านขายอุปกรณ์เครื่องเล่นในน้ำ มีร้านนวด ร้านอินเทอร์เน็ต ฯลฯ ที่น่าสังเกตคือ มีร้านคนจีนหลายร้าน พวกนี้เป็นคนหนุ่มสาวมาจากเหอหนาน ซึ่งพอจะส่งภาษาไทยรู้เรื่องบ้างนิดหน่อย
ช่วง 10 กว่าปีที่แล้ว ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาจากยุโรป สหรัฐ จะเป็นพวกแบ็กแพ็ก เกสต์เฮาส์หรือที่พักจึงมีราคาถูกแค่ 5 เหรียญสหรัฐต่อคืนเท่านั้น แต่ตอนนี้ราคาดังกล่าวหายากเต็มที อย่างรีสอร์ตระดับดีของคุณอารมณ์ราคาทั่วไป 1,000 กว่าบาทต่อคืน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับช่วงไฮและช่วงโลว์ด้วย ซึ่งถ้าเป็นหน้าไฮในฤดูหนาว กลางวันอากาศจะเย็นสบาย ฝรั่งจำนวนไม่น้อยมาเที่ยววังเวียงหลายสัปดาห์ บางคนมาเป็นเดือนก็มี ขณะที่นักท่องเที่ยวไทยส่วนใหญ่มานอนแค่คืนเดียว
ฉะนั้นไม่ต้องบอกว่ารายได้ประชากรต่อหัวของวังเวียงเท่าไหร่ ก็พอจะเดากันออกได้ว่า เศรษฐกิจและฐานะความเป็นอยู่ของผู้คนในเมืองนี้อยู่ในขั้นใช้ได้เลย เพราะนอกจากจะมีร้านใหญ่ๆ แล้ว ยังมีพ่อค้าแม่ค้ารายย่อยอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งมีรายได้จากการขายอาหารให้กับนักท่องเที่ยวในยามค่ำคืน นั่นก็คือ โรตีและเครป
ถนนหลักในตัวเมืองวังเวียงสองฝั่งจะเป็นร้านอาหารและบาร์เบียร์ และร้านขายของที่ระลึก ไกด์สาวลาว บอกว่านี่คือถนนข้าวสาร
สำหรับโปรแกรมหนึ่งที่บรรจุไว้สำหรับนักท่องเที่ยวก็คือ ล่องเรือชมความงามของทิวเขาและสายน้ำซอง ระหว่างทางจะเห็นโรงแรมสูงหลายชั้นทันสมัย รีสอร์ต ที่พัก ร้านอาหารเต็มไปหมด บางแห่งอยู่ระหว่างก่อสร้าง ตกเย็นย่ำพระอาทิตย์ลาลับฟ้าจะได้ยินเสียงเพลงดังลั่น เห็นฝรั่งหัวแดงซดเบียร์ ซดน้ำเมา และเต้นกันอย่างสนุกสนาน บ้างก็จะจุดไฟล้อมวงกันดริงก์ เสียงหัวเราะบอกอาการของคนมีความสุขสุดเหวี่ยง เหมือนได้ปลดปล่อยอะไรบางอย่างออกมา
ขณะที่อีกพวกล่องห่วงยางอย่างอารมณ์ดี พร้อมโบกไม้โบกมือทักทายกับบรรดาคนไทยทั้งหลายที่นิยมนั่งเรือหางยาวถ่ายรูปสองฟากฝั่งน้ำซอง ไม่ได้ชื่นชอบกับการเล่นน้ำแบบผจญภัยเช่นนั้น
นักท่องเที่ยวจากตะวันตกนั้นนอกจากจะนิยมล่องห่วงยางไหลตามกระแสน้ำซองที่ค่อนข้างไหลเชี่ยวแล้ว ยังชอบที่จะถีบจักรยาน ไต่หน้าผา และเที่ยวถ้ำกันอีกด้วย ซึ่งวังเวียงมีถ้ำมากมาย แต่ถ้ำยอดฮิตก็คือ “ถ้ำจัง” เพราะอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองวังเวียงสักเท่าไหร่ ที่นี่คนไทยได้รับสัมปทานทำเป็นรีสอร์ต และพัฒนาบริเวณรอบๆ ถ้ำ ซึ่งเป็นถ้ำใหญ่พอสมควร มีหินงอกหินย้อยอยู่ทั่ว
ชอบตรงการจัดการของเขาที่ใช้ไฟฟ้าเข้าไป แต่ไม่ได้ทำเป็นแสงสีฉูดฉาดอะไร ถ้ำนี้ยังคงความเป็นธรรมชาติอยู่ ยังมีน้ำหยดอยู่เต็มไปหมด บางจุดเป็นแอ่งน้ำ หินงอก หินย้อย บางจุดมองได้ว่าเป็นรูปพระยืนอุ้มบาตร บางจุดไกด์ลาวบอกเป็นที่นั่งของฤาษี ดังนั้นจึงมีผู้คนแห่ไปนั่งถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกันเป็นแถว
บางคนที่มาเที่ยวเมืองลาวอาจจะกังวลว่า ไม่ได้แลกเงินกีบมาเลย กลัวว่าจะซื้อหาอะไรไม่ได้ ขอบอกลาวพ.ศ.นี้ ใช้เงินไทยเกือบจะทุกภาคส่วน ที่สำคัญเขาพูดภาษาไทยกันได้ดีมากเทียบเท่าคนไทยอย่างนั้นเลย บางคนพูดคุยกับเราเสียอย่างดี ออกสำนวนอีสานหน่อยๆ เลยนึกว่าเป็นคนอีสาน สอบถามว่าทำไมพูดไทยได้ชัดขนาดนี้ เขาบอกดูทีวีไทยทุกวัน
ฉะนั้น ถ้าพูดเรื่องราวอะไรเกี่ยวกับประเทศไทยเขารู้เรื่องหมด ไม่ว่าจะเป็นพวกเสื้อสีเหลือง สีแดง หรือดารา นักร้องคนไหน
ไกด์รุ่นใหญ่เจ้าของบริษัททัวร์ “ลาวนิชชิน ทราเวล” คุณเบญจมาศ บอกหลานสาวอยู่ชั้นอนุบาลไปโรงเรียนไม่ได้เว้าลาวกับเพื่อนแล้ว พูดภาษาไทยกันปร๋อ เพราะวันๆ ดูแต่การ์ตูนในทีวีไทย
อย่างไรก็ตาม สาวลาวก็ยังคงนิยมนุ่งผ้าซิ่นเหมือนเดิม เมื่อยามที่จะต้องไปวัด ไปงานพิธี งานทางการ หรือไปสถานศึกษา แม้ในชีวิตปกติจะสวมกางเกงยีนส์กันอยู่ประจำ แสดงว่าเขายังคงรักษาขนบธรรมเนียมวัฒนธรรมการแต่งกายไว้ได้ดีทีเดียว
ถ้ามีโอกาสไปวังเวียงอีกสถานที่หนึ่งที่ไม่ควรพลาดคือ ตลาดสดเช้า ซึ่งแม่ค้านำของจากป่าออกมาวางขายเต็มไปหมด โดยเฉพาะพวกสัตว์ป่าหายากทั้งหลายที่บ้านเราหาดูได้ยาก อย่างนกนานาชนิด กระรอก อีเห็น ค้างคาว บ้างก็ถลกหนังขนออกเรียบร้อยแล้ว บ้างก็เป็นชิ้นๆ ร้อยเป็นพวง อย่างเนื้อเก้ง เนื้อหมูป่า เห็นแล้วเสียดายแทน แต่ในทางกลับกันแสดงว่าบ้านเขาอุดมสมบูรณ์ถึงมีสัตว์ป่าพวกนี้เยอะแยะ
ว่าไปแล้ววังเวียงวันนี้ ไม่ใช่เฉพาะแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของนักเดินทางจากทั่วโลกเท่านั้น ในวันหยุดเสาร์อาทิตย์ หรือวันหยุดเทศกาล คนลาวเองก็นิยมมาเที่ยวกัน เพราะไม่ไกลจากเวียงจันทน์นัก นั่งรถประมาณ 3 ชั่วโมง ได้เห็นความเปลี่ยนแปลงเห็นการพัฒนาของวังเวียงวันนี้แล้วก็ดีใจแทนคนลาว เพราะความสวยงามของธรรมชาติทำให้พวกเขามีรายได้จากการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น ชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น นักท่องเที่ยวเองก็ชื่นชอบความใสซื่อ ความมีน้ำใจของคนลาวที่ยังคงเอกลักษณ์นี้ไว้ได้มาก ถ้าเทียบกับผู้คนในประเทศกำลังพัฒนาอื่นๆ


