เอดเวิร์ด ฮอปเปอร์ มุมเหงาๆ ของอเมริกันชน
ปฏิเสธไม่ได้ว่า เอดเวิร์ด ฮอปเปอร์ เจ้าของผลงานชื่อดัง อย่าง Automat (1927) New York Movie (1939)
โดย...อฐิณป ลภณวุษ artofmylifeasafrog.blogspot.com
ปฏิเสธไม่ได้ว่า เอดเวิร์ด ฮอปเปอร์ เจ้าของผลงานชื่อดัง อย่าง Automat (1927) New York Movie (1939) และ Nighthawks (1942) เป็นศิลปินที่ทำให้คนทั้งโลกหันมาจับจ้องศิลปะอเมริกัน ทั้งเขายังมีส่วนอย่างยิ่งในการทำให้โลกของศิลปะสมัยใหม่ ย้ายจากกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส มารวมศูนย์กันอยู่ที่ฝั่งนิวยอร์ก สหรัฐแทน
ศูนย์ศิลปะแคนเตอร์ ในมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด กรุงนิวยอร์ก กำลังจัดแสดงผลงานในยุคแรกๆ ของ เอดเวิร์ด ฮอปเปอร์ อย่างเช่นภาพสีน้ำมันบนผ้าใบ New York Corner (Corner Saloon) ปี 1913 ซึ่งเขาวาดเมื่ออายุ 31 ปี เป็นยุคที่ยังพยายามค้นหาตัวเอง โดยภาพนี้ถือว่าเป็นรากฐานของภาพอื่นๆ ทั้งหมดทั้งมวลที่จะเกิดขึ้นตามมา โดยเฉพาะหลังจากที่จัดแสดงที่นิวยอร์กในปีเดียวกัน ก็เริ่มสร้างชื่อในฐานะศิลปินสัจนิยมดาวรุ่งพุ่งแรงชาวอเมริกัน
New York Corner (Corner Saloon) ได้รับความชื่นชมในฐานะที่แสดงบรรยากาศแห่งกรุงนิวยอร์กยุคนั้นไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม ครบถ้วนกระบวนความ
อเล็กซานเดอร์ เนเมรอฟ และมาริลีน โทมา ศาสตราจารย์ด้านศิลปะและมานุษยวิทยา จากสาขาศิลปะและประวัติศาสตร์ศิลป์ มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด พูดถึงภาพเขียนของเอดเวิร์ด ฮอปเปอร์ภาพนี้ว่า เป็นราวกับกุญแจที่เปิดทางให้ภาพเขียนอื่นๆ มุ่งไปสู่ทิศทางแห่งความสำเร็จ
เอดเวิร์ด ฮอปเปอร์ เป็นจิตรกรชาวอเมริกันผู้ยิ่งใหญ่แห่งศตวรรษที่ 20 เขาเกิดที่เมืองไนยัค รัฐนิวยอร์ก ในปี 1882 (เสียชีวิตในเมืองแมนฮัตตัน รัฐนิวยอร์ก ปี 1967) เอดเวิร์ดสร้างสรรค์ภาพอันทรงพลังไว้มากมาย ส่วนใหญ่เป็นแนวซิตีสเคป (ภาพวาดฉากเมือง) แลนด์สเคป (ภาพทิวทัศน์) ซีสเคป (ภาพวาดทิวทัศน์ทะเล) รวมทั้งภาพผู้คนในมุมเหงาๆ ของสังคมเมือง เขาเป็นแรงบันดาลใจให้ศิลปินอเมริกันรุ่นหลังๆ มากมาย รวมไปถึงผู้กำกับหนังและนักเขียนจนถึงทุกวันนี้
ริชาร์ด ดายเบนกอร์น จิตรกรชาวอเมริกันผู้ศึกษาเกี่ยวกับศิลปะของเอดเวิร์ด ฮอปเปอร์มาตลอด ระหว่างที่ศึกษาอยู่ในมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ยอมรับว่า ศิลปินผู้เป็นไอคอนชาวอเมริกันผู้นี้มีอิทธิพลต่อผลงานของเขาอย่างสูง “ผมชื่นชมเขามาก โดยเฉพาะการใช้แสงและเงา รวมทั้งบรรยากาศเหงาๆ ที่เขาใส่ไว้ในภาพเขียนสีน้ำมัน มันดูเป็นภาพที่เหมือนไม่มีรายละเอียดมากมาย ดูเรียบง่าย แต่ว่าเต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึก ตั้งแต่เห็นครั้งแรก ผมก็รู้สึกว่า in มากครับ บอกเลย” ริชาร์ด สาธยาย
ด้าน คอนนี่ โวล์ฟ ผู้อำนวยการศูนย์ศิลปะแคนเตอร์ ผู้พยายามปรับลุคให้หอศิลป์ในมหาวิทยาลัยมีอะไรที่ตื่นเต้นแปลกใหม่อยู่ตลอดเวลา บอกว่า การนำผลงานศิลปะที่ไม่ธรรมดามาจัดแสดง ณ ที่แห่งนี้ จะช่วยพัฒนาความสามารถของนักศึกษาได้ดียิ่งๆ ขึ้นไป
“เรามีทั้งผลงานของเจ้าพ่อป๊อปอาร์ต แอนดี วอร์ฮอล หรือศิลปินร่วมสมัย อย่างริชาร์ด ดายเบนกอร์น และจาค็อบ ลอว์เรนซ์ รวมทั้งศิลปินสำคัญคนอื่นๆ เช่น ออนอเร โดมิเยร์, โรเบิร์ต แฟรงก์, ลี ฟรีดแลนเดอร์, วิลเลียม คีธ, ริชาร์ด มิสราค, จอร์เจีย โอคีฟ หรือแคร์รี เมย์ วีมส์
สำหรับการนำภาพเขียนในยุคแรกๆ ของเอดเวิร์ด ฮอปเปอร์ เมื่อนำมาจัดแสดง ก็เป็นโอกาสดีสำหรับนักศึกษา ที่นอกจากจะได้เจาะลึกทางด้านศิลปะแล้ว ยังได้ศึกษาถึงชีวิตและสังคมในยุคนู้นด้วย” คอนนี่ ว่า
สำหรับเอดเวิร์ด ฮอปเปอร์ เกิดในครอบครัวชนชั้นกลาง ซึ่งสนับสนุนเขาอย่างเต็มที่ในการเลือกทางเดินสายศิลปะ หลังเขาศึกษาจบจากโรงเรียนศิลปะกรุงนิวยอร์ก ในปี 1906 เอดเวิร์ดทำงานเป็นนักวาดภาพประกอบอยู่ช่วงสั้นๆ ก่อนที่จะตัดสินใจข้ามน้ำข้ามทะเลไปยังกรุงปารีส ซึ่งสำหรับเขาแล้ว การได้ไปเห็นบ้านเมือง สถาปัตยกรรม แสงสี และบรรยากาศของศิลปะในกรุงปารีส ได้หล่อหลอมให้เป็นคนใหม่
ไม่มีเมืองใดในโลกจะมีความสำคัญด้านศิลปะไปกว่ากรุงปารีส ณ ขณะนั้น คนที่ต้องการพัฒนาฝีมือทางศิลปะต้องมุ่งหน้าไป ระหว่างที่เอดเวิร์ดไปถึง ศิลปะสมัยใหม่อย่างแอบสแทรกต์และคิวบิสม์กำลังก่อรูปก่อร่าง ปาโบล ปิกัสโซ ผู้ยิ่งยงกำลังสร้างสรรค์ Les Demoiselles d’Avignon
หนุ่มน้อยชาวอเมริกันที่ไปเผชิญโชค ไม่รู้จักชื่อของบิดาแห่งคิวบิสม์สักนิด แต่เขาก็ได้รับอิทธิพลจากกลิ่นอายของอิมเพรสชันนิสม์ที่ยังหลงเหลือ และได้ศึกษาศิลปะของมาสเตอร์ทางอิมเพรสชันนิสม์ เหมือนกันที่เคยศึกษาผลงานของบรรดาโอลด์มาสเตอร์ต่างๆ อย่างฟรานซิสโก โกยา, การาวาจโจ, เอลเกรโก หรือดิเอโก เบลาซเกซ ขณะเป็นนักเรียนศิลปะ
บรรดาจิตรกรอิมเพรสชันนิสต์ยังคงส่งอิทธิพลต่อเขา ไม่ว่าจะเป็น โปล เซซาน, โคล้ด โมเนต์ เอดูอาร์ด มาเนต์ จนกระทั่งปี 1962 เขายังให้สัมภาษณ์ว่า เขายังเป็นจิตรกรอิมเพรสชันนิสม์อยู่
เอดเวิร์ด กลับสหรัฐในปี 1910 ในวัย 28 ปี เขาพยายามยิ่งที่จะสร้างสรรค์ผลงานศิลปะและสร้างชื่อในฐานะศิลปิน ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ต้องรออีกเกือบ 10 ปีทีเดียว เขาจึงได้รับการติดต่อให้แสดงงานเดี่ยวครั้งแรก ณ วิทนีย์ คลับ กรุงนิวยอร์ก ซึ่งขณะนั้นเขาอายุ 37 ปี เป็นเวลา 6 ปีหลังจาก New York Corner (Corner Saloon) ได้เปิดประตูสู่สไตล์ที่เขาเฝ้าค้นหามาตลอดระยะเวลา


