คอนโดหรูอลังการ วิมานในฝันของสะสมไฮโซ

โดย... วราพงษ์ ป่านแก้ว/สุกัญญา สินถิรศักดิ์

ไม่ว่าเศรษฐกิจไทยจะตกต่ำแค่ไหน สินค้าไฮเอนด์ก็ไม่เคยจะต้องหวั่นไหว เพราะลูกค้าไฮโซทั้งหลายอยู่นอกเหนือกฎเกณฑ์ของตัวเลขทางเศรษฐกิจ ไม่ว่าสินค้านั้นจะมีราคานับสิบนับร้อยล้าน หากเขาเหล่านั้นถูกใจซะอย่างก็พร้อมที่จะควักกระเป๋าซื้อทันที

หนึ่งในสินค้าไฮเอนด์ที่ยังเป็นที่นิยมของบรรดาเศรษฐีกระเป๋าหนักอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน หนีไม่พ้นอสังหาริมทรัพย์ เพราะเป็นสินค้าราคาแพงที่สามารถบ่งบอกสถานะความร่ำรวยมั่งคั่งของผู้ถือครองได้เป็นอย่างดี แต่ยุคสมัยที่เปลี่ยนไปทำให้รูปแบบการถือครองอสังหาริมทรัพย์เปลี่ยนตาม จากการซื้อที่ดินเก็บสะสมในยุคก่อนมาเป็นการซื้อคอนโดมิเนียมหรูราคาตารางเมตรละหลายแสน หรือคฤหาสน์หรูราคาหลักร้อยล้านในยุคปัจจุบัน

ข้อมูลจาก บริษัท ซีบี ริชาร์ด เอลลิส (ประเทศไทย) หรือ ซีบีอาร์อี บริษัทที่ปรึกษาและวิจัยด้านอสังหาริมทรัพย์ ระบุว่า กลุ่มลูกค้าคนไทยที่มีความมั่งคั่งสูง (High Net Worth) กลับมาให้ความสนใจซื้อคอนโดมิเนียมหรูอีกครั้ง หลังจากมีโครงการใหม่ๆ เกิดขึ้นหลายทำเลในใจกลางกรุงเทพฯ ขณะที่คอนโดมิเนียมไฮเอนด์ที่เปิดขายอยู่ราคาได้พุ่งทะลุหลัก 3 แสนบาท/ตารางเมตร ไปเรียบร้อยแล้ว

อลิวัสสา พัฒนถาบุตร กรรมการผู้จัดการ ซีบีอาร์อี กล่าวว่า ช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ราคาเฉลี่ยของคอนโดใหม่ย่านใจกลางเมืองปรับขึ้นกว่าเท่าตัว จาก 7.8 หมื่น-1.05 แสนบาท/ตารางเมตร (ตร.ม.) เป็น 1.6-2.2 แสนบาท/ตร.ม. โดยสุขุมวิทราคาเฉลี่ยปรับขึ้นจากประมาณ 8.4 หมื่นบาท/ตร.ม. ในปี 2547 มาเป็น 1.8 แสนบาท/ตร.ม.ในปัจจุบัน

คอนโดไฮเอนด์ของสะสมไฮโซ

คอนโดหรูระดับไฮเอนด์ส่วนใหญ่จะมีหน้าที่เป็นบ้านหลังที่สองของเศรษฐียุคใหม่ที่มีคฤหาสน์อยู่นอกเมือง แต่ก็มีคอนโดในเมืองไว้เป็นที่พำนักในวันทำงาน ว่ากันว่าคอนโดหรูกลางเมืองบางแห่งถูกซื้อไว้สำหรับเป็นที่ไว้เปลี่ยนเสื้อผ้า หรือเป็นที่พักกายก่อนออกงานสังคมในช่วงค่ำคืนของไฮโซ ยิ่งกว่านั้นคอนโดบางแห่งถูกซื้อไว้เพื่อให้ได้สิทธิที่ีจอดรถของคอนโดในเมือง เพราะเป็นที่ทราบดีว่า พื้นที่ในเมืองนั้นหาที่จอดรถได้ยากเย็นโดยเฉพาะในชั่วโมงที่เร่งรีบ

บ่อยครั้งที่คอนโดไฮเอนด์ถูกซื้อไว้ เพื่อให้คนอื่นได้รับรู้ว่า “ฉันก็มีคอนโดนี้กับเขาเหมือนกัน” โดยเฉพาะคอนโดในพื้นที่ไพรม์แอเรียที่หาที่ดินว่างเปล่าได้ยากยิ่ง เพราะการเป็นสินค้าที่มีอยู่หนึ่งเดียว หรือหาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว ย่อมเป็นที่หมายปองของคนในสังคมชั้นสูง จึงไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่คอนโดที่ว่าจะขายดี เพียงชั่วข้ามคืนก็หมดเกลี้ยง

“จากการสำรวจของซีบีอาร์อี ปัจจัยที่ทำให้กลุ่มเศรษฐีไทยมีความต้องการคอนโดหรูมากขึ้น นอกจากจะเป็นการมองการลงทุนระยะยาว เพราะที่ดินในเมืองหายากแล้ว ส่วนหนึ่งยังเป็นเพราะกลุ่มคนที่มีกำลังซื้อสูงต้องการซื้อไว้เป็นที่จอดรถในเมือง ให้เพื่อนมาพัก หรือถ้าเป็นทำเลที่ใกล้แหล่งช็อปปิ้งชั้นนำ ก็เพราะต้องการอยู่ใกล้แหล่งช็อปปิ้งที่ตัวเองนิยม แต่ตั้งแต่ปลายปีที่มีคอนโดหรูเกิดขึ้น โดยเฉพาะคอนโดหรูที่ใช้แบรนด์โรงแรมบริหาร สินค้ากลุ่มนี้กลายเป็นเหมือนหนึ่งในของสะสมของไฮโซไทยที่ซื้อเก็บไว้เป็นคอลเลกชั่นส่วนตัว โดยเฉพาะโครงการที่อยู่บนทำเลที่หาที่ดินยากมากๆ หรือหาที่ดินไม่ได้แล้ว” อลิวัสสา กล่าว

แต่ที่เป็นเทรนด์ในขณะนี้คือ การซื้อคอนโดหรูไว้เพื่อลงทุน โดยเฉพาะในช่วงที่การลงทุนประเภทอื่นผลตอบแทนอาจจะพึ่งพาได้ยาก แต่สำหรับการลงทุนในคอนโดหรู โดยเฉพาะในทำเลกลางเมืองที่หาที่ดินได้ยากแล้ว ราคามีโอกาสขยับขึ้นปีละ 10-20% นอกจากนี้ยังสามารถปล่อยเช่าได้ไม่ยาก ยิ่งใกล้เปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือเออีซี ไทยจะกลายเป็นศูนย์กลางการค้าการลงทุนในอาเซียน พื้นที่เศรษฐกิจกลางเมือง หรือ Central Business District : CBD  จะกลายเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ด้านเศรษฐกิจที่สำคัญ

“4 ปัจจัยพื้นฐานสำคัญที่ทำให้การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์น่าสนใจ ปัจจัยแรก คือ ความต้องการในอสังหาริมทรัพย์ที่มากขึ้นตามการขยายตัวของเขตเมืองทั่วภูมิภาค (Urbanization) ถัดมา คือ แรงผลักดันจากโครงการลงทุนภาครัฐ ได้แก่ รถไฟฟ้าในกรุงเทพฯ และปริมณฑล และการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษ ปัจจัยที่สาม คือ ปริมาณที่ดินที่มีจำกัด โดยเฉพาะในพื้นที่เมือง ส่งผลให้ราคาที่ดินมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในระยะยาว และประการสุดท้าย คือ การปรับเพิ่มราคาประเมินที่ดินในรอบปี 2559-2562 เฉลี่ยทั่วประเทศประมาณ 10-15%” สุวรรณี วัธนเวคิน ผู้ช่วยกรรมการ
ผู้จัดการใหญ่ ธนาคารเกียรตินาคิน ระบุ

 

ตัวอย่างล่าสุด คือ โครงการ “นิมิต หลังสวน” คอนโดมิเนียมหรูมูลค่า 5,700 ล้านบาท ย่านหลังสวน ราคาขายเริ่มต้นยูนิตละ 25 ล้านบาท หรือเฉลี่ยตารางเมตรละ 3 แสนบาท ของบริษัท เพซ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น ที่เปิดขายได้ 2 วันในช่วงปลายเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา มียอดจองสูงถึง 70% ถึงขนาดที่ผู้บริหารของบริษัทเองก็คาดไม่ถึง

สรพจน์ เตชะไกรศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เพซ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น ยอมรับว่า ไม่คาดคิดว่าโครงการราคาแพงระดับ 3 แสนบาท/ตร.ม. จะมียอดจองซื้อในระยะเวลาสั้น เพราะภาวะเศรษฐกิจในเวลานี้ยังไม่ดีมากนัก แต่ลูกค้าเห็นถึงศักยภาพของที่ดินในทำเลกลางเมืองติดกับสวนลุมพินี อีกทั้งผลดีจากการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนที่กำลังมาถึงเป็นโอกาสในการซื้อไว้ลงทุน

“เศรษฐีไทยมองเห็นโอกาสการอยู่อาศัยและการซื้อเพื่อลงทุนจึงทำให้ซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ คอนโดมิเนียมมียอดขายเร็วมาก โดยที่ราคาขายคอนโดมิเนียมของไทยหากเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างสิงคโปร์ ฮ่องกงนั้นยังมีราคาต่ำกว่าหลายเท่าตัว” สรพจน์ กล่าว

คอนโดหรู ตร.ม.ละ 2-3 แสนอัพ

นอกจาก นิมิต หลังสวน ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อปลายเดือน ก.พ.ที่ผ่านมาแล้ว ยังมีคอนโดไฮเอนด์ราคา 2.5-3 แสนบาท/ตร.ม. เปิดตัวในเวลาไล่เลี่ยกันอีกหลายโครงการ แสดงถึงความคึกคักในกลุ่มคอนโดไฮเอนด์ ส่วนกระแสเศรษฐกิจที่ยังชะลอตัว และยังมีแนวโน้มว่าโครงการคอนโดมิเนียมหรูๆ ล็อตใหม่ๆ ที่จะเปิดตัวในปีนี้ราคาเริ่มต้นอาจจะเฉียดๆ 4 แสนบาท/ตร.ม. ก็เป็นไปได้

เริ่มด้วยโซนริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่อยู่ระหว่างขายและก่อสร้างในปัจจุบันมีด้วยกัน 5 โครงการ รวม 1,362 ยูนิต ประกอบด้วย 1.แม่น้ำ เรสซิเดนท์ ความสูง 54 ชั้น ราคาขาย 2-2.5 แสนบาท/ตร.ม. 2.คณาพญา เรสซิเดนซ์ ความสูง 57 ชั้น ราคาขาย 2-2.5 แสนบาท/ตร.ม. 3.แมกโนเลียส์ วอเตอร์ฟรอนท์ เรสซิเดนซ์ ในโครงการดิไอคอนสยาม ความสูง 70 ชั้น ราคาขาย 2-3 แสนบาท/ตร.ม.

4.เดอะ เรสซิเดนซ์ แอท แมนดาริน โอเรียนเต็ล ในโครงการดิไอคอนสยามเช่นกัน ความสูง 52 ชั้น (ยังไม่เปิดขาย แต่คาดว่าราคาจะเริ่มต้น 4 แสนบาท/ตร.ม.) 5.โฟร์ซีซั่นส์ ไพรเวท เรสซิเด้นซ์ ในโครงการเจ้าพระยา เอสเตท ความสูง 73 ชั้น ราคาขาย (สิทธิการเช่า) 2.5-3.5 แสนบาท

 

ขณะที่คอนโดมิเนียมหรูบนใจกลางเมืองอื่นๆ ปัจจุบันที่อยู่ระหว่างขายและก่อสร้างมีด้วยกัน 8 โครงการ รวม 1,749 ยูนิต ได้แก่ 1.นิมิต หลังสวน ความสูง 53 ชั้น ราคาขาย 3.2-4.5 แสนบาท/ตร.ม. 2.เดอะ ดิโพลแมท 39 ความสูง 31 ชั้น ราคาขาย 2.8-4 แสนบาท/ตร.ม. 3.มาร์ค สุขุมวิท ความสูง 50 ชั้น ราคาขาย 3.2-4 แสนบาท/ตร.ม. 4.เดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน เรสซิเดนเซส ความสูง 77 ชั้น ราคาขาย 3.1-4.2 แสนบาท/ตร.ม.

5.เดอะ แบงค็อค สาทร ความสูง 50 ชั้น ราคาขาย 2-3.1 แสนบาท/ตร.ม. 6.ศาลาแดง วัน ความสูง 33 ชั้น ราคาเริ่มต้น 2.8 แสนบาท/ตร.ม. 7.แมกโนเลียส์ ราชดำริ บูเลอวาร์ด ความสูง 60 ชั้น ราคาขาย 2-3.9 แสนบาท/ตร.ม. และ 8.แกลอรี่ ฮรู เดอร์ 39 ความสูง 28 ชั้น ราคาขาย 3-4.1 แสนบาท/ตร.ม.

กฤษณ์ ณรงค์เดช ประธาน บริษัท เคพีเอ็น กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น เจ้าของโครงการเดอะ ดิโพลแมท 39 มองว่า ความต้องการตลาดคอนโดระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ ที่มีราคาประมาณตารางเมตรละ 2.5 แสนบาทขึ้นไป ยังมีต่อเนื่องจากกลุ่มลูกค้าคนไทยที่มีกำลังซื้อสูง โดยเฉพาะบนทำเลใจกลางเมืองมากๆ ซึ่งที่ดินมีจำกัด โดยนับจากนี้ไปคอนโดราคา 3-4 แสนบาท/ตร.ม. อาจเป็นราคามาตรฐานของกลุ่มคอนโดซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ก็เป็นไปได้สูง

คอนโดหรู never die คงไม่ใช่คำกล่าวอ้างที่เกินเลยความจริงแม้แต่น้อย