พระพุทธเมตตาประชาไทย
ผมเชื่อว่าคนไทยจำนวนไม่น้อยคงรู้จักพระพุทธรูปองค์นี้ที่ชื่อยาวมาก “พระพุทธเมตตาประชาไทยไตรโลกนาถคันธารราฐอนุสรณ์” เป็นพระพุทธรูปสำริดปางขอฝนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ตั้งอยู่ ณ วัดทิพย์สุคนธาราม ต.ดอนแสลบ อ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี ซึ่งการก่อสร้างใกล้จะเสร็จสมบูรณ์ในปลายปีนี้
ผมเชื่อว่าคนไทยจำนวนไม่น้อยคงรู้จักพระพุทธรูปองค์นี้ที่ชื่อยาวมาก “พระพุทธเมตตาประชาไทยไตรโลกนาถคันธารราฐอนุสรณ์” เป็นพระพุทธรูปสำริดปางขอฝนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ตั้งอยู่ ณ วัดทิพย์สุคนธาราม ต.ดอนแสลบ อ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี ซึ่งการก่อสร้างใกล้จะเสร็จสมบูรณ์ในปลายปีนี้
พระพุทธเมตตาประชาไทยฯ องค์นี้ สมเด็จพระมหาธีราจารย์ (นิยม ฐานิสฺสโร ป.ธ.9) อดีตเจ้าอาวาสวัดชนะสงคราม อดีตกรรมการมหาเถรสมาคม อดีตเจ้าคณะใหญ่หนกลาง เป็นผู้ดำริให้มีการสร้างขึ้นและเป็นผู้ตั้งถวายนามพระพุทธรูปเองด้วย
จุดประสงค์ของท่าน เพื่อเป็นศูนย์รวมจิตใจและสักการบูชาของพุทธศาสนิกชนอีกแห่งหนึ่ง และสร้างเป็นอนุสรณ์แด่พระพุทธรูปแห่งบามิยัน ประเทศอัฟกานิสถาน ที่ถูกกลุ่มตาลีบันระเบิดทำลายเมื่อปี 2544 โดยออกแบบสร้างขึ้นโดยได้รับอิทธิพลจากรูปศิลปะคันธารราฐของพระพุทธรูปศิลาจําหลักนูนสูงบนเพิงผาที่ จังหวัดบามิยัน ประเทศอัฟกานิสถาน
พุทธลักษณะ เป็นพระพุทธรูปยืนตรง (สมภังคะ) ครองจีวรห่มคลุมพระหัตถ์แสดงปางขอฝน ด้วยการยกพระหัตถ์ขวาขึ้นหันฝ่าพระหัตถ์ออกในระดับพระอุระ (อก) เป็นกิริยากวักเรียกฝน
พระหัตถ์ซ้ายยกหงายขึ้นในระดับพระโสณี (สะโพก) เป็นกิริยารองรับน้ำฝน เป็นศิลปะไทยสมัยรัตนโกสินทร์ เรียกว่า พระพุทธรูปปางคันธารราฐ หล่อด้วยโลหะสําริด สูง 32 เมตร ตั้งอยู่บนลานประทักษิณ วัดทิพย์สุคนธาราม
การสร้างพระพุทธรูปองค์นี้สืบเนื่องมาจากเมื่อปี พ.ศ. 2547 “คุณฉันทิพย์ กลิ่นโสภณ” ได้ถวายที่ดินบริเวณ ต.ดอนแสลบ อ.ห้วงกระเจา จ.กาญจนบุรี เนื้อที่ราว 320 ไร่ แด่สมเด็จพระมหาธีราจารย์เพื่อสร้างวัด
ต่อมาเมื่อสร้างวัดเสร็จแล้วท่านเห็นว่าประชาชนที่อยู่อาศัยโดยรอบบริเวณพื้นที่ดังกล่าวส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม และจากเท่าที่ท่านได้ฟังมาฝนไม่ตกหลายปี การขนส่งบรรทุกน้ำมาใช้ก็เป็นเรื่องยากและใช้เงินมาก และเมื่อท่านได้ฟังมาว่าเนื้อที่ตรงนี้ดีแต่กักเก็บน้ำไม่อยู่ก็คิดว่าหากสร้างพระพุทธรูปสักองค์ก็ต้องสร้างเป็นปางขอฝนหรือคันธารราฐ บางทีอาจช่วยให้ฝนฟ้าตกได้
และท่านได้ใช้เวลาหลายปีในการบอกอนุโมทนากับผู้ใจบุญ และได้ลงมือปั้นหุ่นจําลององค์พระต้นแบบด้วยท่านเอง รวมทั้งเดินทางไปดูการเตรียมพื้นที่ก่อสร้างอย่างสม่ำเสมอแม้ในช่วงที่อาพาธอยู่เนื่องจากมีปณิธานอันแน่วแน่ว่า พระพุทธเมตตาประชาไทยฯ คงจะสร้างความสุขให้ประชาชนแถวนั้นให้มีฝนตกต้องตามฤดูกาล และหวังว่าพระพุทธรูปองค์นี้จะประทานความสุขแก่ชาวกาญจนบุรี คนไทย และชาวโลกในภายหน้า
ในปี 2553 ช่วงวันวิสาขบูชา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จฯ ไปในพิธีเจริญพระพุทธมนต์และทรงสดับพระธรรมเทศนา ณ วัดชนะสงคราม สมเด็จพระมหาธีราจารย์ได้เล่าถวายถึงเรื่องความตั้งใจที่จะสร้างพระพุทธรูปดังกล่าว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ จึงทรงรับเป็นพระราชธุระที่จะทรงช่วยให้สามารถดําเนินการได้อย่างเป็นรูปธรรม
ต่อมาวันที่ 12 พ.ค. 2554 สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ มีพระมหากรุณาธิคุณรับโครงการฯ ไว้ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา เพื่อเป็นการรําลึกถึงสมเด็จพระมหาธีราจารย์ ผู้ริเริ่มแนวคิด รวมทั้งจะได้มีศาสนสถานที่สําคัญเป็นศูนย์รวมจิตใจและความเคารพสักการะของพุทธศาสนิกชนชาวไทยและยังเกิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมแห่งใหม่อีกด้วย
ในเดือน ก.ค. 2557 ที่ผ่านมา ได้มีการประกอบพิธีบรรจุพระบรมสารีริกธาตุและอัญเชิญชิ้นส่วนสําคัญขององค์พระพุทธเมตตาประชาไทยฯ คือ พระอังคุฐ (นิ้วหัวแม่มือ) ขึ้นประดิษฐานบนองค์พระ
โครงการจัดสร้างพระพุทธเมตตาประชาไทยฯในพระบรมราชินูปถัมภ์ สํานักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ได้ร่วมจัดสร้างเป็นไปตามดําริของสมเด็จพระมหาธีราจารย์ อดีตเจ้าอาวาสวัดชนะสงคราม โดยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ มีพระมหากรุณาธิคุณรับโครงการฯ ไว้ในพระบรมราชินูปถัมภ์
คาดว่าโครงการจะแล้วเสร็จสมบูรณ์ในเดือน ธ.ค. 2557 อดใจรออีกนิดประชาชนชาวไทยและพุทธศาสนิกชนทั้งหลายก็จะได้กราบสักการบูชาเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตและครอบครัวต่อไป


