จงแสวงหา...ความหวือหวา... อย่างเนิบๆ
เวลาเราได้ยินคำว่า “ความหวือหวา” ใครๆ ก็คงคิดถึง ความรวดเร็ว ฉาบฉวย หรืออะไรก็ได้ที่ทำให้ใจเต้นตึกตัก ตื่นเต้น และมักจะเป็นเหตุการณ์ที่เราไม่ค่อยใส่ใจกับคำว่า “สติ” หรือ “ถูกผิด” สักเท่าไหร่? เพราะส่วนใหญ่เรื่องที่สร้างความตื่นเต้นให้ชีวิตมนุษย์ มักจะไม่ค่อยถูกต้อง ดีงาม ออกจะเป็นไปในทางลักลอบ หรือทำอะไรที่ผิดไปจากปกติที่เคยทำ หรือนานๆ ทีจะเกิดขึ้น เพราะถ้าเป็นเรื่องที่ทำเป็นปกติในชีวิตประจำวัน เราคงเรียกว่า “ความหวือหวา” ไม่ได้ “ความเคยชิน” กับ “ความหวือหวา” เป็นมวยที่อยู่กันคนละมุมเสมอ
เวลาเราได้ยินคำว่า “ความหวือหวา” ใครๆ ก็คงคิดถึง ความรวดเร็ว ฉาบฉวย หรืออะไรก็ได้ที่ทำให้ใจเต้นตึกตัก ตื่นเต้น และมักจะเป็นเหตุการณ์ที่เราไม่ค่อยใส่ใจกับคำว่า “สติ” หรือ “ถูกผิด” สักเท่าไหร่? เพราะส่วนใหญ่เรื่องที่สร้างความตื่นเต้นให้ชีวิตมนุษย์ มักจะไม่ค่อยถูกต้อง ดีงาม ออกจะเป็นไปในทางลักลอบ หรือทำอะไรที่ผิดไปจากปกติที่เคยทำ หรือนานๆ ทีจะเกิดขึ้น เพราะถ้าเป็นเรื่องที่ทำเป็นปกติในชีวิตประจำวัน เราคงเรียกว่า “ความหวือหวา” ไม่ได้ “ความเคยชิน” กับ “ความหวือหวา” เป็นมวยที่อยู่กันคนละมุมเสมอ
แต่สำหรับ “ความหวือหวา” ในความหมายของฉันในวันนี้ คงเป็นความหมายเดียวกับ “การหลีกหนีจากชีวิตประจำวัน ไปทำในสิ่งที่ไม่ค่อยได้ทำ” ฉันอยากให้เราลอง “แสวงหาความหวือหวาจากความเรียบง่าย” ดูบ้าง!
ความหวือหวา...ที่ไม่ได้หมายถึงรีบ ความเรียบง่าย...ที่ไม่ได้หมายถึงช้า สังคมเราทุกวันนี้ คงต้องยอมรับว่าเราเร็วกับทุกเรื่องของชีวิต แม้แต่การตัดสินใจทำอะไร เราก็ใช้เวลาหยุดคิดน้อยลง อยากรู้ อยากคุยอะไรกับใคร ไม่ต้องรอคอย เพราะชีวิตเราออนไลน์ตลอดเวลา เราแทบไม่มีเวลาคิดถึงใคร เพราะแค่คิดก็ถึงแล้ว สังคมกำลังหล่อหลอมให้เราเป็นคนคิดเร็ว ทำเร็ว รอไม่เป็น มิใช่แค่ผู้ใหญ่วัยทำงาน แม้แต่กับเด็กวัยเรียน มัวช้าก็ไม่ทันเพื่อน การรีรอ หมายถึงเรากำลังก้าวถอยหลัง เรากำลังทำตัวเป็นนักวิ่งอยู่บนลู่วิ่งที่ไม่มีวันพัก เพราะรู้สึกว่าข้างตัวเรามีคนวิ่งแข่งกับเราอยู่ตลอดเวลา หากเราลองทำชีวิตให้เรียบง่ายกว่านั้น หยุดพัก เลิกมโนว่ามีคู่แข่งอยู่ตลอดเวลา เมื่อต้องตัดสินใจอะไรที่มีผลกับชีวิต ก็แค่หยุด ตั้งสติ ใช้ความสงบ คิด เลือก และไตร่ตรองก่อนว่าดีกับชีวิตหรือไม่
ฉันไม่เถียงว่าโลกทุกวันนี้ก้าวไปเร็ว จนเราต้องรีบก้าวตามให้ทัน แต่กับเรื่องบางเรื่องของชีวิต ถามว่า...เราเคยตัดสินใจผิดพลาด เพียงเพราะรีบเกินไปกี่ครั้งแล้วในชีวิต? ถ้ามีเวลามากกว่านี้ คิดนานกว่านี้ ตั้งสติให้ดีกว่านี้ สงบกว่านี้ จะดีกว่าไหม?
บางที...ทุกวันนี้เรารีบซะจนกลายเป็นความเคยชิน รีบ...ที่กลายเป็นความเรียบง่ายไปแทน ฉันขอเรียกมันว่า “รีบ...จนเรียบ” (ทั้งๆ ที่มันไม่ได้เรียบง่ายจริง ออกจะเยอะซะมากกว่า) เอะอะอะไรก็เอาเร็วเข้าว่า รีบไว้ก่อนพ่อสอนไว้ ช้าไม่ทันกิน ทั้งๆ ที่พอมานั่งพิจารณาดูดีๆ กับบางเรื่อง “เออ! กูจะรีบไปทำไมวะ?” “กูจะแข่งกับใคร?” “ชีวิตกูเกิดอะไรขึ้น กูก็ทุกข์ก็สุขอยู่คนเดียว” “เวลาเดือดร้อนไม่มีใครมาเดือดร้อนกับกู ก็กูนี่แหละที่ซวย” “เผลอๆ บางทีพอซวย ก็มีแต่คนรอกด like อย่างดีก็แค่เข้ามาเมนต์ให้กำลังใจ แต่ถามหน่อยเถอะว่า...มันเดือดร้อนอะไรไหม? ก็ไม่! มีแต่ตัวกูเท่านั้นที่ต้องผ่านมันไปให้ได้”
เคยมีบ้างไหมที่รีบซะจนบางครั้งรู้สึกว่าชีวิตน่าเบื่อ จำเจ ไม่รู้จักความคิดถึง ไม่รู้จักการรอคอย ไม่เคยเห็นคุณค่าของบางสิ่งบางอย่างที่เข้ามาในชีวิต มาง่าย ไปไว เสพอะไรก็เพียงฉาบฉวย เมื่อเร็ว ทุกเรื่องราวในชีวิตก็จะเข้ามาเร็ว ออกไปเร็ว แต่กับบางเรื่องที่มีอิทธิพลกับจิตใจ ต่อให้มันไปแล้ว มันก็ทิ้งรอยช้ำสะสมไว้เป็นคอลเลกชั่น มิใช่แค่รสนิยม แต่จิตใจก็ยังขยันมีนิวไอเท็ม และยิ่งนานวัน ถ้าเราจัดการกับอดีตที่เจ็บปวดไม่ได้มากๆ เข้า “ความล้มเหลว” ก็จะเป็นคำสุดท้ายที่เป็นบทสรุปให้กับชีวิตของเรา ถ้าเราไม่รีบเดินทาง เราค่อยๆ เจอปัญหา เติมพลัง แสวงหาแรงบันดาลใจจากข้างทาง แก้ไขไปทีละเรื่อง มีเวลาจัดการกับปัญหา ไม่ใช่คิดแค่ว่า “เดี๋ยวค่อยว่ากัน ไม่ทันแล้ว” เราปล่อยผ่านปัญหา เพียงเพราะว่ากลัวช้า แท้จริงแล้วเรากลับสะสมมันไว้ในใจต่างหาก จิตใจของมนุษย์...ต่อให้ดำเนินชีวิตเร็วขนาดไหน เราก็ควบคุมมันไม่ได้จริง ลองใครเป็นคนคิดซ้ำซาก จมอยู่กับความหลัง ก็ยังคงซ้ำซากอยู่อย่างนั้นแหละ
ฉันอยากให้เราลองแสวงหาความหวือหวาในชีวิต...โดยใช้ชีวิตเนิบๆ ดูบ้าง เป็นการหาความแปลกใหม่ใส่ชีวิต เรียกว่า...การสโลว์ชีวิตตัวเองลง เปลี่ยนจากการวิ่งเป็นย่ำ เปลี่ยนจากรีบ...เป็นรอ เปลี่ยนจากความเคยชินเป็นความคิดถึง หายใจลึกๆ นับหนึ่งให้ไกลกว่าสิบ ถ้าไม่ได้อยู่บนลู่วิ่ง ก็ทิ้งจังหวะก้าวขาให้ช้าลงหน่อย เปลี่ยนจากการหายใจหอบถี่ เป็นการปล่อยลมหายใจออกมาให้ยาวขึ้น สูดเข้าไปให้ช้าขึ้น ลึกขึ้น เชื่อไหมว่า...ลมหายใจช่วยได้เรื่องสติ ทุกจังหวะของชีวิตมีคุณค่าเสมอ แค่รู้จักใช้ให้สมดุล แล้วบางทีชีวิตประจำวันอันจำเจของเราจะเปลี่ยนไป แค่วันเดียวที่เปลี่ยน...อาจเปลี่ยนเราไปตลอดชีวิต ไม่เชื่อก็ลองดู!
บางคนที่ยังไม่ชิน อาจเป็นเรื่องที่ทำยาก เพราะเร็วจนเป็นนิสัยไปซะแล้ว
แต่ถ้าทำจนเป็นนิสัยแล้ว...จะเรียกว่า “ความหวือหวา” ไหมล่ะ?
หรือใครไม่อยากได้?


