posttoday

ทำไมต้องสนใจ… ‘มาดอนน่า’

10 มิถุนายน 2558

ในฐานะศิลปินเพลงซึ่งอยู่ในวงการมาแล้ว 4 ทศวรรษ (อุ...แม่เจ้า) ดูเหมือนว่าไม่มีอะไรที่ “มาดอนน่า” ยังไม่เคยทำ

โดย...เพ็ญแข สร้อยทอง

ในฐานะศิลปินเพลงซึ่งอยู่ในวงการมาแล้ว 4 ทศวรรษ (อุ...แม่เจ้า) ดูเหมือนว่าไม่มีอะไรที่ “มาดอนน่า” ยังไม่เคยทำ ณ จุดนี้เป็นเรื่องยากสำหรับ “ควีน ออฟ ป๊อป” ที่จะคิดทำงานใหม่ๆ ออกมาโดยไม่ซ้ำรอยตัวเองหรือคนอื่น ศิลปินที่ทำงานมานานๆ อย่าง 30-40 ปีแล้ว มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะกลับมาพร้อมกระแสฮือฮา เพราะความสดแปลกใหม่ทุกครั้งเมื่อออกอัลบั้มใหม่

กับงานชุดล่าสุด Rebel Heart มันก็อาจจะไม่ได้ทำให้ทั้งโลกฮือฮาตื่นเต้น แต่มาดอนน่า ก็ยังคงรักษาสแตนดาร์ดตัวเองไว้ได้อย่างเหนียวแน่น อาจจะไม่ใช่งาน 5 ดาวอย่าง Madonna (ปี 1983) หรือ Like a Prayer (ปี 1989) แต่อย่างน้อยที่สุุดก็ควรจะได้ 3 ดาวครึ่ง-4 ดาว เมื่อแรกออกเผยแพร่ งานชุดนี้ของมาดอนน่าก็เบียดน้องๆ หลานๆ ตกชาร์ตไปหลายคนอยู่เพราะสู้แรงป้าไม่ได้

ด้วย “ประสบการณ์” ที่ “เคี่ยวกรำ” หรือ “ช่ำชอง” ก็มักจะเป็นจุดแข็งที่ทำให้ “รุ่นเก๋า” มีแต้มต่อเป็นจุดดึงดูดคนฟังกลุ่มแฟนเดิมได้เสมอ ยิ่งถ้าศิลปินคนหรือกลุ่มนั้นๆ ไม่ยอมตกยุค พวกเขาก็สามารถที่จะสร้างแฟนกลุ่มใหม่ได้ตลอดเช่นกัน

ในกรณีของเจ้าป้ามาดอนน่าซึ่งทำงานมา 30 กว่าปี ตั้งแต่ทศวรรษ 1980 มาถึงวันนี้เราก็เห็นว่าเธอไม่ได้ล้าสมัย และเมื่อไม่นานมานี้เราก็ได้พบกับเด็กสาววัยต้น 20 ที่คลั่งไคล้จริงจังกับมาดอนน่า ผู้ที่ขึ้นถึงจุดพีกในอาชีพแล้วตอนที่แฟนคลับบางคนยังไม่เกิดด้วยซ้ำ!!!

แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีคนบางคนที่เห็นว่าความเป็นมาดอนน่าไม่เหมาะกับรสนิยมคนรุ่นใหม่!!!

ย้อนกลับไปเมื่อเดือน ก.พ. คลื่นวิทยุ เรดิโอ วัน (Radio 1) ของ บีบีซี ประเทศอังกฤษ ได้ถอดซิงเกิ้ล Living for Love ของมาดอนน่า ออกจากเพลย์ลิสต์ของสถานี โดยให้เหตุผลว่า เพื่อ “สะท้อนให้เห็นถึงชีวิตและความสนใจของคนวัย 15-29 ปี” จะว่าไปก็ไม่ต่างกับการแบน แต่บอสใหญ่ของสถานีก็บอกว่า เรดิโอ วันไม่ได้แบนมาดอนน่า แต่เธอต้องมีเพลงที่ดีกว่านี้เพื่อจะได้ออกอากาศทางสถานี!!!

เรื่องนี้มาดอนน่าก็ตอบโต้ด้วยคอมเมนต์ว่า “เลือกปฏิบัติและไม่เป็นธรรม” ที่นำเรื่องวัยมาแบนเพลง ซึ่ง ดิโพล วัย 36 ปี ซึ่งเป็นหนึ่งในดีเจชั้นนำของโลกในปัจจุบันเป็นคนช่วยแต่ง (ขณะที่งานของ พอล แม็กคาร์ตนีย์ วัย 72 ปี ยังคงอยู่ในเพลย์ลิสต์) แต่สิ่งที่ มาดอนน่า ทำได้ก็คือ ทำงานของเธอต่อไป

สเตตัสของมาดอนน่าในวงการเพลงวันนี้ บางครั้งก็อยู่ที่มุมมองของคน เป็นความจริงที่ว่า มาดอนน่า ในวัย 56 ปี ไม่ใช่เทรนด์เซตเตอร์ (Trend Setter) ของวงการเพลงอีกต่อไป แต่เธอยังคงร่วมสมัย ซึ่งจุดนี้เองที่คนมองต่างมุมก็เห็นว่า มาดอนน่าปัจจุบันกลายเป็นเทรนด์ ฟอลโลเวอร์ (Trend Follower) แถมยังมีแนวโน้มว่าป้าจะลอกเลียนหรือทำตามสิ่งที่เด็กๆ ในวงการทำกันด้วยซ้ำ!!!

ในฐานะที่ไม่ได้เป็นแฟนพันธ์ุแท้ของมาดอนน่า แต่ก็ฟังงานเธอมาตลอด ทั้งยังชื่นชมหลายสิ่งที่เธอทำและเป็น บางครั้งก็รู้สึกว่าไม่ยุติธรรมกับเธอนัก เพราะว่าสิ่งที่เด็กๆ ทำนั้นป้าก็เคยทำมาก่อน พอกลับมาทำอีกบ้างก็กลายเป็นเลียนแบบเด็กๆ ไปซะอย่างนั้น

ความจริงสิ่งหนึ่งที่ปฏิเสธได้ยากคือ ศิลปินหญิงที่เกิดขึ้นในโลกดนตรีในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะ บริตนีย์ สเปียร์ส, บียอนเซ่, ริฮานนา, เลดี้กาก้า, เคธี เพอร์รี, เทย์เลอร์ สวิฟต์, นิกกี้ มินาจ, ไมลีย์ ไซรัส ฯลฯ พวกเธอล้วนต้องขอบคุณสิ่งที่มาดอนน่าเคยทำไม่มากก็น้อย ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง และโดยรู้ตัวหรือไม่รู้ตัวก็ตามที นั่นคือหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ มาดอนน่า ยังคงร่วมสมัยในปี 2015

วันนี้ยังมีคนหน้าใหม่จำนวนหนึ่งอยากจะไต่เต้าเข้าวงการหรือเป็นจุดสนใจโดยใช้มาดอนน่าเป็นเครื่องมือ บางคนอ้างว่ามาดอนน่าขอร้องให้ไปทำงานด้วย ทั้งๆ ที่ราชินีเพลงป๊อปไม่รู้ว่าคนนั้นมีตัวตนในโลกด้วยซ้ำ

ณ จุดที่ยืนอยู่ มาดอนน่ายังคงยินดีที่จะทำงานกับคนรุ่นใหม่ อย่างในอัลบั้ม Rebel Heart นี้ เธอได้ร่วมงานกับเด็กรุ่นลูก แชนช์ เดอะ แร็ปเปอร์ วัย 22 ปี ในขณะที่คนวัยเดียวกันกับเธออาจจะคุยกับเด็กอายุ 20 ไม่รู้เรื่อง แต่มาดอนน่ากับศิลปินฮิปฮอปดาวรุ่งคนนั้น พวกเขาถึงกับเป็นเพื่อนกันเลยทีเดียว!!!

ในอัลบั้มล่าสุด มาดอนน่ายังได้ร่วมงานกับหลากหลายผู้คน ไม่ว่าจะเบื้องหน้าหรือหลังอย่าง ดิโพล, อะวิชี, ไรอัน เท็ดเดอร์, นิกกี้ มินาจ  หรือแม้แต่ ไมค์ ไทสัน แสดงให้เห็นถึงอิทธิพลระดับตำนานของเธอ และที่หลายคนกำลังรอคอยคือ เอ็มวีเพลง B*tch I’m Madonna  ของมาดอนน่า ที่ข่าวว่าเกณฑ์คนดังมากมาย ไม่ว่าจะ เคธี เพอร์รี, ไมลีย์ ไซรัส ฯลฯ จะมาร่วมแสดงด้วย (เป็นงานที่มีไอเดียคล้ายกับเอ็มวี Bad Blood ของ เทย์เลอร์ สวิฟต์ ซึ่งมีคนดังมากมายมาร่วมงานด้วย จุดนี้ก็มีขาเมาท์คอมเมนต์ว่าป้าอยากจะชนกับหลานเทย์ดูสักที --- ก็ว่ากันไป)

แต่ตำนานอย่างมาดอนน่าก็ไม่ใช่รูปเคารพหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ซึ่งไกลพ้นจากการแตะต้องหรือสัมผัสถึงได้ ระหว่างการแสดงเพลง Living For Love ในงานบริต อะวอร์ด 2015 ในเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา
มาดอนน่าตกบันไดเวทีจนเป็นข่าวไปทั่วโลก แต่เจ้าป้าก็กลับมาสู่เกมอย่างรวดเร็วและแสดงต่อจนจบ บางคนอาจจะเห็นว่ามันเป็นเรื่องน่าอาย แต่อีกมุมหนึ่งเรื่องนี้ก็แสดงให้เห็นว่า มาดอนน่าไม่ได้เพอร์เฟกต์หรือไร้ที่ติ ยิ่งได้เห็นเธอปล่อยโจ๊กอำตัวเองในภายหลังยิ่งทำให้เข้าใจว่า เธอก็คือมนุษย์มนาคนหนึ่งที่สามารถผิดพลาดได้เสมอ

ทั้งหมดเป็นหนึ่งในหลายๆ เหตุผลที่ว่า ... ทำไมวันนี้เรายังต้องสนใจผู้หญิงคนนี้

เพราะว่า มาดอนน่า คือ มาดอนน่า

วงการเพลงป๊อปอาจจะไม่ใช่อย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน หากไร้ผู้บุกเบิกอย่างเธอ

มาดอนน่าเป็นตำนานซึ่งยังมีชีวิตและสมควรที่จะได้รับความสนใจ หรือแม้แต่ความเคารพในฐานะผู้มาก่อน

ข่าวล่าสุด

เปิดโปรแกรมวอลเลย์บอลหญิง ซีเกมส์ 2025 รอบรองฯ ไทยดวลอินโดฯ