ตลาดหุ้นสหรัฐปรับขึ้น จากแรงหนุนหุ้นเทคโนโลยีนำโดยไมครอน

หุ้นขนาดใหญ่ (เมกะแคป) ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องจากวันพฤหัสบดี หลังจากไมครอน เทคโนโลยี ผู้ผลิตชิป รายงานแนวโน้มผลประกอบการที่แข็งแกร่ง ซึ่งช่วยจุดกระแสความเชื่อมั่นต่อหุ้นที่เกี่ยวข้องกับปัญญาประดิษฐ์ (AI) อีกครั้ง ภายหลังเผชิญแรงกดดันจากการประเมินมูลค่าสูงและความกังวลด้านเงินทุนในช่วงก่อนหน้า

 

หุ้นไมครอนพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เพิ่มขึ้น 7.4% ขณะที่ Nvidia ปรับขึ้น 3.3% หลังรัฐบาลสหรัฐฯ เปิดการทบทวนชิป AI ที่มีสมรรถนะสูงเป็นอันดับสองของบริษัท การปรับตัวขึ้นดังกล่าวหนุนดัชนี Philadelphia SE Semiconductor เพิ่มขึ้น 3.1%

 

ขณะเดียวกัน หุ้นออราเคิลพุ่งขึ้น 7.6% หลังไบต์แดนซ์ บริษัทแม่สัญชาติจีนของแอปวิดีโอสั้น TikTok ลงนามข้อตกลงเกี่ยวกับการดำเนินงานในสหรัฐฯ กับกลุ่มนักลงทุน ซึ่งมีบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านคลาวด์คอมพิวติ้งรวมอยู่ด้วย

 

ทั้งนี้ เดือนธันวาคมถือเป็นช่วงเวลาที่ตลาดหุ้นมีผลการดำเนินงานแข็งแกร่งตามสถิติ โดยตั้งแต่ปี 1950 ปรากฏการณ์ที่เรียกว่า “ซานตาคลอสแรลลี่” สะท้อนผ่านดัชนี S&P 500 ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 1.3% ในช่วงห้าวันทำการสุดท้ายของปี และสองวันทำการแรกของเดือนมกราคม ตามข้อมูลจาก Stock Trader’s Almanac

 

ดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 273.15 จุด หรือ 0.57% ปิดที่ 48,226.53 จุด 

 

ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 60.21 จุด หรือ 0.89% ปิดที่ 6,835.14 จุด 

 

และดัชนีแนสแด็กเพิ่มขึ้น 267.76 จุด หรือ 1.17% ปิดที่ 23,274.60 จุด

 

ด้านราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นเล็กน้อย จากความเป็นไปได้ของการหยุดชะงักด้านอุปทาน หลังสหรัฐฯ อาจใช้มาตรการปิดล้อมเรือบรรทุกน้ำมันของเวเนซุเอลา ขณะที่ตลาดยังรอความคืบหน้าเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของข้อตกลงสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครน 

 

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์เพิ่มขึ้น 65 เซนต์ หรือ 1.1% ปิดที่ 60.47 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล 

 

ขณะที่น้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสอินเตอร์มีเดียต (WTI) เพิ่มขึ้น 51 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 56.66 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

 

ส่วนราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นตลอดสัปดาห์ จากความคาดหวังที่สูงขึ้นว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 

 

ราคาทองสปอตเพิ่มขึ้น 0.4% อยู่ที่ 4,347.07 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และเพิ่มขึ้นรวม 1.1% ตลอดสัปดาห์ 

 

ขณะที่สัญญาทองคำล่วงหน้าของสหรัฐฯ ปิดเพิ่มขึ้น 0.5% ที่ 4,387.3 ดอลลาร์ต่อออนซ์