นอนทั้งคืนแต่ยังง่วงทั้งวัน
ถ้าคุณกำลังนั่งทำงานหน้าเครื่องคอมพิวเตอร์อย่างเพลียๆ แต่ละนาทีผ่านไปเนิบช้า และทุกวินาทีเต็มไปด้วยความรู้สึกล้า
โดย...ธนวัฒน์ เพ็ชรล่อเหลียน
ถ้าคุณกำลังนั่งทำงานหน้าเครื่องคอมพิวเตอร์อย่างเพลียๆ แต่ละนาทีผ่านไปเนิบช้า และทุกวินาทีเต็มไปด้วยความรู้สึกล้า ง่วงๆ ซึมๆ เบลอๆ เหนื่อยหน่ายกับชีวิต
เป็นไปได้ว่าความเครียดสะสมบวกกับกิจวัตรซ้ำซากทำให้คุณรู้สึกอึนๆ นอยด์ๆ แต่ก็เป็นไปได้อีกเช่นกันว่าร่างกายคุณกำลังเข้าข่าย “ผิดปกติ” ขึ้นแล้ว
อาการข้างต้นนี้อาจไม่เลวร้ายถึงขั้นเป็น “โรค” แต่ก็ไม่ควรไว้วางใจได้ นั่นเพราะคุณมีโอกาสตกอยู่ใน “ภาวะอ่อนเพลียเรื้อรัง” หรือทางการแพทย์เรียกว่า ไฮโปไกลซีเมีย
อาการดังกล่าวไม่ได้มีสาเหตุหรือเกิดจากสิ่งเร้าภายนอก หากแต่เกิดจากภายในตัวของคุณเองมูลเหตุที่นำมาซึ่งภาวะอ่อนเพลียเรื้อรังคือ การดำเนินชีวิตแบบผิดๆ ส่งผลให้ร่างกายมี “ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ”ไม่มีเรี่ยวแรงทำอะไรตลอดทั้งวัน
ศัพท์สากลเรียกภาวะนี้ว่า Chronic Fatigue Syndrome (CFS)
อาการหลักๆ หรือสัญญาณที่บ่งชี้ว่าคุณกำลังเข้าสู่ CFS นั่นก็คือ เพลีย-หมดแรง ทั้งที่พักผ่อนเพียงพอ หรือนอนมาแล้วหลายชั่วโมง เมื่อตื่นขึ้นมาก็ไม่สดชื่น อยากนอนซ้ำอีก สมองคิดอะไรไม่ออก ตื้อ สับสน บางรายมีอาการปวดเมื่อย-ปวดเนื้อปวดตัว-ปวดหลัง หนักเข้าคือลุกขึ้นเดินแล้วการทรงตัวไม่ดี เป็นตะคริวบ่อย เท้าเย็น
บ่อยครั้งที่คุณเกิดอาการ ก็จะพึ่ง “ความหวาน”โดยเชื่อว่าจะทำให้ร่างกายกระชุ่มกระชวยสดชื่นขึ้นดื่มน้ำหวาน น้ำอัดลม กาแฟ หรือแม้แต่เครื่องดื่มชูกำลัง
แต่นั่นคือ “ความเชื่อผิดๆ” เพราะยิ่งเราบริโภคความหวานเข้าสู่ร่างกายมาก ระดับน้ำตาลในเลือดก็จะพุ่งขึ้นสูง ร่างกายก็จะผลิตอินซูลินออกมาเพื่อควบคุมให้ระดับน้ำตาลต่ำลง แต่แล้วคุณก็บริโภคหวานเข้าไปอีก
ตับอ่อนของคุณก็จะต้องทำงานหนักเพิ่มขึ้นและทำงานตลอดเวลา ซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่เรื่องดี
ภาวะ CFS มักจะเกิดขึ้นกับผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย โดยเฉพาะผู้หญิงวัยทำงานช่วงอายุราวๆ 25-45 ปี โดยสาเหตุที่แท้จริงยังไม่ชัดเจน แต่สามารถป้องกันได้โดยเฉพาะการ “หลีกเลี่ยงน้ำตาล”คือไม่ควรเพิ่มน้ำตาลเข้าไปในร่างกาย ผ่านการรับประทานอาหารที่มีน้ำตาลและไขมันสูง
นอกจากนี้ จำเป็นต้องควบคุมอารมณ์ไม่ให้เครียดจนเกินไป ขณะเดียวกันต้องพักผ่อนให้เพียงพอ เนื่องจากการพักผ่อนจะช่วยให้ร่างกายได้ฟื้นฟูตัวเองขณะนอนหลับ สำหรับอาหารที่ควรจะรับประทานเพิ่มคืออาหารจำพวกโปรตีน วิตามิน ธาตุเหล็ก และแมกนีเซียม
อีกหนึ่งอาการที่มีระดับความรุนแรงจนกลายเป็น “โรค” คือการ “นอนหลับง่ายเกินไป” เรียกได้ว่าหลับได้ทุกเวลา ทุกการกระทำ หลับกะทันหัน หลับทั้งยืน หลับขณะขับรถ หรือแม้กระทั่งหลับขณะมีเพศสัมพันธ์
โรคนี้เรียกว่า “โรคลมหลับ” แม้จะยังไม่มีข้อมูลทางการแพทย์ชี้ชัดว่าโรคดังกล่าวเกิดขึ้นได้อย่างไร แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นเพราะสารเคมีในสมองกลุ่มสารสื่อประสาท Hypocretin ผิดปกติ โดยโรคนี้เกิดขึ้นกับผู้ชายมากกว่าผู้หญิง
ข้อมูลจาก รศ.นพ.สมศักดิ์ เทียมเก่า อายุรแพทย์ประสาทวิทยา โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ระบุว่า โรคลมหลับมี 4 อาการหลัก คือ 1.ง่วงนอนฉบับพลัน วันๆ หนึ่งอาจเกิดขึ้นได้หลายครั้ง 2.กล้ามเนื้ออ่อนแรง คอตก ผล็อยหลับได้ทันที 3.อาการผีอำ 4.เห็นภาพหลอนขณะกำลังจะหลับ ส่วนใหญ่เป็นภาพที่น่ากลัวและรูปร่างประหลาด
โรคลมหลับจะค่อยๆ มีอาการรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ระยะแรกจะง่วงนอนในเวลากลางวัน โดยเฉพาะในช่วงที่มีอากาศร้อนอาการจะเป็นมากขึ้น ต่อมาจะนอนไม่หลับในเวลากลางคืน และจะนอนหลับในช่วงกลางวันบ่อยขึ้น ในที่สุดอาการจะรุนแรงจนไม่สามารถควบคุมตัวเองได้
คำแนะนำก็คือให้รีบพบแพทย์ตั้งแต่มีอาการระยะแรก


