posttoday

บูมกันจริง ธุรกิจครีมดารา

06 พฤศจิกายน 2557

ปกติก็เป็นคนสวยอยู่แล้ว สวยไม่แพ้ใครในปฐพี (555) ดาราที่ว่าแน่ๆ "แจนยูอารี" ก็เคยปะทะความสวยมาหมดละ แต่ว่าความขาวความใสเล่าของเราพ่ายราบคาบ เคยนึกสงสัยเหมือนกัน ทำไมคนบันเทิงถึงหน้าขาวใสกันจัง หรือพวกเธอและพวกเขา (หมายถึงฝ่ายชายน่ะนะ) มีเคล็ดลับความสวย บางคนยืดอก ก็ครีมหน้าเด้งของฉันนี่ล่ะ ทำเอง ใช้เอง ดีก็บอกต่อ ปากต่อปาก จนกลายเป็นธุรกิจทำเงิน โดยไม่ต้องพึ่งคุณศัล (ยกรรม) ให้โดนครหา

ปกติก็เป็นคนสวยอยู่แล้ว สวยไม่แพ้ใครในปฐพี (555) ดาราที่ว่าแน่ๆ "แจนยูอารี" ก็เคยปะทะความสวยมาหมดละ แต่ว่าความขาวความใสเล่าของเราพ่ายราบคาบ เคยนึกสงสัยเหมือนกัน ทำไมคนบันเทิงถึงหน้าขาวใสกันจัง หรือพวกเธอและพวกเขา (หมายถึงฝ่ายชายน่ะนะ) มีเคล็ดลับความสวย บางคนยืดอก ก็ครีมหน้าเด้งของฉันนี่ล่ะ ทำเอง ใช้เอง ดีก็บอกต่อ ปากต่อปาก จนกลายเป็นธุรกิจทำเงิน โดยไม่ต้องพึ่งคุณศัล (ยกรรม) ให้โดนครหา

ธุรกิจครีมดาราไม่ใช่เพิ่งมาบูม จริงๆ ก็หลายปีอยู่ที่ทำให้คนรู้จักว่าดาราหันมาทำครีมขาย เรียกว่ายิ่งทำก็ยิ่งบูม หันไปทางไหนก็เห็นดารางัดครีมตัวเองออกมาขาย ผ่านเฟซบุ๊ก อินสตาแกรม ออกสื่ออย่างเป็นล่ำเป็นสัน นำร่องไปก่อนก็รวยก่อน ยั่วยวนให้คนอื่นทำตาม เท่าที่ "แจนยูอารี" รู้มา มีทั้งทำจริงจังกับทำเป็นจ๊อบพิเศษ ทำเองขายเองลงทุนเองมีไม่มาก ทำเองขายเองแต่ไม่ได้ลงทุนเองก็มีไม่น้อย ประเภทเป็นแค่พรีเซ็นเตอร์ แล้วออกสื่อว่าทำเองทุกสิ่งอย่าง แบบนี้ค่อนข้างแยะ

ไม่ว่าจะอะไร ยังไง ครีมดาราก็นับว่าเป็นหนึ่งธุรกิจน่าจับตา "แจนยูอารี" ฝันกลางวันว่า อยากทำครีมขายเหมือนดาราบ้าง อยากมีแบรนด์ตัวเอง อยากเป็นแม่ค้าคนสวย อยากรวยๆๆๆๆ นั่งนับเงินในกระเป๋า ปรากฏแห้งเหี่ยว คงต้องร้องเพลงรอต่อไป ระหว่างรอก็ขอบุกไปขอคำแนะนำจากเหล่ากูรูครีมดารา (ดีกว่า) เผื่อว่าโอกาสมา เงินทุนมี จะได้พร้อมลุย

"ออย-อากรศรี ตัณมานะศิริ" อดีตพิธีกรรายการดาวกระจาย ตอนนี้ผันตัวมาจับงานพิธีกรอีเวนต์ ควบคู่งานดีเจคลื่นเอฟเอ็มวัน 103.5 ออยยืนยันครีมที่เธอทำไม่ได้ตั้งใจทำขาย จุด เริ่มต้นมาจากเธอกำลังมองหาครีมที่เหมาะกับสภาพผิว เพราะเธอเป็นคนแพ้ง่าย ใช้อะไรก็แพ้ ต่อให้ครีมชนิดนั้นระดับเอลิสต์ก็ยังแพ้ อยู่ดี ทางเดียวที่เธอคิดได้ จึงปิ๊งว่าต้องทำครีมใช้เอง

สูตรครีมเป็นของเธอกับเพื่อนเภสัชฯ ร่วมกันคิดว่าควรมีอะไรเป็นส่วนผสมและเหมาะกับเจ้าของสูตร คิดสูตรได้ก็ต้องหาโรงงานผลิต โชคดีทั้งคู่รู้จักโรงงานที่ได้มาตรฐาน ทั้งยังเชื่อมั่นว่าจะทำครีมตามสูตรได้ จึงตกลงใจทำครีมเอาไว้ใช้ จากครีมทาตัวและทาหน้า สู่โฟมล้างหน้ากับครีมรอบดวงตา เจ้าของครีมเล่าอย่างภูมิใจว่า เป็น 2 ปีที่มีความสุขกับการมีครีมเป็นของตัวเอง ใช้ได้ครีมปลอดภัยและสบายใจต่อสภาพผิว

"ส่วนตัวออยเป็นคนที่มีกระ ผิวดำง่าย ถุงใต้ตาห้อย น้ำเหลืองไม่ดี เจออะไรหน่อยก็แพ้ การหาผลิตภัณฑ์แบบนี้ให้ครบถ้วนมันก็ยากนะ สุดท้ายก็ตัดสินใจว่าอยากจะทำครีมใช้เอง ก็คุยกับเพื่อนเภสัชฯ ว่ามีความเป็นไปได้ขนาดไหนที่จะใช้ส่วนผสมต่างๆ ในแบบที่เราต้องการ แล้วมันก็มาตอบโจทย์หลังจากที่ได้ลองทำครีมค่ะ แทนที่จะต้องไปเสียเงินซื้อเครื่องสำอางที่เคาน์เตอร์แบรนด์ ออยก็คิดว่าไหนๆ จะเสียเงินละ ก็เอาเงินมาลงทุนทำครีมที่เหมาะกับสภาพผิวเราดีกว่า ตอนแรกไม่คิดติดแบรนด์ด้วย แพ็กเกจ ก็แกลลอนนี่ละค่ะ มีความสุขมากกกกค่ะ ทาได้อย่างเต็มที่"

จากตัวเองเป็นผู้ใช้ ความเปลี่ยนแปลงเริ่มปรากฏ เพื่อนๆ ในวงการเจอก็สนใจ ทักกันไปต่างๆ นานา ทำอะไรมา ทำไมขาวขึ้น ใสขึ้น ออยไม่ปิดบัง แบ่งปันความสวยใสให้คนที่อยากทดลอง นั่นจึงเป็นที่มาของการขายครีม ปากต่อปากส่งแรงกระเพื่อมให้ครีมยี่ห้อ ครีม แอนด์ โค (Cream & Co) ได้รับกระแสตอบรับที่ดี

"สมัยก่อนยังไม่มีไอจี เฟซบุ๊ก หรือมีแต่ไม่ค่อยได้เล่นกันขนาดนี้ ช่องทางขายตอนนั้นก็ต้องปากต่อปาก ไม่ก็โทรศัทพ์เลยค่ะ ออยเป็นคนรับสายเอง ขายเอง แนะนำลูกค้าเอง ออยคิดว่าวันนี้ออยประสบความสำเร็จระดับหนึ่งแล้วนะ คือออยถูกใจที่มีครีมที่เหมาะกับสภาพผิว ซึ่งออยไม่ต้องไปเสียเงินซื้อของแพงๆ มีลูกค้าใช้ครีมของออย และเขาก็สวยใสขึ้นจริงๆ สุดท้ายออยไม่ติดลบ ไม่เป็นหนี้ แน่นอน ลึกๆ ออยก็อยากให้ครีมของออยเป็นทอล์กออฟเดอะทาวน์ แต่ด้วยออยไม่ได้ลงทุนเยอะ ก็อยากให้มันโตช้าๆ แบบค่อยเป็นค่อยไปดีกว่าโตแบบก้าวใหญ่แล้วล้มลงมาค่ะ"

ครีมของออยกำลังไปได้สวย แม้จะมีคู่แข่งมาแย่งชิงเค้ก ทว่าเธอก็มั่นใจในครีมที่มีจุดเด่นและจุดแข็ง นอกเหนือจากนั้น เธอยังเชื่อว่าถ้าคนทำธุรกิจจริงใจและเต็มใจที่จะมอบสิ่งดีๆ ต่อลูกค้า ย่อมจะได้ฟีดแบ็กดีๆ กลับคืน

"ไม่ว่าจะทำธุรกิจอะไร ความจริงใจมาอันดับหนึ่ง ถ้าออยทำครีมแต่ออยไม่เคยใช้ครีมของตัวเอง มันก็ไม่มีประโยชน์ที่บอกว่าครีมของตัวเองเป็นยังไง ดียังไง ตอบคำถามลูกค้าไม่ได้หรอกค่ะ ออยว่าความจริงใจมันยั่งยืนที่สุดแล้วนะ ถ้ามัวแต่คิดจะขายอย่างเดียว โดยไม่สนใจอะไรเลย เอากำไรอย่างเดียว พอลูกค้าใช้ปรากฏว่าหน้าแหก หน้าเยิน หน้าบวม แถมโดนคำสาปแช่งกลับมาอีก บาปกรรมนะคะ ฉะนั้นคนที่คิดจะทำครีมขายก็ต้องถามตัวเองก่อนว่า ตัวเองมีความจริงใจกับมันแค่ไหน"

เจ้าพ่อหน้าเด้ง "โก้-ธีรศักดิ์ พันธุจริยา" เป็นดาราคนแรกๆ ที่ทำครีมขาย โครี ซีรั่ม (Kory Serum) ของเขาขายดิบขายดีจนเกิดกระแสฟีเวอร์ มีคนอื่นๆ อยากทำขายตาม เขาบอกยุคที่เขาทำครีมยังมีคู่แข่งน้อย โอกาสเติบโตธุรกิจ จึงไปได้สวย ไม่แข่งขันเอาเป็นเอาตายเช่นปัจจุบัน

"แฟนคลับของโก้นี่แหละครับที่ช่วยกันซื้อ ฟีดแบ็กดีมาก ตอนแรกก็ไม่คิดว่าจะได้รับการตอบรับดีขนาดนี้ ความคิดโก้ตอนนั้นคืออยากหาธุรกิจเสริมนอกเหนือจากอาชีพนักแสดง แต่ปรากฏว่ามันทำเงินจนโก้ต้องทุ่มเทกับมัน จริงๆ ส่วนเงินทุนโก้ก็ค่อยๆ เพิ่ม ไม่ได้แบบทุ่มหมดตัว ซึ่งผู้ใหญ่ที่รู้จักกันก็ยังเตือนเลยว่า ทำไมโก้ไม่เอาดีกับวงการบันเทิง จะไปเสียเวลา และเอาตัวเข้าแลกกับธุรกิจทำไม เพราะถ้าเจ็บตัวหมดตัวโก้จะไม่สามารถกู้ชื่อเสียงกลับมาได้นะ"

16 ปีผ่านไป โก้กับครีมหน้าเด้งของเขาได้พิสูจน์แล้วว่ามันยังไปได้สวย ส่วนหนึ่งเพราะเขาคือคนที่ใช้เอง ไปไหนมาไหนหน้าเด้งขาวของโก้กลายเป็นสัญลักษณ์เด่น พรีเซนเตอร์แทบไม่ต้องจ้างให้เปลืองเงิน ขณะที่ช่องทางการขายก็มีมากขึ้น จากเดินขายตามกองละคร ก็มีโซเชียลมีเดียมาเป็นทางเลือกที่รวดเร็วทันใจ

"ถ้าโปรดักต์ของโก้ไม่ดี โก้คิดว่าโก้ก็คงตายไปกับโปรดักต์แล้วละครับ เพราะอย่าลืมว่าโปรดักต์มันมีเยอะ แต่โก้ก็เลือกจะอยู่ตรงกลางระหว่างตลาดบนกับตลาดล่าง โดยที่ลูกค้าสามารถสัมผัสได้ในราคาย่อมเยา โก้ว่าคีย์ความสำเร็จของครีมหน้าเด้งของโก้คือสองคำ คุณภาพและคุณธรรม คนทำธุรกิจสำคัญนะครับสองคำนี้ ซื่อสัตย์และจริงใจต่อลูกค้า ลูกค้าก็จะภักดีกับเรา"

วันนี้แม้โก้กับครีมหน้าเด้งจะก้าวสู่ประตูความสำเร็จ ทว่ายุคการแข่งขันที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น เขาจำเป็นอย่างยิ่งต้องปรับตัว เพื่อความอยู่รอดและให้ครีมของเขาเดินคู่ขนานไปกับยุคสมัย เขายอมรับว่าที่ผ่านมาอาจมีอุปสรรคขวากหนาม กว่าจะมายืนหยัดปักธงอย่างสง่างามได้ การเมือง เศรษฐกิจ สังคม ล้วนเป็นองค์ประกอบสำคัญที่มีผลต่อการเติบโตของครีมหน้าเด้งทั้งสิ้น

"สำหรับโก้จะคิดวันต่อวัน โก้ไม่ได้มอง 3 เดือน 6 เดือน หรือเป็นปีๆ เพราะยุคสมัยเปลี่ยน คนทำธุรกิจก็ต้องปรับตัวและปรับเปลี่ยน ต้องอย่าย่ำอยู่กับที่ อย่านิ่งเพราะคิดว่าเราเจ๋ง แต่ต้องลุกขึ้นมาแข่งกับตัวเอง ไม่ใช่แข่งกับคนอื่น แล้วก็ต้องแข่งกับนวัตกรรมใหม่ให้ได้ โก้เชื่อว่าไม่ใช่ทุกคนที่ทำครีมหน้าเด้งแล้วจะประสบความสำเร็จ บางรายก็มาไวไปไว อยู่แป๊บๆ ก็ไป นั่นก็เพราะพวกเขาคิดว่าทำครีมมันเป็นแฟชั่น ซึ่งโก้ไม่อยากให้คิดแบบนั้นเลยนะ ตราบใดคุณไม่มีความรัก ความชอบ ความจริงใจ ความซื่อสัตย์ กับสิ่งที่คุณกำลังทำอยู่ มันก็ยากครับ"

แฟนคลับของโก้นี่แหละครับที่ช่วยกันซื้อ ฟีดแบ็กดีมาก ตอนแรกก็ไม่คิดว่าจะได้รับการตอบรับดีขนาดนี้ ความคิดโก้ตอนนั้นคืออยากหาธุรกิจเสริมนอกเหนือจากอาชีพนักแสดง แต่ปรากฏว่ามันทำเงินจนโก้ต้องทุ่มเทกับมันจริงๆ ส่วนเงินทุนโก้ก็ค่อยๆ เพิ่ม ไม่ได้แบบทุ่มหมดตัว

ขาวใสอย่างปลอดภัย

ลำพังดารามาบอกมาย้ำมาพรีเซนต์ครีมของตัวเองดีอย่างนั้นดีอย่างนี้คงยังไม่พอ อยากได้ผิวขาวใสกระจ่างเด้งก็ต้องใส่ใจสักนิดโปรดท่องไว้เลยว่า

1.อย่าเพิ่งเชื่อคำโฆษณาเกินจริง จนกว่าคุณจะได้ทดลอง เชื่อง่ายๆ ก็อาจหน้าแหกหน้าเยินได้ง่ายๆ หากว่าเกิดแพ้ขึ้นมา

2.ตรวจสอบที่มาที่ไปของผู้ผลิต ใครเป็นใคร ผลิตที่ไหน ตรวจสอบให้แม่น จากนั้นก็ลงลึกถึงส่วนผสมที่ใส่ในครีม อะไรไม่รู้ ก็ให้ถามผู้รู้

3.ฉลากยี่ห้อ บรรจุภัณฑ์ ชัดเจนมั้ย ที่สำคัญ มีตราประทับ อย. (ของแท้) แปะหราอยู่หรือไม่ ไม่มีก็อย่าเสี่ยง เพราะไม่คุ้มกับของขวัญที่แฝงมาพร้อมความร้ายกาจ

ข่าวล่าสุด

ถ่ายทอดสด ซันเดอร์แลนด์ พบ นิวคาสเซิ่ล พรีเมียร์ลีก วันนี้ 14 ธ.ค.68