เจมส์ จิรายุ ดาวดวงนี้ไม่เหมือนใคร
โดย...นกขุนทอง
โดย...นกขุนทอง
เพราะคนเราแสดงออกถึงความรักแตกต่างกัน และเลือกรักแตกต่างกัน ดังนั้นความรักที่แฟนคลับชื่อ เตย-ปาริชาติ วงศ์สุริยะรัศมี มีให้แก่ เจมส์-จิรายุ ตั้งศรีสุข นั้นหลายคนอาจงงงวยว่า ทำไมรักผู้ชายคนนี้ได้มากมายขนาดนี้ ทว่าเธอก็มีคำตอบทั้งหมด นั่นคือ “สุขใจ” ที่ได้ “รัก”
เตยเหมือนแฟนคลับพันธุ์แท้คนอื่นๆ หรือจะเรียกว่า “ติ่ง” ก็ได้ ถ้าว่างจะไม่พลาดตามติดเจมส์ไปทุกงานอีเวนต์ โดยไม่ย่อท้อต่อระยะทาง ข้ามน้ำข้ามทะเลไปยังแดนโสม เธอก็ตามไปแล้ว นอกจากนี้ยังทำหนังสือ “ภาษาเกาหลีสำหรับการใช้ชีวิตเพื่อเจมส์ จิรายุ” เตยเป็นคนคิดขึ้นมา ยกตัวอย่างประโยค คำอ่าน มีความหนา 50 หน้า เธอใช้ความรู้ที่ร่ำเรียนภาษาเกาหลีมา 5 ปี เพื่อจัดสรรประโยคสำหรับลักษณะนิสัยเจมส์โดยเฉพาะ
“ไปเกาหลี 3 ครั้ง ไปรับส่งตอนเจมส์ไปเรียน และตอนไปร้องเพลงที่งานเคเฟสติวัล อันนี้ไปสั้นๆ 3-4 วันเราก็ไป-กลับพร้อมมีน้องๆ ที่รักเจมส์ไปด้วยกัน 5 คน งบเราหมดก็หลายหมื่นได้อยู่ ที่ตามไปเพราะเป็นห่วงน้อง เราตามเขาบ่อยๆ พอเข้าใจนิสัย เขาเหมือนเป็นเด็กเข้ากับคนง่าย แต่พอไปงานอีเวนต์ที่ใหม่ๆ เขาเหมือนจะประหม่าบ้าง อย่างไปต่างจังหวัด เขาจะมองหาคนที่เขาคุ้นหน้าขอหย่อนสายตาตรงนี้แป๊บหนึ่ง มีคนรู้จักเขาแน่นอน ตอนนี้เขาก็ยังเป็น คือเขาอาจไม่รู้ตัวก็ได้ แต่แฟนคลับมองเห็นว่าเขาเป็นแบบนั้น
แล้วเจมส์ไปเกาหลี 40 วัน เป็นครั้งแรกที่ไปต่างประเทศนานขนาดนั้น น้องดูตื่นเต้นมาก แล้วเตยชอบเกาหลีอยู่แล้ว ไปมาหลายครั้ง รู้ที่ทางอะไรอยู่ตรงไหน การไปแอบดูเขาก็ง่ายขึ้น คือเราเจอเขาทุกวันๆ พอจะไม่ได้เจอ 40 วัน ก็เหงาๆ นะ ตามไปส่งดีกว่า เขาจะไปที่ใหม่ๆ ก้าวใหม่ๆ เราอยากไปส่งให้เห็นน้องเรียนที่นี่นะ”
ที่เกาหลีแม้จะมีอุปสรรคเป็นอุณหภูมิศูนย์องศา กฎระเบียบต่างๆ แต่ก็มิอาจขวางกั้นความห่วงใยจากแฟนคลับได้ “ไป 5 วัน ก็แอบๆ ดูเขาทุกวัน เพราะไม่สามารถเข้าไปใกล้เขาได้ ก่อนไปเราหาข้อมูลน้องเรียนที่นี่นะ ติดตามศิลปินเกาหลีอยู่บ้าง เรารู้ระบบการเทรนด์ของที่โน่นเป็นยังไง วันแรกเห็นน้องกำลังเดินจะเข้าไปฝึก เราวิ่งเข้าไปหา ถ่ายรูปกัน ผู้จัดการที่เกาหลีก็กั้น คือไม่มีสิทธิถ่ายรูป น้องถูกเก็บตัว เจมส์เกร็งมาก หลังจากนั้นเดินเฉี่ยวๆ พอเขาเดินผ่านเราก็ไปเดินแถวนั้น เขาก็แค่แอบยุกยิกนิดหน่อย หรือเรานั่งรอในคอฟฟี่ช็อปเขาเดินผ่านสี่แยกนี้ก็จะมองเห็น ถ้าแถวห้องซ้อมไม่มีคอฟฟี่ช็อปยืนตากลมรอ น้องจะกลับหอประมาณ 2-3 ทุ่ม ตอนนั้นศูนย์องศาหนาวมาก น้องไม่สามารถหันมามองเราได้ เพราะมีครูเดินมาด้วย เราแค่เห็นเขาเดินไป ให้รู้ว่ายูซ้อมเสร็จแล้วกำลังกลับหอพัก เห็นยูมีเพื่อนคนเกาหลีเดินมาด้วย เราก็พอใจแล้ว เมาท์กันว่าเหมือนส่งลูกไปโรงเรียน ที่เราทำแบบนี้ ไม่รู้สิ มันเป็นสิ่งที่เราเลือกกันเอง ถ้าเราไม่ได้ทำมากกว่าสิ เราจะรู้สึกว่าทำไมเราไม่ทำ ตอนขากลับเราก็ไปรับที่เกาหลีด้วย จำได้ว่าเขากำลังจะเดินเข้าร้านอาหาร เจอหน้าเราเขาพูดว่า มาแล้วหรอ คำนี้เรารู้สึกเหมือนเขารอ”
เห็นแบบนี้ ดูเหมือนเตยจะสนิทสนมกับดาราที่เขารักมากกว่าแฟนคลับคนอื่นๆ หากแต่เตยบอกว่า เจมส์ให้ความสนิทกับแฟนๆ เท่ากัน ทุกคนไม่มีใครได้ติดต่อกันแบบส่วนตัว อย่างเตยเองได้เจอได้คุยกับเจมส์ก็ตามงานเช่นกัน
“มีสิ่งหนึ่งที่แฟนคลับชอบเจมส์ คือเขาเป็นคนที่คาดเดาอารมณ์ไม่ได้ มีความเป็นตัวเองนิดหนึ่ง ซึ่งมันดูเรียลดูดิบๆ ดี อย่างเราเดาได้ว่าดาราเจอแฟนคลับเขาต้องเซอร์วิส แต่คนนี้เดาไม่ได้ บางวันเขาหัวเราะยิ้มสนิทมาก บางวันมีลูกนิ่งๆ ถามไรก็ตอบนะ แต่เฉยๆ มันเป็นอารมณ์หนึ่งของเขาที่ดูไม่เบื่อ เราไม่รู้สึกเขาหยิ่ง เพราะเขาเป็นคนใจดีมาก ใครขออะไรเขาทำได้ก็ทำ แทบไม่เคยปฏิเสธ เขาไม่จำเป็นต้องจ๊ะจ๋า เขาให้ด้วยความรู้สึกที่ให้”
เมื่อเจมส์เป็นดาวในดวงใจ เตยจึงซื้อดาว ตั้งชื่อ เจมส์ จิรายุ เป็นของขวัญให้ “ซื้อดาวบนฟ้าให้เขา ซื้อผ่านเว็บไซต์ ตั้งชื่อว่า เจมส์ จิรายุ เป็นดาวฤกษ์ดวงใหญ่นิดหนึ่งไม่ได้อยู่ไกลจากระบบสุริยะมาก แล้วเขาก็ส่งพิกัดดาวมาให้ จิ้มดูดาวในกูเกิล เอิร์ธได้ด้วย และเตยก็ซื้อจี้คริสตัลรูปดาวให้ บอกเขาว่า ดวงดาวนี้เป็นของจริง”
ไม่เพียงแฟนคลับเท่านั้นที่มอบความรัก ความห่วงใยให้แก่เจมส์ แต่เจมส์ก็แสดงความรัก ความมีน้ำใจคืนกลับเสมอยามเมื่อเจอกัน อย่างตอนแม่ของเตยป่วยหนัก เจมส์ก็ถามไถ่ถึงอาการอยู่ทุกครั้งที่พบหน้า สร้างความประทับใจให้กับเธอ รวมถึงการแสดงความใส่ใจต่อแฟนคลับคนอื่นๆ ด้วย เพราะเหตุนี้ถึงมีติ่งเจมส์


