เหมือนในความต่าง ทพ.ธนิศร์-นพ.ธณัฐ จิรบันดาลสุข
ความสัมพันธ์ของพี่น้องโดยส่วนใหญ่นั้นนับว่าก็มีความผูกพันใกล้ชิดกันอยู่แล้ว แต่ถ้าเป็นพี่น้องคู่แฝดคลานตามกันมาติดๆ
ความสัมพันธ์ของพี่น้องโดยส่วนใหญ่นั้นนับว่าก็มีความผูกพันใกล้ชิดกันอยู่แล้ว แต่ถ้าเป็นพี่น้องคู่แฝดคลานตามกันมาติดๆ ภายใน 2-3 นาที จากไข่ใบเดียวกันแล้วละก็ รับรองเกือบทุกคู่สนิทกันมากที่สุด เช่นเดียวกับพี่น้องสองหมอคู่นี้ หมอโอ๊ตผู้พี่-ทพ.ธนิศร์ จิรบันดาลสุข (เสื้อแขนสั้น) เป็นทันตแพทย์ ส่วนหมอเอิร์ธผู้น้อง-นพ.ธณัฐ จิรบันดาลสุข(เสื้อแขนยาว) น้องชายเป็นอายุรแพทย์ปัจจุบันในวัย 30 ต้นๆ ทั้งสองร่วมกันเปิดศูนย์สุขภาพออกซิแคร์ (Occicare Wellness Center) ที่ จ.ชลบุรี เพื่อให้บริการครบวงจรและขณะนี้กำลังจะเปิดศูนย์ความงามเพิ่มเติมด้วย
หมอเอิร์ธเล่าถึงวัยเด็กให้ฟังว่า เขาทั้งสองเป็นเด็กเรียบง่าย เรียบร้อยเรียนดี ไม่เกเรตอนเด็กเราทั้งคู่ชอบทางด้านเครื่องยนต์กลไกชอบด้านเทคโนโลยีคิดว่าจะเลือกเรียนวิศวกร แต่มาเปลี่ยนใจตอนมัธยมปลายอาจารย์พาไปฝึกงานที่โรงพยาบาลศิริราช แล้วเกิดประทับใจในตัวคุณหมอและทีมแพทย์พยาบาลที่ทำงานหนักทุ่มเทเลยเปลี่ยนใจมาเลือกเรียนหมอทั้งคู่ แต่เขาชอบงานท้าทายหน่อยเลยเลือกแพทย์อายุรกรรมฉุกเฉิน การเติบโตมากับคนอีกคนหนึ่งที่มีความเหมือนกันเกือบทุกอย่าง แต่ก็ยังคงมีบางอย่างที่แตกต่างกัน ทำให้เราทั้งคู่ได้เรียนรู้ว่า แม้บางสิ่งจะเหมือนกันมากแค่ไหน แต่ก็จำเป็นต้องมีมาตรฐานและองค์ประกอบต่างๆ ที่เหมาะสมจึงจะสำเร็จและดีได้
“เมื่อพวกเราจบออกมาก็ไม่มีเอิร์ธกับโอ๊ตคนเดิมอีกต่อไป กลายเป็นนายแพทย์และทันตแพทย์ที่หน้าคล้ายๆ กันสองคน ซึ่งสองคนนี้มีความรู้สึกที่เหมือนกันว่า อาชีพแพทย์เป็นอาชีพที่ต้องมีความรับผิดชอบต่อผู้อื่นสูงมากเราปฏิบัติหน้าที่ในฐานะแพทย์อย่างดีที่สุด โดยยึดถือพระดำรัสของสมเด็จพระบิดา (สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก) ที่พระราชทานแก่นักศึกษาแพทย์ว่ากิจเพื่อผู้อื่นเป็นกิจที่หนึ่ง กิจเพื่อตนเองเป็นกิจที่สอง แล้วลาภยศสรรเสริญจะตกแก่ตัวท่านเอง เป็นหลักในการทำงาน และใช้ยึดมั่นในใจเพื่อนำทางชีวิตของเราสองคนนับแต่นั้นมา”
หมอโอ๊ตบอกน้อง...ช้าๆ ลงบ้าง
“เราเป็นแฝดจากไข่ใบเดียวกัน บางคนแฝดแต่จากไข่คนละใบ ดังนั้นเราจึงสนิทแนบแน่นกันเป็นพิเศษ ที่บ้านจะพยายามแยกให้เราเรียนกันคนละโรงเรียนเพราะกลัวว่าเราจะคบกันเองไม่ยอมคบคนอื่น อยากให้มีสังคมกับคนอื่นบ้าง ถึงอย่างไรเราก็แทบจะไม่เคยแยกจากกันเลย พอเรียนจบได้ 2-3 ปี ก็กลับมาทำงานด้วยกัน น้องเป็นคนเครียดทำงานหนัก เขาทุ่มเทมาก ก็เป็นห่วงอยากให้เขาพักบ้าง ผ่อนคลายบ้าง ที่สำคัญเขาขับรถเร็ว อยากให้เขาหาคนขับรถให้ดีกว่า อย่าขับเองเลย เป็นห่วงเขาเรื่องนี้มาก บางทีอาจจะใจร้อนในบางครั้งเขาคิดเร็วทำเร็ว”
เขาเล่าย้อนอดีตในวัยเด็กให้ฟังว่า เขามีพี่น้องทั้งหมด 4 คน คือมีพี่สาว พี่ชายและสุดท้ายคือเขาซึ่งเป็นคู่แฝด ด้วยความที่เป็นลูกคู่สุดท้องในลำดับที่ 3 และ 4 พ่อแม่ซึ่งขณะนั้นเพิ่งเริ่มทำธุรกิจ จึงไม่สามารถเลี้ยงลูกทั้ง 4 คน ได้พร้อมๆ กันจึงต้องแยกน้องแฝดคู่สุดท้องโดยเอาคนหนึ่งไปฝากเลี้ยงไว้ที่บ้านคุณตาคุณยายอีกคนไปฝากเลี้ยงไว้ที่บ้านคุณปู่คุณย่าแล้ว พี่สาวกับพี่ชายอยู่กับคุณพ่อคุณแม่ แต่ปรากฏว่าเด็กแฝดทั้งสองงอแงเลี้ยงยากไม่สบาย ไม่ยอมกินนม เป็นอย่างนี้อยู่หลายเดือน จนในที่สุดต้องเอามาเลี้ยงคู่กันปรากฏว่าไม่มีปัญหางอแง ร้องไห้ เลี้ยงยากไม่ยอมกินนมอีกเลย ที่บ้านจึงคิดว่าเป็นเพราะไป
จับแยกกัน จากนั้นทั้งสองพี่น้องแฝดก็ไม่เคยแยกกันอีก เรียนโรงเรียนเดียวกันตลอด ตั้งแต่เด็กจนจบชั้นมัธยมปลาย จึงสนิทกันมาก
“มาแยกกันครั้งแรกก็ตอนเรียนมหาวิทยาลัย เพราะผมสอบเข้าทันตแพทย์ได้ที่มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร ส่วนน้องไปสอบแพทย์ได้ที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น นี่เป็นครั้งแรกที่เราแยกกันอย่างเป็นทางการ ผูกพันเป็นห่วงเขาตลอดเขาเป็นคนทำอะไรเร็ว แล้วเป็นคนชอบความท้าทาย ลุยๆ จะห่วงเขาเรื่องนี้มาก อยากให้เขาช้าๆ ลง พักผ่อนบ้าง เขาทำงานหนักไม่ค่อยพักผ่อน นอนน้อย พี่เป็นห่วง”
หมอเอิร์ธฝากถึงพี่...รักษาสุขภาพด้วยนะ
“ว่าแต่ผมเครียด พี่เขาก็เครียดเหมือนกันนะครับ เขาก็เป็นคนเนี้ยบละเอียดกว่าผมมาก เขาเป็นคนคิดเยอะ จะว่าไปเราก็เป็นคนเครียดเหมือนกัน แต่เครียดไปคนละแบบห่วงเขาเรื่องอยากให้เขาดูแลสุขภาพ เขาเป็นโรคกล้ามเนื้อข้อ เพราะทำงานเยอะ เป็นโรคออฟฟิศซินโดรม แล้วเขาชอบทำงานดึกๆ นอนน้อย แต่มีอะไรเราก็จะเตือนกันเสมอได้ทุกเรื่อง เพราะเราสนิทกันมากกว่าพี่สาวและพี่ชาย
“กว่าจะถึงวันนี้สำหรับเราสองคนไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องฝ่าฟันอุปสรรคมากมายจนบางครั้งอยากยอมแพ้ แต่ก็ผ่านมันมาได้ทุกครั้ง ซึ่งต้องขอบคุณคู่แฝดของเรา ที่คอยชี้ให้เห็นมุมมองที่เราทั้งสองเชื่อว่าไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ การจะก้าวต่อไปได้นั้นต้องใช้ความผิดพลาดมาเป็นขั้นบันได จนเราเก่งขึ้น รู้จริงขึ้น ตั้งใจทำปัจจุบันให้ดีที่สุดตอนนี้ทุกอย่างเข้ารูปเข้ารอยขึ้น ก็อยากให้เขาพักบ้างอะไรบ้าง หันมาใส่ใจสุขภาพกันให้มากขึ้น ตอนนี้ว่าจะชวนกันไปออกกำลังกายให้มากขึ้น เราทำงานกันหนักไม่มีเวลาออกกำลังกาย ห่วงเขาเรื่องสุขภาพครับ เป็นอะไรเขาก็ไม่ค่อยบอกไม่ค่อยพูด ตอนนี้อยากให้เขาพักๆ ลดงานลงบ้างแล้วจัดเวลาไปออกกำลังกายให้มากขึ้น เขาคือส่วนหนึ่งในชีวิตของผม เขาสุขผมสุข เขาทุกข์ผมก็ทุกข์ด้วย”


