เมื่อลูกแขนหัก…
วินาทีที่หมอยื่นฟิล์มเอกซเรย์ให้ดู...ภาพกระดูกท่อนแขนขนาดเล็กสีขาว 2 ท่อนที่มีรอยหักสะบั้นบนพื้นดำยังจำติดตาอยู่เสมอ
โดย...พรเทพ เฮง
วินาทีที่หมอยื่นฟิล์มเอกซเรย์ให้ดู...
ภาพกระดูกท่อนแขนขนาดเล็กสีขาว 2 ท่อนที่มีรอยหักสะบั้นบนพื้นดำยังจำติดตาอยู่เสมอ เป็นหลักฐานที่ต้องยอมจำนนว่า แขนขวาลูกสาววัย 2 ขวบครึ่งหักในโลกของความจริง
ทั้งที่ก่อนหน้านั้น พยายามภาวนาในใจและสะกดจิตตัวเอง คงไม่ร้ายแรงถึงขั้นแขนขาหักหรอกน่า ใจเย็นๆ เข้าไว้
ในห้างเมกะสโตร์ สินค้าเรียงรายหลากหลายบนหิ้งแสดงสินค้าให้เลือกซื้อและจับจ่าย พ่อกับแม่ต่างเลือกซื้อเลือกพลิกดูสินค้าอย่างเพลิดเพลิน
ช่วงเวลาที่ลืมไปว่าปล่อยลูกให้ยืนเล่นอยู่ในรถเข็นใส่ของเพียงลำพัง เสียงดังโครม รถเข็นล้มลง ลูกพุ่งตกลงจากรถนอนคว่ำหน้าแอ้งแม้งบนพื้น
เสียงแผดเสียงร้องไห้จ้า พ่อกับแม่รีบวางของที่กำลังเลือกอยู่ โผมาหาลูกอย่างไม่คิดชีวิต
ยกตัวลูกขึ้น ปลอบโยนให้หายตกใจ สำรวจร่างกายก็ไม่พบบาดแผล แต่ลูกยังร้องไห้จ้าไม่ยอมหยุดด้วยความตระหนก ทั้งสองคนก็พยายามหาสาเหตุ
เมื่อเจ้าตัวเล็กเริ่มหายสะอึกสะอื้นก็สังเกตเห็นว่า มือขวาของเธอห้อยเหมือนไม่มีแรงยกขึ้น ได้เวลาเร่งรุดสู่โรงพยาบาล
การเข้าเฝือกและเข้าออกโรงพยาบาลทุกสัปดาห์ ด้วยระยะเวลาเดือนกว่าๆ ทำให้จิตใจของคนเป็นพ่อแม่เข้มแข็งและก้าวผ่านสภาวะเลวร้ายทางจิตใจของการโทษตัวเอง
เหตุการณ์ในครั้งนั้น เมื่อนึกย้อนหลังกลับไป ยังสงสัยอยู่ว่าทำไมพ่อกับแม่ไม่ทะเลาะกัน ไม่โบ้ยความผิดให้แก่กัน เพียงสบมองตากันแวบเดียวก็เข้าใจ พร้อมที่จะก้าวผ่านไปด้วยกัน
ทั้งที่ก่อนจะประสบเหตุลูกแขนหัก เราทั้งสองคนต่างทะเลาะด้วยเหตุเล็กเหตุน้อยเป็นอาจิณ แต่ก็เป็นเรื่องธรรมดาของผัวเมีย
การประคบประหงมลูกในห้วงยามที่เขาแขนหักใส่เฝือกรอลุ้นให้กลับมาเป็นปกติ กลับทำให้สายใยในครอบครัวยิ่งผูกพันแน่นแฟ้นมากขึ้น
ด้วยเป้าหมายเดียวกัน ทำให้แขนขวาของลูกใช้งานได้ตามปกติ แม้หมอจะการันตีว่ากระดูกของเด็กยังอ่อน ไม่ยากที่จะประสานกันได้ดังเดิม...แต่ก็อดหวั่นใจไม่ได้
ถึงวันนี้ จากเหตุการณ์ในวันนั้นได้นำมาสอนใจตัวเองทุกครั้ง เวลาเกิดเรื่องเกิดราวในครอบครัว
“ในวันลูกแขนหัก ใจเราไม่หักตามไปด้วย” ก็ผ่านมาได้อย่างสบายและต่อเติมให้รักกันกว่าเดิม
เพราะฉะนั้น เรื่องอื่นๆ ที่จะเกิดขึ้นย่อมธรรมดา...ฟังเสียงเต้นของหัวใจจับมือก้าวข้ามผ่านเพื่อเดินหน้าไปด้วยกัน


