posttoday

พีชญา วัฒนามนตรี สิ่งใดเกิดขึ้นแล้วสิ่งนั้นดีเสมอ

31 มกราคม 2558

โดย...ตุลย์ จตุรภัทร-เฟิร์น ภคินัย ภาพ... เสกสรร โรจนเมธากุล

โดย...ตุลย์ จตุรภัทร-เฟิร์น ภคินัย ภาพ... เสกสรร โรจนเมธากุล

ก่อนอื่นผมอยากให้คุณลองคิดเป็นตัวเองดูครับ!

หากในรอบ 2 ปีที่ผ่านมา คุณโดนคนแอบถ่ายตอนคุณกำลังทำกิจธุระส่วนตัวอยู่ในห้องน้ำแล้วภาพนั้นหลุดออกมาจนคนเห็นครึ่งค่อนประเทศคุณจะรู้สึกอย่างไร คุณจะดำเนินชีวิตต่อไปอย่างไรให้ได้อย่างมีความสุข หรือถ้าคุณโดนกล่าวหาต่างๆ นานา ทั้งเป็นคนจิตใจแข็งกระด้าง ไม่ขอบคุณคนที่ช่วยเหลือคุณ หรือโดนกล่าวหาว่าไปเกาเหลากับคนนั้นคนนี้ คุณจะรับมือกับสถานการณ์เหล่านี้อย่างไร คุณจะมีจิตใจ
ที่เข้มแข็งพอจะเหยียบยืนอยู่บนโลกใบนี้ต่อไปได้ไหม

มิน-พีชญา วัฒนามนตรี นักแสดงสาว เจ้าของบทบาท พจมาน พินิจนันต์ แห่งบ้านทรายทอง ปี 2015 และพรีเซนเตอร์การ์นิเย่ จะมาบอกเล่าถึงการเหยียบยืนอยู่บนโลกใบนี้ให้ได้อย่างมีความสุข แม้เธอจะผ่านการเรียนรู้โลกใบนี้มาได้เพียงแค่ 26 ปีเท่านั้น

“ถ้าในรอบ 2 ปีที่ผ่านมา คือปีชงของมิน มันก็คงเป็นปีชงที่หนักมาก เพราะมินโดนอะไรหนักๆ มาเยอะมากในรอบ 2 ปีนี้ แต่เมื่อมินโดนอะไรมาหนักๆ มา มินก็พยายามมองว่า เมื่อมันเกิดขึ้นกับมินแล้ว มินต้องทำให้มันเป็นอะไรที่เราต้องก้าวผ่านไป สิ่งเดียวที่ช่วยมินได้ คือ มินต้องมีสติ พอเรามีสติ เราก็จะสามารถจัดการเรื่องแย่ๆ เรื่องหนักๆ หรือทุกอย่างในชีวิตของเราได้”

พีชญาบอกเล่าด้วยแววตาแห่งคนที่ยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้น และพร้อมจะเรียนรู้แล้วก้าวข้ามไป เธอบอกว่า เมื่อสิ่งร้ายๆ เกิดขึ้นกับเราแล้ว ขอแค่เรานั่งอยู่เฉยๆ แล้วให้เวลามันพาไป สุดท้ายมันก็จะกลายเป็นเรื่องเก่าไปแค่นั้นเอง

“มันจะกลายเป็นอดีตค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องดีหรือเรื่องไม่ดี เรื่องดีๆ ในปัจจุบันขอให้จดจำมันไว้ เพราะว่าเดี๋ยวมันก็จะผ่านพ้นไปส่วนเรื่องที่ไม่ดี ก็ให้คิดเสียว่า โชคดีจังเลยที่ชีวิตเคยมีเรื่องที่ไม่ดีเกิดขึ้น โชคดีจังเลยที่เรามีวันนี้ที่ดีกว่าเมื่อวาน วันนี้คือวันที่ดีกับเราเราต้องมองชีวิตในทางที่ดี แล้วก้าวเดินต่อไป คนทุกคนเกิดมาแล้วต้องตาย จะใช้ชีวิตอยู่บนโลกใบนี้อีกไม่กี่ปีไม่รู้ เราต้องรู้จักใช้ชีวิตให้คุ้มค่าที่สุด”

ในฐานะที่ผมเป็นแค่คนธรรมดาๆ ไม่ได้อยู่ในที่สว่างที่ทุกคนต้องจับตามอง เวลาเจอเรื่องกระทบใจเข้านิดหน่อย ยังรู้สึกจะเป็นจะตาย แต่กับคนที่ถูกแสงไฟสาดส่องชีวิตอยู่ตลอดเวลาอย่างผู้หญิงคนนี้ เธอรับมือกับเรื่องที่มากระทบใจได้อย่างไร เธอบอกผมว่า เมื่อเธอก้าวเข้ามาสู่วงการบันเทิง ทุกอย่างที่เกิดขึ้น เป็นเรื่องได้หมด เป็นข่าวได้หมด

“จริงไม่จริงไม่รู้ จะเป็นข่าวลือ เราก็ไม่รู้รู้เพียงแต่ว่า เราต้องอยู่กับเรื่องที่มันกลายเป็นข่าวไปในแต่ละวันให้ได้ ดาราคือคนที่ต้องเป็นข่าวจำเป็นจะต้องเป็นข่าว ถ้าเราไม่เป็นข่าว เราก็คืออะไรไม่รู้ กลายเป็นคนที่ไม่มีตัวตน มินมองว่าการที่เราตกเป็นข่าวคือเรายังมีตัวตน ข่าวดีหรือข่าวไม่ดีค่อยมาว่ากันอีกที แต่เราต้องเป็นตัวของตัวเอง ต้องแสดงจุดแข็งให้คนได้เห็นว่า มีข่าวอะไรเกิดขึ้น เมื่อเราพูดความจริงแล้ว คำพูด
คือศักดิ์สิทธิ์ จบแค่นี้ ใครจะไปพูดอะไรต่อ มินไม่สนใจ เพราะมินชัดเจนในคำพูดศักดิ์สิทธิ์ของมินมาก”

พีชญา วัฒนามนตรี สิ่งใดเกิดขึ้นแล้วสิ่งนั้นดีเสมอ

 

พีชญา เผยว่า ถ้าเป็นสมัยก่อน ตอนที่เธอเข้าวงการใหม่ๆ เวลาที่เธอเจอข่าวที่มีทั้งจริงทั้งไม่จริง เธอจะรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องที่หนักไปหมดทุกเรื่อง หนักเสียจนเคยคิดจะออกจากวงการบันเทิงไปเลย

“คงเป็นเพราะมินคิดว่า พอเรามาเจอข่าวในด้านที่เราไม่อยากเจอ ก็แบบว่าทำไมต้องเป็นแบบนี้ด้วย โลกนี้ช่างไม่ยุติธรรมกับเด็กคนนึงเลยทุกอย่างคือไม่แฟร์ เพราะว่าเราเคยได้รับการประคบประหงมจากพ่อแม่ ในบ้านของเรา แค่พี่น้องทะเลาะกัน พ่อแม่ก็เป็นเปาบุ้นจิ้นตัดสินให้แล้ว แต่พอมาเจอโลกกว้าง โลกมันไม่ใช่แบบที่เราเคยอยู่ มันเหมือนเราต้องโตขึ้น เราต้องอยู่กับทุกคนให้ได้ เพราะเราเป็นคนของสังคม บางทีทุกคนต้องการอะไรจากเรา แต่ไม่ใช่ว่าทุกจะได้อะไรที่เขาต้องการ เพราะฉะนั้นการที่เราจำเป็นต้องปฏิเสธทุกคน กลายเป็นทำให้เขาไม่พอใจ และอาจทำร้ายเราด้วยการสร้างข่าวที่ไม่จริงขึ้นมา”

พีชญา เผยว่า ทางออกที่ดีที่สุด คือ มองโลกอย่างเข้าใจดีกว่า สิ่งใดที่ทำให้คนอื่นไม่พอใจ หรือไม่เข้าใจ ก็ต้องรีบอธิบาย ถ้าเขายังไม่เข้าใจ ก็โอเค จบแค่นั้น

“แต่ถ้าอะไรที่เราทำให้ได้เราก็ทำให้ มินว่าชีวิตมันก็มีอยู่แค่นี้ อย่าไปซีเรียสกับอะไร ตอนนี้มีอะไรก็เรียนรู้กันไปมินมองว่าชีวิตเป็นเรื่องที่สนุก มีอะไรที่ต้องเจออีกเยอะ อย่ามานั่งเสียเวลากับความทุกข์หรืออะไรที่มันแบบทำให้เราเศร้าหรือเสียใจให้นานนมเลย อย่างที่มินบอก เราไม่รู้ว่าจะอยู่บนโลกใบนี้ได้อีกกี่วัน เราอาจจะโดนรถชนตายก็ได้ เอาเป็นว่า ทำวันนี้ให้ดีที่สุด คือสิ่งที่สำคัญที่สุด”

พักเรื่องหนักๆ มาที่เรื่องเบาๆ เช่น ความรักบ้างดีกว่า พีชญา เผยว่า กับหนุ่มไฮโซคนหนึ่งตามที่ตกเป็นข่าว ข่าวว่าไง เธอก็ว่าตามนั้น

“สำหรับความรัก มินยังถือว่าตัวเองเด็กมากกับเรื่องนี้ มินเพิ่งเริ่มต้น เพิ่งได้เข้าใจ เพิ่งได้เรียนรู้ในหลายๆ อย่างของความรัก แต่สิ่งหนึ่งที่มินได้เรียนรู้ คือ ถ้าความรักที่เรามีอยู่ ทำให้เราไม่มีความสุข ก็ปล่อยมันไป ถ้ามันไม่ประสบความสำเร็จ ก็ไม่เป็นไร ก็แค่กลับมาดูแลตัวเองให้ดี กับคนที่คบอยู่ในตอนนี้ ก็เรียนรู้กันไป ง่ายๆ ไม่มีอะไร ไม่ได้เร่งรัดเราต่างให้เกียรติกันและกัน ทุกวันนี้ก็ถือว่าเป็นพี่น้องกัน เพราะเขาอายุมากกว่ามินเยอะ ห่างกันประมาณ 5 ปี เขามีความเป็นผู้ใหญ่สูงมาก เรามักชอบพูดคุยกันเรื่องงานค่ะ (ยิ้ม)”

มาที่งานละครบ้าง กับละครเรื่องบ้านทรายทองที่เธอกำลังถ่ายทำอยู่ พีชญา เผยว่า กับบทบาทนี้ที่ผู้คนรู้จักกันมาเป็นอย่างดี ดูกันมาแล้วไม่รู้กี่เวอร์ชั่น รายละเอียดบางอย่างยังคงเดิม เช่น พจมานยังมีผมเปียถือชะลอมเดินเข้าบ้านทรายทอง แต่สิ่งที่เพิ่มเติม คือความแปลกใหม่ในเรื่องของการแสดง

“มินคิดว่าพจมานในเวอร์ชั่นนี้จะมีความเป็นมนุษย์ที่ผู้คนในปัจจุบันสามารถเข้าถึงได้ อย่างเวลาที่มินเล่น พจมานในแบบของมินจะมีความเป็นเด็กสมัยใหม่ ถึงเป็นเด็กเรียบร้อยแต่มีความแก่นอยู่ในตัว มีความดื้อในแบบของเด็กซึ่งมินต้องเล่นแบบไม่ก้าวร้าว เพราะคนเราทุกคนมักไม่ชอบคนที่ก้าวร้าว เอาเป็นว่า คนดูจะไม่ได้เห็นบ้านทรายทองในแบบช่อง 7 ที่ผ่านๆ มา”

นอกจากนี้ เธอยังมีความมุ่งหวังที่อยากเห็นคนรุ่นใหม่ติดตามดูบ้านทรายทองในเวอร์ชั่นของเธอ “แม้จะรู้ดีว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่ทุกคนจะถูกใจในละครเรื่องนี้ แต่จะทำยังไงให้คนดูรับได้ให้มากที่สุด นี่คือโจทย์ของมินที่ต้องทำให้ได้มินรู้ว่าละครรีเมกมักถูกเปรียบเทียบกับเวอร์ชั่นเดิมอยู่แล้วเป็นธรรมดา แต่มินก็พร้อมที่จะรับฟังความคิดเห็นของทุกๆ คนค่ะ”

ข่าวล่าสุด

ไทยพาณิชย์-FWD คว้า 3 รางวัล Adman Awards 2025 ตอกย้ำเข้าถึงลูกค้าทุก Gen ด้วย "ประกันทรัพย์พอร์ตทุกวัย"