เพราะเราคือ ครอบครัว (ไอ เรียล)
สำหรับ “ไทด์” พัชรพล สุทธิธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอ เรียล พลัส (ประเทศไทย)
สำหรับ “ไทด์” พัชรพล สุทธิธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอ เรียล พลัส (ประเทศไทย) ตลอดเวลาเกือบ 3 ปีที่ผ่านมา ได้กลายเป็นบทพิสูจน์ความสามารถของหนุ่มน้อยคนนี้ กับการก้าวขึ้นมาเป็นผู้บริหารระดับสูงของบริษัทขนาดใหญ่ในขณะนั้นด้วยวัยเพียงแค่ 20 ปี
พัชรพล เล่าว่า การทำงานแรกๆ ก็มีเกร็งบ้าง เพราะคนที่ร่วมงานด้วยส่วนใหญ่จะเป็นผู้ใหญ่กว่าทั้งนั้น แต่ก็ไม่ถือเป็นแรงกดดัน เพราะคิดว่าเป็นธรรมดาของการทำงาน แต่พอเราใช้ใจทำ เอาใจเข้าสู้ แล้วทำงานออกมาจนพวกเพื่อนร่วมงานเห็นผลก็จะเกิดการยอมรับเองคราวนี้ เรื่องอายุหรือประสบการณ์ก็ไม่ใช่ปัญหาของการทำงานร่วมกันอีกต่อไป
อีกสิ่งที่คิดว่าเป็นตัวทำให้เพื่อนและพี่ที่ร่วมงานด้วยเกิดการยอมรับในตัวคือ การมองเพื่อนร่วมงานเป็นเหมือนคนในครอบครัวเดียวกัน หากเราทำผิดก็พร้อมที่จะยอมรับฟังคำแนะนำ หรือยอมให้สอนงานได้ โดยที่ไม่ถือตัวหรือถืออีโก้ว่าตัวเองเป็นเจ้านายหรือเขาเป็นลูกน้อง
“เราจะต้องมีเทคนิคในการพูดกับเพื่อนร่วมงาน (รุ่นพี่) โดยจะต้องไม่ด่า ไม่ว่า เพราะนั่นจะเป็นเหมือนการตำหนิ ซึ่งจะเป็นเชิงลบและที่สำคัญต้องทำงานกันด้วยใจ แล้วอายุก็จะเป็นเพียงตัวเลขในการทำงานหรือทำธุรกิจ” พัชรพล กล่าว
ที่สำคัญต้องถือว่าโชคดีที่มีเพื่อนร่วมงานที่ดี คอยช่วยเติมเต็มสิ่งที่เราขาดให้อย่าง พี่มิ้งค์-จุฑามาศ กังวาฬศิลป์ผู้จัดการฝ่ายการตลาดต่างประเทศ ที่พ่วงตำแหน่งเลขาไปในตัว
ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้สำหรับ ‘พี่มิ้งค์’
ไทด์ เล่าว่า ตอนแรกที่เริ่มเข้ามาทำงาน เคยถึงขั้นไปขอพรจากพระ (หลวงพ่อสด) ว่าขอให้นำพาทีมงานดีๆมาอยู่ในองค์กรด้วย และพอได้พี่มิ้งค์มาทำงานด้วยก็สมใจเลย เพราะพี่มิ้งค์สามารถต่อยอดโจทย์ที่ให้ไปได้เป็นร้อยเป็นพัน และยังมีคุณสมบัติที่เหมาะกับการเป็นเลขาด้วย นั่นก็คือ สามารถเป็นกาวใจของเพื่อนๆ ร่วมงานได้ ทำให้เพื่อนร่วมงานมีน้ำหนึ่งใจเดียวกัน และยังเป็นคนที่เปิดงานและสามารถจบงานได้ภายในเวลารวดเร็ว ซึ่งน้อยคนมากที่จะเปิดงานแล้วจบงานได้เร็วและได้รับการยอมรับ ที่สำคัญยังเป็นคนมีคุณธรรมด้วย
“ความจริงเราเพิ่งมาทำงานร่วมกันแบบเต็มตัวได้เพียงแค่ 4-5 เดือนเท่านั้น แต่พอจูนกันติดก็เหมือนทำงานร่วมกันมานานหลายสิบปี และเชื่อมั้ยว่า ไม่เคยมีคำว่า “ไม่ได้” หลุดออกมาจากปากของพี่มิ้งค์เลย” ไทด์ ให้คำจำกัดความถึงเลขา
เจ้านายแสนละเอียด เนี้ยบ เป๊ะทุกองศา
มิ้งค์ เล่าให้ฟังว่า ตำแหน่งเลขาของคุณไทด์เนี่ย ได้มาแบบไม่ตั้งใจนะคะ เพราะเดิมทีก็ทำแค่ตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายการตลาดต่างประเทศเท่านั้น แต่พอเวลามีโทรศัพท์จากลูกค้าติดต่อเข้ามา ด้วยความที่โต๊ะทำงานอยู่ใกล้ก็จะต้องเป็นคนคอยรับโทรศัพท์ให้ ไม่ก็มักจะมีคนโทรเข้ามาขอสายเลขาคุณไทด์ เพื่อติดต่องานต่างๆ หรือบางครั้งคุณไทด์เองก็จะส่งโทรศัพท์ให้ช่วยส่งสำเนียงเวลาลูกค้าจากต่างประเทศโทรติดต่อเข้ามา จนทำให้กลายเป็นเลขาไปในตัว
หากจะให้ย้อนไปวันแรกที่รู้ตัวว่า ต้องทำงานและต้องมีเจ้านายที่เด็กกว่า มิ้งค์ ยอมรับว่า รู้สึกแปลกอยู่ ก็มีเกร็งบ้างว่าจะสามารถช่วยงานอะไรได้มากแค่ไหน เพราะการที่คุณไทด์สามารถก้าวขึ้นมาเป็นผู้บริหารได้ตั้งแต่อายุยังน้อย แสดงว่าจะต้องเป็นคนที่เก่งมากแน่ๆ แต่พอทำงานด้วยกันไปก็เริ่มชินเพราะคุณไทด์จะไม่เคยดุด่าเลย มีแต่คอยแนะนำและคอยให้กำลังใจเวลาทำผิดพลาด ขณะเดียวกันก็ชื่นชมเวลาทำดี
จึงทำให้มั่นใจขึ้น
“จุดที่ทำให้ยอมรับในตัวเจ้านายคนนี้คือ เป็นคนที่ตั้งใจและใช้ใจในการทำงานจริงๆ แม้บางครั้งจะดูว่าเป็นคนละเอียด(มาก) เนี้ยบ และเป๊ะ (เวอร์) แต่ก็เป็นคนที่ทำงานด้วยแล้วสบายใจ จนทุกวันนี้ไม่คิดด้วยซ้ำว่าเป็นการมาทำงาน เพราะที่นี่จะอยู่และทำงานกันแบบครอบครัว ที่เราต้องคอยให้คำปรึกษากับน้องชายมากกว่าเจ้านาย”
นอกจากนี้ คุณไทด์ยังเป็นเจ้านายที่ไม่ถือตัวเลย เพราะทุกเช้ายังมานั่งนำสวดมนต์ ไหว้พระกับพนักงานทุกเช้า และดูแลพนักงานที่นี่ทุกคนเหมือนกับคนในครอบครัว จนทำให้พนักงานที่นี่ทุกคนรักและภูมิใจในตัวเจ้านายคนนี้


