ไปกินลาบโบราณที่ชายแดนไทย-กัมพูชา
ปลายฝนต้นหนาวฤดูกาลท่องเที่ยว หากนักท่องเที่ยวเดินทางมาสัมผัสลมหนาวเย็นยะเยือกภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ผ่านเมืองดอกลำดวน หรือ จ.ศรีสะเกษ อยากชิมอาหารอีสานรสแซบคงหนีไม่พ้น “ลาบ”เชื่อไหมว่าเมนูลาบ กินเช้า สาย บ่ายเย็น ไม่มีเบื่อ เพราะว่าลาบมีสูตรหลายชนิดมาก นับตั้งแต่ลาบหมู ลาบวัว ลาบปลา ลาบไก่ ลาบเป็ดตลอดไปถึงลาบกะปอม (กิ้งก่า) เพียงแช่เนื้อไว้ในตู้เย็น เช้าลาบไก่ เที่ยงลาบหมู เย็นลาบปลา สลับกันไปอย่างนี้ก็ไม่น่าเบื่อ
ปลายฝนต้นหนาวฤดูกาลท่องเที่ยว หากนักท่องเที่ยวเดินทางมาสัมผัสลมหนาวเย็นยะเยือกภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ผ่านเมืองดอกลำดวน หรือ จ.ศรีสะเกษ อยากชิมอาหารอีสานรสแซบคงหนีไม่พ้น “ลาบ”เชื่อไหมว่าเมนูลาบ กินเช้า สาย บ่ายเย็น ไม่มีเบื่อ เพราะว่าลาบมีสูตรหลายชนิดมาก นับตั้งแต่ลาบหมู ลาบวัว ลาบปลา ลาบไก่ ลาบเป็ดตลอดไปถึงลาบกะปอม (กิ้งก่า) เพียงแช่เนื้อไว้ในตู้เย็น เช้าลาบไก่ เที่ยงลาบหมู เย็นลาบปลา สลับกันไปอย่างนี้ก็ไม่น่าเบื่อ
เครื่องปรุงก็มี พริกป่น ข้าวคั่ว หอมหัวแดงซอย ผักชีฝรั่ง สะระแหน่ มะนาว และน้ำปลา แต่วิธีการปรุงต่างกัน ร้านอาหารบางร้านเอาเนื้อสดหั่นเสร็จคลุกกับเครื่องปรุงแล้วเอาไปทำให้สุกโดยการเอาไปใส่หม้อตั้งไฟตักใส่จานเอาผักมาโรยหน้า การปรุงลาบด้วยวิธีนี้นั้น ร้านลาบทั่วไปเขาปรุงกัน
แต่ร้านอาหารดาริน เขาปรุงอีกวิธีหนึ่ง ไม่ใช่แบบทั่วไป ร้านอาหารดาริน ตั้งอยู่ริมถนนทางหลวงหมายเลข 24 สายโชคชัย-เดชอุดม บริเวณสี่แยกนาเจริญ ต.โสน (สะ-โนว) อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ ปากทางเข้าสู่ด่านถาวรช่องสะงำ อ.ภูสิงห์ หากท่านมาจากกรุงเทพฯ พอมาถึงสี่แยกนาเจริญ ให้ตรงมาอีกประมาณ 500 เมตร จะเห็นป้ายดารินอยู่ขวามือ ที่นี่เป็นร้านอาหารอีสาน มีอาหารป่าตามฤดูกาล มีทั้งหนูนา ปลาไหล ไก่ป่า ไก่บ้าน กบ เขียด ฯลฯ
สวิน ศรีวงศ์ เจ้าของร้าน บอกว่าทำอาหารมานานเพราะใจรัก รสชาติจะเป็นรสเด็ดแบบชาวบ้าน ด้วยที่ทำมานานลูกค้าส่วนใหญ่ก็จะอยู่ในภูมิภาคเขตนี้ เมื่อมารับประทานแล้วติชมมาก็จะรับฟัง และนำไปปรับปรุงรสชาติให้ถูกใจลูกค้า
“ร้านอาหารของเราเป็นร้านอาหารทำในครอบครัว มีภรรยาคือ นางเสงี่ยม เป็นกุ๊กหลักและมีลูกสาวคนสุดท้องมาช่วยอีกแรง ส่วนเรานั้นเมื่อว่างก็จะเข้ามาช่วยทำ ทั้งรับแขก ช่วยเสิร์ฟอาหาร ถึงอย่างนั้นก็ยังมีพนักงานเสิร์ฟอีกหนึ่งคน ส่วนน้ำดื่มน้ำแข็งมีไว้ให้แขกบริการตัวเอง และให้ฟรีอีกด้วย”
ข้างในร้านมีบริเวณเพียงพอต่อการรับแขกกรุ๊ปทัวร์ได้อย่างสบาย เพราะเป็นที่ตั้งของบริษัททัวร์ชื่อว่า “อังกอร์ทัวร์” อีกด้วย ฉะนั้นจึงมีทัวร์มาลงเป็นประจำ เมื่อมีทัวร์มาลงจะได้รับแจ้งจากสายทัวร์ล่วงหน้า ทางร้านก็จะเตรียมพนักงานงานเพิ่มทั้งกุ๊กทั้งเด็กเสิร์ฟให้เพียงพอต่อการบริการไม่ให้เกิดปัญหาอะไร
สำหรับสูตรลาบโบราณที่เกริ่นกล่าวมาก่อนนั้น เพียงแต่ก่อนจะปรุงนั้น ต้องเอาเนื้อไปย่างไฟให้สุกเสียก่อนจึงเอามาปรุง การย่างไฟทำให้รสชาติจ๊าบกว่า ทั้งยังแห้งดีกว่า จึงเป็นที่นิยมของลูกค้า เมื่อมานั่งรับประทานมักจะสั่งว่า “ขอลาบโบราณนะ” สำหรับอาหารหม้อไฟรสเด็ดร้านนี้ก็มี อย่างต้มเปรตปลาไหล ซึ่งต้มเปรตก็เหมือนต้มยำทุกประการ เพียงเอาเครื่องปรุงไปย่างไฟก่อน เช่น พริกชี้ฟ้า ขิงข่า ตะไคร้ หัวหอม กระเทียม ขาดไม่ได้คือใบกะเพรา อาหารที่นี่ราคาไม่แพง เหตุเพราะอาหารส่วนหนึ่งได้มาจากชาวสวนบริเวณนี้ และปลาก็ได้จากเขื่อนนาตราวที่อยู่ท้องที่นี้เช่นเดียวกัน จึงมีราคาที่ไม่แพงและสดด้วย
สำหรับเมนูที่นี่ก็มี ลาบกบ ลาบนก ลาบหมู ลาบเนื้อ ป่นปลา ป่นกบราคาก็เพียงจานละ 50 บาทเท่านั้น อาหารชื่อว่า “อ่อม” มีทุกชนิด ส่วนหม้อไฟปลาช่อนราคา 150 บาท สำหรับผักที่นำมาเสริมกินกับลาบเน้นผักป่ากับผักพื้นบ้าน อ้อ...อีกอย่าง สำหรับข้าวนั้นจะเอาข้าวหอมมะลิชั้น 1 มาบริการทั้งสิ้น
เส้นทางแห่งนี้เป็นเส้นทางที่ไปสู่บ่อนกาสิโนที่ด่านช่องสะงำ และเป็นเส้นทางระหว่างทางจากเดชอุดม-โชคชัย จึงเชิญชวนท่านลองมาแวะชิมดูสักครั้ง รับรองว่าอร่อยครับ


