อัชญา จุลชาต เรียนให้ดีกิจกรรมต้องเลิศ..
วันนี้มีนัดกับน้องอุ้มอิ้ม-อัชญา จุลชาต กำลังเรียนคณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ ชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ภาคภาษาอังกฤษ
วันนี้มีนัดกับน้องอุ้มอิ้ม-อัชญา จุลชาต กำลังเรียนคณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ ชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ภาคภาษาอังกฤษ
เธอเป็นสาวผอมสูงหน้าสวยคม มีดีกรีเป็นดาวคณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ เข้ารอบประกวดดาวมหาลัย เพื่อชิงตำแหน่งถือพระธรรมจักรในงานฟุตบอลประเพณีจุฬา-ธรรมศาสตร์ ช่วงต้นปีหน้า นอกจากนี้ยังเข้ารอบสุดท้ายในการสมัครเป็น TU แอมบาสซาเดอร์ เพื่อเป็นผู้เผยแพร่กิจกรรม
เรียนก็ดีกิจกรรมก็เด่น...
อย่างที่บอกแต่แรกว่า น้องอุ้มอิ้มเป็นเด็กชอบทำกิจกรรม สมัยเรียนที่ราชินีเธอก็อยู่ชมรมนาฏศิลป์ เป็นตัวแทนโรงเรียนไปประกวดรำไทยอยู่บ่อยครั้ง นอกจากนี้ยังเล่นกีฬาตีกอล์ฟตอนเรียนมัธยมต้น จนเป็นแชมป์เยาวชนกอล์ฟจูเนียร์เวิลด์ แต่ตอนนี้เล่นน้อยลงเพราะมีกิจกรรมที่มหาลัยให้ทำเยอะเลยไม่ค่อยมีเวลา
เลือกสิ่งที่ชอบ ทำสิ่งที่ใช่...
เธอจบมัธยมปลายที่โรงเรียนราชินี ตอนอยู่ชั้น ม.5 เธอได้ทุนเอเอฟเอสไปเรียนที่แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา แล้วกลับมาเรียน ม.6 จนกระทั่งสอบเข้าที่คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ เพราะมีความฝันอยากจะทำงานด้านสังคมในเชิงนโยบายที่สหประชาชาติ เธอเล่าว่าก่อนหน้านั้นเธอสอบตรงติดที่คณะศิลปกรรม เอกการแสดง ที่มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒกับที่มหาวิทยาลัยมหิดล แต่ด้วยความมุ่งมั่นว่าอยากทำงานที่ยูเอ็นจึงสละสิทธิ ทั้งสองที่เพื่อมาสอบตรงที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
อุ้มอิ้ม บอกว่า การที่ได้ไปเรียนต่างประเทศก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ดี ไม่ได้แค่ฝึกภาษาอังกฤษอย่างเดียว แต่ยังได้ฝึกการใช้ชีวิต การต้องดูแลตัวเอง การมีระเบียบวินัย การตรงต่อเวลา เพราะเวลาอยู่ที่บ้านมีพี่เลี้ยงมีคุณแม่คอยดูแลใกล้ชิด ก็อาจจะทำอะไรด้วยตัวเองน้อยกว่าที่ควรจะเป็น แต่ไปต่างประเทศนั้นต้องทำเองทุกอย่างไม่มีใครมาคอยช่วยเหลือ กลับมารู้สึกว่าเราดูโตขึ้นทั้งการกระทำและความคิด
เธอว่าแรกๆ ก็สับสนว่าเราชอบหรืออยากทำอะไรกันแน่ แต่สุดท้ายก็ต้องเลือกให้ชัดเจน เพราะถ้าไม่ชัดเจนแต่แรกเราจะไม่มีความสุขกับสิ่งที่เราทำ “คือว่างานด้านการแสดงหนูเองก็ชอบ อยากลองหาประสบการณ์ดูบ้าง แต่ไม่ได้อยากยึดเป็นอาชีพ ถ้าเป็นอาชีพอยากทำงานในเชิงนโยบายระดับประเทศมากกว่า ตั้งเป้าไว้อย่างนั้นก็เลยต้องเลือกให้ตัวเองมีความชัดเจนในทิศทางชีวิต” เธอกล่าวอย่างมุ่งมั่น
เนื่องจากอุ้มอิ้มเป็นเด็กที่ชอบทำกิจกรรม เธอก็จะพยายามลองงานอะไรใหม่ๆ ที่มีโอกาสได้ทำ เช่น เรื่องการแสดงระหว่างปิดเทอมหลังจากจบ ม.6 เธอก็เลยไปลองแสดงละครดูเพราะมีพี่ที่รู้จักแนะนำ โดยเธอได้เล่นละครเรื่องดั่งไฟใต้น้ำเป็นน้องของพระเอก ทางช่องไทยทีวี ซึ่งจะออกอากาศประมาณต้นปีนี้ เธอว่าถือเป็นประสบการณ์ที่สนุกและมีค่ามาก ถ้ามีโอกาสและจัดเวลาได้ก็คงจะไปเล่นอีกอย่างแน่นอน แต่ถึงอย่างไรเรื่องเรียนต้องมาเป็นอันดับแรก ต้องเรียงลำดับความสำคัญเอาไว้ให้ชัด
จบแล้วอยากทำงานก่อนต่อปริญญาโท...
เธอตั้งเป้าว่าจะไปเรียนต่อปริญญาโทที่ประเทศอังกฤษ ทางด้านสิ่งแวดล้อม แต่คิดว่าหลังจบปริญญาตรีจะลองทำงานดูสัก 2 ปี แล้วจึงค่อยเรียนต่อ เพื่อเป็นการหาประสบการณ์ได้เรียนรู้งานจากประสบการณ์ตรงของตัวเอง “ทุกวันนี้ก็ช่วยที่บ้านทำงานบ้างนิดๆ หน่อยๆ เพราะครอบครัวทำสปอร์ตคลับครบวงจรขนาด 80 ไร่ ที่พุทธมณฑลสาย 1 (ศูนย์กีฬาราชดำเนินตลิ่งชัน) หนูก็ไปช่วยงานตอนวันหยุดเสมอ”
ครอบครัวคือแรงหนุนที่สำคัญ...
แม้จะเป็นสาวแล้วแต่เธอยังสนิทสนมกับคุณพ่อคุณแม่มาก โดยเฉพาะคุณแม่เป็นเหมือนเพื่อนไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด มีอะไรก็คุยได้ทุกเรื่อง คุณแม่เปิดกว้างเพื่อนๆ จะไปเที่ยวที่บ้านเสมอ คุณแม่ชอบรับแขกเพื่อนลูกๆ จึงเหมือนลูกคุณแม่ด้วย ไม่มีเรื่องไหนที่คุยกับคุณแม่ไม่ได้ จะทำอะไรจะนึกถึงพ่อแม่ตลอดไม่อยากให้ท่านเสียใจหรือผิดหวังในตัวเรา ทุกวันนี้คุณแม่ยังมารับมาส่งบ่อยๆ ไม่ยอมให้ขับรถเองเธอว่า “คุณแม่เขากลัวห่างเหินค่ะ (หัวเราะ)” เธอเล่าอย่างอารมณ์ดี


