เราคือใคร Who am I?
มีหลากหลายวิธีในการทำความรู้จักตนเอง วิธีง่ายๆ คือสังเกตตัวเองผ่านเรื่องที่เราคิด
มีหลากหลายวิธีในการทำความรู้จักตนเอง วิธีง่ายๆ คือสังเกตตัวเองผ่านเรื่องที่เราคิด สิ่งที่เราพูดและเรื่องราวสารพัดที่เราเล่าให้คนอื่นฟัง ทุกชีวิตผ่านพบเรื่องราวที่เราพูดและคิดในหัวตัวเองว่าเรื่องนี้ดีจังเลย หรือเรื่องนี้เจ็บปวดทุกข์ทรมานที่สุด ฯลฯ
นอกจากเล่าให้คนอื่นฟังแล้ว เรายังพูดและคิดถึงเรื่องราว (Story) ต่างๆ ในหัวเราเองซ้ำๆ และซ้ำๆ หลากหลายเหตุผลที่บงการเราอยู่เบื้องหลังการบอกเล่าของเราในแต่ละครั้ง บ้างเล่าเพื่อระบายอารมณ์ บ้างเล่าเพื่อรับการบำบัด บ้างเพื่อแสวงหาคนสนับสนุนว่าเราคือเหยื่อ ผู้ถูกรังแกคือ คนที่ทำถูกต้อง บ้างเพื่อเป็นบทเรียนให้ผู้อื่น สะสมพลังดีๆ และเหตุอื่นๆ อีกมากมาย ฯลฯ
ประเด็นคือ หลายเรื่องที่เราคิดและพูดออกไป โดยเฉพาะเรื่องคิดในหัวตัวเองซ้ำๆ และซ้ำๆ มักเป็นเรื่องที่มีพลังลบ หรือเรื่องราวที่เราชอบจิกกัดตัวเอง ประมาณว่าเราถูกทำร้ายจิตใจมา 1-2 ครั้ง แต่หลังจากนั้นเราเองที่กระซวกตัวเองต่ออีกหลายหมัด ที่สำคัญเราเองที่กระซวกตัวเองต่อด้วยความคิดลบๆ ซ้ำๆ และซ้ำๆ ต่ออีกหลายปี บ้างปากอาจบอกว่าอภัยเขาคนนั้นที่ทำร้ายเราไปหมดแล้ว แต่หากบังเอิญเจอหน้ากันโดยไม่ได้นัดหมาย เรื่องราวของคนที่เราเพิ่งเล่าให้คนอื่นฟังว่าฉันอภัยไปหมดแล้วนั้น ก็พลันพรั่งพรูขึ้นมาจุกอกราวกับว่าเรื่องนั้นๆ เพิ่งเกิดขึ้น ณ วินาทีนี้สดๆ ร้อนๆ
หากเราสังเกตตนเองอย่างที่เป็นจริงๆ ตามเหตุการณ์จริงๆ เฉพาะหน้า นอกจากจะเป็นการฝึกรู้เท่าทันบุคลิก ลักษณะ ความคิด จิตใจอารมณ์ตนเองให้ดีขึ้นแล้ว การเห็นตนเองชัดๆ ในกรณีนี้ยังทำให้เราไม่ทำในสิ่งที่ปิดกั้นการรู้จักตนเองให้ครบด้านมากที่สุด คือ การคิดว่าในทุกๆ สถานการณ์เราเท่านั้นที่ทำถูกต้องสมบูรณ์ดีหมดแล้ว แต่ในส่วนลึกเรื่องราวลบๆ เหล่านั้นเลยไม่ได้หายไปไหนจากก้นบึ้งของอารมณ์เราเลย และแน่นอนที่สุดหากพลังลบๆ ยังคงอยู่ในตัวเรา และพลังเหล่านั้นไม่ได้ช่วยให้เราสร้างสมประสบการณ์ที่ดีหรือส่งเสริมให้เราได้รับความสำเร็จดังที่ใจเราฝันให้เกิดในชีวิตเราเลย
ดังนั้น หากเราต้องการเยียวยา รักษาใจและร่างกายของตัวเอง หากเราต้องการได้ผลลัพธ์ในแบบที่เราปรารถนาให้เกิดจริงๆ ในชีวิต เราจึงมีความจำเป็นที่ต้องฝึกสติในการทำความรู้จักตัวเองจริงๆ อย่างละเอียดและถ่องแท้ว่าเราคือใคร ตามลักษณะความคิดที่วนอยู่ในหัวเราพฤติกรรมการโต้ตอบกับผู้อื่น การพูดจาสนทนาเล่าเรื่องตนเอง โดยเฉพาะเมื่อยามมีความทุข์เข้ามาทักทาย เช่น เราเข้าใจว่าเราเป็นคนเข้มแข็งมาก จนกระทั่งเรารู้ว่าเพื่อนสนิทของเราใส่ความหรือนินทาเรา แทนการสำรวจตนเองว่าเราคิดเสียใจอย่างไร แต่เรากลับหนีปัญหาและโต้ตอบกลับไปอย่างไม่มีสติ ซึ่งเป็นลักษณะของความอ่อนแอไม่ใช่การกระทำของผู้ที่มีจิตใจเข้มแข็ง
อย่างไรก็ตาม เมื่อเราได้พบว่าพฤติกรรมบางอย่างของเราควรได้รับการพัฒนาหรือปรับปรุงตนเอง การใส่พลังใจให้ตนเองและการโปรแกรมความคิดในแง่พลังบวกนั้นเป็นวิธีสากลวิธีหนึ่งที่ผู้ปฏิบัติจริงบอกต่อๆ กันมาถึงผลลัพธ์ เกิดเป็นสิ่งที่สุขสำเร็จขึ้นมากมายในชีวิตผู้ที่ปฏิบัติจริง วิธีการนั้นก็คือ การเลือกใช้คำพูดให้มีพลังแห่งความรักและพลังบวกอยู่เสมอ เพราะ "ทุกคำพูดและความคิดของเรา คือ Affirmation"
Affirmation คือ อะไรคะ? คือ คำพรประกาศิต, คำยืนยันต่อชีวิตเราเอง, คำตอกย้ำซ้ำๆ, คำโปรแกรมจิตใต้สำนึก, คำสั่งจิต (ที่ยิ่งเราใส่อารมณ์ความรู้สึกเข้าไปเท่าไหร่ผลลัพธ์เป็นรูปธรรมก็จะเรียงคิวมาเกิดให้เราเห็นตามที่เราคิดและพูด)
ความคิดดีๆ ความคิดถูกต้องที่เป็นกุศลจิต เราทุกคนสร้างประสบการณ์ให้เกิดในชีวิตเราเองด้วยทุกคำที่เราพูด ทุกความคิดที่เราคิด (รู้ตัวหรือไม่ก็ตาม) วิธีแก้ไขผลลัพธ์ที่ง่ายที่สุดหนึ่งวิธีหนึ่งก็คือ การใช้คำพรประกาศิต หรือ "มีสติ" เลือกใช้คำยืนยันกับตัวเอง แน่นอนที่สุด พรประกาศิต เป็นคำพลังบวกๆ ที่ผู้เขียนเองยืนยันว่าได้ผลทันทีเมื่อทำจริงและต้องทำต่อเนื่อง และสนุกกับการทำซ้ำๆ จริงๆ พอที่จะทำไปตลอดชีวิต (จงรักตัวเองพอที่จะคิดพูดเรื่องดีๆ ในหัวตัวเอง)
ดังนั้น ต่อนี้ไปมีเรื่องราวอะไรที่เกิดขึ้นที่เราไม่ได้ดังใจหรือเรื่องราวที่เกิดขึ้นแล้วคิดทีไรก็ยังเจ็บใจ แม้เป็นเรื่องในอดีตสิ่งที่ต้องทำคือ
1."ยอมรับ " (Accept) ทุกเรื่องราวที่เกิดขึ้นตามความเป็นจริงก่อน
2.ใส่พรประกาศิต (Affirmation) หรือคำยืนยันที่มีพลังบวกเข้าไปแทนที่
เนื่องจากเราตัองหาพื้นที่ดีๆ ไว้ให้ความคิดยึดเกาะ ประเด็นคือ อย่าได้เชื่อในทุกสิ่งที่ผู้เขียนเขียน แต่ให้ลองลงมือทำจริงๆ ให้ต่อเนื่อง แล้วพิสูจน์ผลลัพธ์ด้วยตนเอง การค้นหาตนเองว่าเราคือใครจึงเป็นไปในแนวทางที่ถูกต้อง เพราะเราจะมีประสบการณ์ตรงในการรักและเคารพในพฤติกรรมที่ดีงามทั้งต่อหน้าและลับหลังผู้อื่นอย่างแท้จริง ซึ่งนำไปสู่ความศรัทธาในตนเอง ซึ่งสิ่งเหล่านี้คือการค้นพบตัวตนที่แท้จริงที่งดงามดั้งเดิมของมนุษย์ที่เราทุกคนเกิดมาเนื่องด้วยความรัก ความบริสุทธิ์ ความสงบ ทรงพลังเต็มศักยภาพ
การค้นพบตนเองเหล่านี้จะชัดเจนมากขึ้นๆ หลังจากใช้คำยืนยัน หรือพรประกาศิต (Affirmation) เพราะเป็นการเติมพลังชีวิตให้ตนเองในด้านบวก เป็นการทำการบ้านกับตนเองและเสริมสร้างการเข้าใจตนเองในแง่มุมที่ทรงพลังแทนที่การใช้ชีวิตไปวันๆ แล้วหาคนผิด และคิดลบๆ อีกทั้งวิธีการใช้พรประกาศิตในชีวิตตลอดนั้นยังสามารถจัดการกับความกลัวที่อาจแฝงให้เราทำในสิ่งที่ไม่เหมาะสม เพราะแทนความคิดด้วยคำพูดบวกๆ ในหัวโปรแกรมความคิดดีๆ ไว้พูดกับตัวเองและผู้อื่นและพลังแห่งความรักในตนเองจะเพิ่มขึ้นจะนำชีวิตเราไปสู่การเข้าถึงตัวตนที่แท้จริงในเวอร์ชั่นที่ดีที่สุดของเรา
My Affirmation สำหรับวันนี้คือ ฉันให้อภัยตนเอง
ฉันให้อภัยผู้อื่นได้อย่างแท้จริง ชีวิตฉันดำเนินไปด้วยดีทุกสิ่งที่เกิดขึ้น เพื่อให้ฉันได้มีชีวิตที่เต็มไปด้วยการเรียนรู้และเติบโตอย่างมั่นคงและงดงาม ชีวิตรักฉัน ฉันรักชีวิต


