ดัก ฮวัน มิน หนุ่มเกาหลีหัวใจไทย
นี่คือเรื่องราวของชายหนุ่มคนหนึ่งที่เชื่อหัวใจตัวเองอย่างที่สุด ติดตามอ่านเรื่องราวของเขาแล้วจะรักเขา เอ๊ย รักเมืองไทย มองเห็นเมืองไทยในมุมดีๆ
โดย...วันพรรษา อภิรัฐนานนท์ ภาพ : วีรวงศ์ วงศ์ปรีดี
นี่คือเรื่องราวของชายหนุ่มคนหนึ่งที่เชื่อหัวใจตัวเองอย่างที่สุด ติดตามอ่านเรื่องราวของเขาแล้วจะรักเขา เอ๊ย รักเมืองไทย มองเห็นเมืองไทยในมุมดีๆ ในแบบที่หนุ่มเกาหลีหัวใจไทยคนนี้มองเห็น ดัก ฮวัน มิน ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจต่างประเทศ กลุ่มบริษัท โลตัส เบดดิ้ง กรุ๊ป
ดัก ฮวัน มิน หรือเรียกกันติดปากในหมู่เพื่อนชาวไทยว่า มิน อายุ 33 ปี จบไฮสกูลที่โรงเรียน Ecole d'Humanite ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และเรียนปริญญาตรีที่ประเทศไทย มหาวิทยาลัยกรุงเทพ อินเตอร์ฯ Entrepreneurship การเป็นผู้ประกอบการที่มุ่งแสวงหาโอกาสที่ดีที่สุด
ชีวิตของมินน่าสนใจ ก่อนจะมาใช้ชีวิตและร่ำเรียนหนังสือในประเทศไทย เขาทำธุรกิจขายเสื้อผ้าที่ตลาดทงแดมุน ตลาดใหญ่แหล่งช็อปปิ้งของเกาหลีที่นักท่องเที่ยวชาวไทยรู้จักดี ขายเสื้อผ้าอยู่ที่นั่น 7 ปี วันหนึ่งก็แบกเป้ขึ้นหลังเดินทางมาท่องเที่ยวที่ประเทศไทยกับกลุ่มเพื่อนสนิท 1 เดือนเต็ม เป็น 1 เดือนที่เปลี่ยนชีวิตของเขา
“เป็น 1 เดือนที่ประทับใจมาก รู้สึกดีกับประเทศไทยมาก มินมองเห็นความสวยงาม มองเห็นผู้คนใจดีน่ารัก มองเห็นโอกาสเยอะแยะมากมาย ที่สำคัญคือรู้สึกถึงความมีโอกาสสำหรับมินด้วย”
ชีวิตของมิน ทุกอย่างมาจากความรู้สึก เมื่อได้เดินย่ำเหยียบอยู่บนผืนแผ่นดินไทย สิ่งที่ได้คือความรู้สึกท่วมท้นที่ประเดประดังมาจากไหนไม่ทราบ แต่มันทำให้เขารู้สึกเต็มเปี่ยมบนผืนดินแห่งนี้ ราวกับว่าได้เคยอยู่ที่นี่ ได้เคยเกิดที่นี่ ที่สำคัญคือเป็นความรู้สึกด้านบวก ที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับเขามาก่อนแม้บนแผ่นดินเกิดที่เกาหลีก็ตาม
มินเล่าว่า มันเป็นความรู้สึกที่แรงมาก แรงขนาดไหน แรงขนาดที่ว่าเมื่อเดินทางกลับเกาหลี ได้เคลียร์ทุกอย่างทั้งธุรกิจเสื้อผ้า บ้านช่อง บอกลาเพื่อนฝูงและครอบครัว เดินทางกลับมาประเทศไทยอีกครั้ง ตัดสินใจมาใช้ชีวิตที่นี่ ทั้งที่ขณะนั้นไม่มีอะไรเลย ไม่มีงานหรือหนังสือรับรองการเข้าทำงาน ไม่มีเพื่อน ไม่มีญาติในไทย ไม่มีอะไรทั้งนั้น
“มีแต่ความรู้สึกว่าอยากกลับมาใช้ชีวิตที่เมืองไทย งานอะไรมินไม่รู้ มินจะไปหาที่ไหน เมืองไทยเรียกมินอยู่ มินต้องไปก่อน” มินเล่า
สัญญากับตัวเองว่าจะพยายามให้ถึงที่สุด เพราะไม่อยากล้มเหลวกลับเกาหลี กินได้นอนหลับ ประเทศไทยอากาศดีอาหารอร่อย ในที่สุดได้งานที่บริษัททัวร์แห่งหนึ่ง มีหน้าที่ประสานส่วนงานที่เกี่ยวข้องตามตารางทัวร์ในแต่ละวันแต่ละทริป ก็สนุกสมใจมาก และได้อะไรที่ไม่ใช่เงินอย่างเดียว
“ได้เรียนรู้การเซอร์วิสมายด์ คนเรามีดีมีเกลียด แต่เราเรียนรู้ว่าเราทำให้ดีกับคนที่เกลียดได้ ตารางในแต่วันแน่นและยุ่ง แต่เพราะอยู่ในประเทศที่อยากอยู่ มินก็อยู่ได้” มินเล่า
อายุ 26 ปีในขณะนั้น มินตัดสินใจไปเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพ เขาตั้งเป้าว่าสักวันจะต้องทำธุรกิจของตัวเอง จึงเรียนเรื่องการแสวงหาโอกาสและการเป็นผู้ประกอบการที่ใช้โอกาสในการไปให้เหนือคู่แข่ง ขณะเดียวกันก็ทำงานไปด้วยที่บริษัทโฆษณาแห่งหนึ่ง ทำหน้าที่เป็นเออีหาโฆษณาบนรถไฟฟ้า และรถสาธารณะหลายประเภท รวมทั้งการเป็นนายแบบหน้าเกาหลี
“โชคดีของมิน เพราะเป็นช่วงเกาหลีบูมพอดี นายแบบเกาหลีในไทยตอนนั้นมีแค่คนเดียว มินเป็นคนที่สอง หน้าตาแบบเกาหลีกลายเป็นที่ต้องการของงานโฆษณา ได้ถ่ายงานเยอะมาก เท่าที่จำได้ก็มีงานโฆษณาโค้ก มาสด้า 3 แบงก์กรุงศรีอยุธยา มิตซูบิชิ บีทาเก้น และเลย์ แต่ก็เบื่ออีกจนได้”
5 ปีผ่านไป มินเรียนจบแล้วในตอนนี้ มีบริษัทแห่งหนึ่งบนเกาะฮ่องกงติดต่อมา อยากให้เขาไปทำงานด้านการตลาดเกี่ยวกับการขายผลิตภัณฑ์เครื่องกรองน้ำ มินตัดสินใจไป หากไม่เพราะวันหนึ่งเขาได้มีโอกาสเจอ ทีปกร โลจนะโกสินทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท โลตัส เบดดิ้ง กรุ๊ป วันนี้เขาก็คงไม่อยู่ในประเทศไทยแล้ว คงเดินทางไปทำงานอยู่ที่ฮ่องกงแล้ว
เพราะเคยทำงานด้านโฆษณารถไฟฟ้า แวดวงเดียวกับบริษัท แพลน บี หนึ่งในธุรกิจของกลุ่มธุรกิจตระกูลโลจนะโกสินทร์ จึงได้เคยพานพบกับทีปกรมาก่อนบ้าง มินนั้นชื่นชมทีปกรในฐานะของนักธุรกิจที่มีวิสัยทัศน์ มินบอกลาทีปกร "พี่ครับมินจะไปแล้ว มินจะไม่อยู่ที่เมืองไทยแล้ว" ทีปกรก็ถาม "อ้าว จะไปไหนหรือ" นั่นแหละ เรื่องราวจึงเป็นอย่างที่เป็น คือมินได้มาอยู่ในที่ที่เขาคิดว่าเขาควรอยู่มากที่สุด
“จะไปฮ่องกงไม่ใช่เพราะหมดรักเมืองไทย แต่เพราะต้องการความท้าทายใหม่ๆ เมื่อโลตัส เบดดิ้ง กรุ๊ป ให้ในสิ่งที่มินต้องการ มินจึงรีบเปลี่ยนใจ คว้าไว้ทันที”
ความท้าทายที่ โลตัส เบดดิ้ง กรุ๊ป คือความท้าทายที่เติมเต็มชีวิตของหนุ่มเกาหลีคนนี้ไว้อย่างถูกที่ถูกจังหวะ ถูกที่คือได้อยู่เมืองไทย ถูกเวลาคือเกือบไปแล้ว โลตัส เบดดิ้ง กรุ๊ป คือแบรนด์ที่นอนและชุดเครื่องนอนโลตัสที่ยิ่งใหญ่มาแต่เดิม ปัจจุบันต่อยอดเป็นที่นอนและชุดเครื่องนอนระดับไฮเอนด์ “โอมาซ” ระดับกลาง “ดัลลอป” ขณะที่โลตัสเป็นเจ้าใหญ่ของตลาดล่าง กล่าวได้ว่าโลตัสฯ คือเบอร์หนึ่งในทุกเซ็กเมนต์ของตลาดในเวลานี้
“มินไม่รู้เรื่องที่นอนเลย แต่เข้าใจในวัฒนธรรม เพราะชอบไปเที่ยวต่างประเทศหลายๆ ประเทศ ก็เก็บเกี่ยวความรู้และความเข้าใจในผู้คน งานที่ทำคือการขยายตลาดใหม่ๆ สำหรับโลตัส เบดดิ้ง กรุ๊ป มินถือว่ามินได้โอกาสที่จะได้เรียนรู้ และได้อยู่กับคนที่มินคิดว่าเขามีวิสัยทัศน์ที่ดีที่สุด”
ในฐานะผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจต่างประเทศของ โลตัส เบดดิ้ง กรุ๊ป ชีวิตของมินช่วงนี้จึงต้องเดินทางตลอดเวลา จุดแข็งของโลตัสฯ ก็คือความครบวงจรของที่นอนและชุดเครื่องนอน การขายทำแบบครบโซลูชั่น ทุกอย่างในห้องนอนของลูกค้า หรือโททอล เบดดิ้ง ที่ผู้ผลิตรายอื่นทำไม่ได้ ปัจจุบันตลาดในประเทศยังใหญ่กว่าตลาดต่างประเทศมาก ถือเป็นโอกาสดีที่จะขยายตัวได้อีกมากในอนาคต
“โลตัส เบดดิ้ง กรุ๊ป คือผู้ผลิตที่นอนและชุดเครื่องนอนที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ส่วนตลาดในประเทศปัจจุบันเรามียอดการจัดจำหน่ายต่อปีกว่า 60% ของตลาดรวมมูลค่า 1.4 หมื่นล้านบาท” มินเล่า
เคล็ดลับความสำเร็จ หรือจะพูดให้ถูกว่า เคล็ดลับในการใช้ชีวิตของหนุ่มเกาหลีหัวใจไทยคนนี้ ได้แก่ การโฟกัสหรือทุ่มเทความตั้งใจต่อการทำงาน เขาไม่นับถือศาสนา หากเชื่อในปัจจุบัน ปัจจุบันคือปัจจุบัน ไม่คิดอดีตหรืออนาคต พรุ่งนี้จะมีหรือไม่มีก็เพราะวันนี้ มินบอกว่าเขาเป็นคนที่โฟกัสกับการทำงานมาก ขณะเดียวกันก็ “โฟลว์” ไปกับชีวิต ลื่นไหลไปกับสิ่งที่ทำ ทำอะไรทำจริง ลืมกินข้าว ลืมกระเป๋าเงิน ลืมตอบเมสเซจ (ฮา) ลืมหมดทุกอย่างถ้ามุ่งมั่นจะทำอะไรสักอย่าง
“มินเชื่อฟีลลิ่งหรือความรู้สึกของตัวเองมาก เพราะรู้สึกจึงต้องมีเหตุผล ถ้ารู้สึกอะไรสักอย่าง เป็นความรู้สึกที่โพซิทีฟมากๆ มีนจะรีบตามความรู้สึกนั้นไปทันที สิ่งนั้นเคยทำให้มินมาอยู่เมืองไทย และสิ่งนั้นกำลังนำพาให้มินมาอยู่ที่นี่...โลตัส เบดดิ้ง กรุ๊ป ตอนนี้เหมือนชีวิตบทใหม่ของมินเพิ่งเริ่มขึ้น ก็อยากที่จะตอบหรือค้นคว้าในบทนี้ ไม่รู้ว่าจะมีอะไรต่อไป สนุกดี ท้าทายดี”


