posttoday

ความสุขและความงดงามของชีวิต

05 เมษายน 2558

ทุกครั้งเมื่อผมเกิดคำถามคาใจเกี่ยวกับการใช้ชีวิต ผมมักหยิบหนังสือเล่มหนึ่งซึ่งมีชื่อว่า The Art of Living

ทุกครั้งเมื่อผมเกิดคำถามคาใจเกี่ยวกับการใช้ชีวิต ผมมักหยิบหนังสือเล่มหนึ่งซึ่งมีชื่อว่า The Art of Living เขียนโดยนักเขียนชาวอเมริกัน ผู้มองว่าชีวิตคือสิ่งดีงามในการแสวงหาสันติสุข ไมตรีและสิ่งดีงามที่อยู่ในตัวเราทุกคน

เขาคือ วิลเฟรด ปีเตอร์สัน

ชื่อของหนังสือเล่มนี้แปลเป็นไทยว่า“แห่งความงดงามของชีวิต” โดยอาจารย์ท่านหนึ่ง ซึ่งผมเคยได้ร่ำเรียนวิชาอริยสัจ4 ในฐานะกฎของสัจธรรมธรรมชาติจากท่าน นั่นคือ รศ.ดร.โสรีช์ โพธิ์แก้ว หนังสือเล่มนี้ผมซื้อมาอ่านเมื่อ 4 ปีที่แล้ว เป็นหนังสือที่พูดถึงศิลปะแห่งการใช้ชีวิตในมิติต่างๆ โดยในแต่ละมิตินั้น ผู้เขียนได้ชี้ทางให้เราในฐานะผู้อ่าน ได้มองเห็นสาระสำคัญของการดำเนินชีวิต เพื่อให้เราได้เข้าใจชีวิตตัวเองมากขึ้น นี่คือสิ่งสำคัญต่อมวลมนุษยชาติที่กำลังเข้าใจตัวเองน้อยลง จนไร้สิ้นซึ่งความสุขในการดำรงชีวิตอยู่

“ความสุขมิได้เกิดจากการทำงานที่ง่ายๆ แต่มันเกิดหลังจากที่เราพอใจในการได้ทำงานที่ยากและท้าทายความสามารถของเรา” จาก ศิลปะแห่งความสุข หน้า 64

“ความหวังเป็นเพียงอย่างเดียวในกล่องแห่งกำลังใจ หลังจากสิ่งมีค่าอื่นๆได้สูญหายไปหมด ในนิยายปรัมปราของกรีกจึงประกาศว่า ความหวังเป็นสิ่งมีค่าที่ขาดไม่ได้ในชีวิต” จาก ศิลปะแห่งความหวัง หน้า 66

“ความรู้สึกเบิกบาน คือ การมีความรักกับชีวิต มันคือการแสดงดนตรีจากภายใน มันเป็นความเบิกบานที่แผ่ซ่านออกไป เช่นเดียวกับเสียงดุริยางค์อันไพเราะที่เดินอย่างมีชีวิตชีวาบนท้องถนน” จากศิลปะแห่งความรู้สึกเบิกบาน หน้า 71

“เวลาเป็นสิ่งที่ช่วยรักษาความเจ็บปวด ความเสียใจ และความผิดหวัง เมื่อประตูหนึ่งปิด ก็จะมีประตูอื่นเปิด หากหัวใจของเรายังดำรงอยู่” จาก ศิลปะแห่งความอิ่มเอม หน้า 98

“ความรักเป็นยาต้านโรคที่ดีเลิศ ที่ชำระหัวใจให้สะอาดจากความเกลียดชังความริษยา ความไม่พอใจ ความกังวลและความกลัว” จาก ศิลปะแห่งความรัก หน้า 88

“การยกระดับจิตใจผู้อื่น โดยการแสดงความประทับใจและยกย่อง เป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะยกระดับจิตใจตนเองด้วย”จาก ศิลปะแห่งการดำเนินชีวิต หน้า 53

คุณเห็นอะไรจากถ้อยคำเหล่านี้บ้างไหม? สำหรับผมสิ่งที่ผมได้เห็นและได้สัมผัส นั่นคือ ถ้อยคำเหล่านี้เป็นดั่งน้ำใสไหลเย็น ที่ช่วยชำระล้างจิตใจของเรา ที่แต่เดิมเป็นสเี ทาให้กลายเป็นขาวสะอาดมากขึ้น รวมทั้งช่วยทำให้เรามีความสุขกับการใช้ชีวิตมากขึ้นได้จริงๆ

ในวันที่ผมไม่เข้าใจตัวเอง ไม่เข้าใจผู้อื่น ไม่เข้าใจสังคม ไม่เข้าใจโลก คอยแต่เอาความไม่เข้าใจต่างๆ เหล่านี้มาบั่นทอนจิตใจตัวเอง เมื่อได้ลองให้โอกาสตัวเองได้สัมผัสกับถ้อยคำเหล่านี้ มันทำให้ผมได้เรียนรู้ศิลปะการใช้ชีวิตในมิติที่หลากหลาย และทำให้ในวันที่ผมมีดวงตามืดบอด มีจิตใจคับแคบ และสิ้นไร้ความสุขแบบถาวร แปรเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นกว่าเดิม

ชีวิตต้องมีการถ่ายเทของเสียออกไป เช่นใครบางคนเคยพูดไว้ว่า ในทุกเช้าไม่เอาของเสียออก เราจะเอาของดีเข้าได้อย่างไร เช่นเดียวกันในทุกๆ วันของชีวิต มันคือวันแห่งการชำระล้างของเสียออกจากจิตใจ เพื่อรินรดสิ่งดีสิ่งใหม่เข้าไปเยียวยาสภาพจิตใจให้ดีงาม พร้อมรับมือกับทุกสิ่งที่จะเกิดในชีวิตอย่างคนที่มีความสุข

หากความสุขที่ว่า

มันได้สร้างความงดงามแก่ชีวิต

จงมีความสุขด้วยการได้เรียนรู้ศิลปะแห่งการใช้ชีวิตกันเถิด

แล้วเราทุกคนทุกผู้จะพบเจอความงดงามนั้น

ข่าวล่าสุด

วปอ.68 มอบตาข่ายป้องกันโดรน ทิ้งระเบิด และสิ่งของ ช่วยทหารชายแดนภาค 2