พรรษาปี' ๕๗... กิจอันควรอนุโมทนา จำพรรษา ณ วัดเวฬุวันมหาวิหาร/อินเดีย!!
ปุจฉา บ้านเมืองกำลังเข้าสู่ระยะเวลาแห่งการแต่งองค์ทรงเครื่อง ด้วยฝีมือของคณะนายทหาร
โดย...พระอาจารย์อารยะวังโส
ปุจฉา บ้านเมืองกำลังเข้าสู่ระยะเวลาแห่งการแต่งองค์ทรงเครื่อง ด้วยฝีมือของคณะนายทหาร ดูๆ ไปได้ดีน่าชื่นชมในช่วงแรกนี้ และหวังว่าคงจะสวยงาม ดูดี มีคุณค่า จนจบสมบูรณ์... เราชาวไทยจึงควรช่วยกันให้กำลังใจ และในพรรษานี้อยากเชิญชวนทุกคนร่วมกันรักษาศีล ปฏิบัติธรรม เพื่อเติมพลังความดีพลังบุญให้กับแผ่นดินไทย ในโอกาสนี้ขอคำแนะนำสั่งสอนเพื่อการปฏิบัติตนเนื่องในเทศกาลเข้าพรรษาครับ!
วิสัชนา เจริญพรสาธุชนผู้มีศรัทธาในพระพุทธศาสนา บัดนี้ เข้าสู่เทศกาลเข้าพรรษาแห่งวสันตฤดูปีพุทธศักราช ๒๕๕๗ นับวันแรมหนึ่งค่ำ เดือนแปด ปีนี้ตรงกับ ๑๒ ก.ค. ๒๕๕๗ เป็นวันเข้าพรรษาตามพุทธานุญาต (บัญญัติ) ให้พระสงฆ์สาวก เมื่อถึงกาลฤดูฝน ๔ เดือน ให้อธิษฐาน
จำพรรษา ๓ เดือน แสวงหาและทำผ้า ๑ เดือน เรียกเขตกาลดังกล่าวเป็นบาลีว่าวัสสูปนายิกา (จำพรรษา) หมายถึง การอยู่ประจำวัด ๓ เดือนในฤดูฝน ไม่จาริกเที่ยวไปดังที่เคย เว้นมีธุระเป็นเหตุ สามารถกระทำ สัตตาหกรณียะได้ เช่น ไปเพื่อรักษาพยาบาลพ่อแม่ที่เจ็บป่วย... เพื่อนภิกษุกระสันจะสึก รู้เข้า เดินทางไประงับ... ไปเพื่อหาเครื่องทัพสัมภาระมาปฏิสังขรณ์เสนาสนะ หรือทายกจะบำเพ็ญกุศลมีนิมนต์มาถูกต้อง ย่อมเดินทางออกจากเขตจำพรรษาได้ เพื่อไปฉลองศรัทธา... พระสงฆ์สาวกที่อยู่จำพรรษาครบถ้วนไตรมาส ไม่ล่วงเกินพุทธบัญญัติในเรื่องดังกล่าว ย่อมมีอานิสงส์จำพรรษาเกิดขึ้น ๕ อย่าง หนึ่งในห้า คือ สามารถรับผ้าจีวรอันเกิดขึ้นในที่นั้นได้ โดยมีสิทธิกรานกฐินตามพระวินัย...
เมื่อถึงการจำพรรษา หากภิกษุหลีกไป ไม่อยู่จำพรรษา หรือไม่อยู่สิ้น ๓ เดือนแรก (พรรษาแรก/ปุริมิกาวัสสูปนายิกา) หรือ ๓ เดือนหลัง (พรรษาหลัง/ปัจฉิมิกาวัสสูปนายิกา) ย่อมอาบัติทุกกฎ (โทษบาปตามพระวินัย)
การอยู่จำพรรษาของพระสงฆ์สาวก จึงเป็นการหยุดยับยั้งการโคจรไปในที่ต่างๆ ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง ที่จะได้หยุดทบทวนพระธรรมวินัย หรือเพื่อจะได้มุ่งศึกษาปฏิบัติ ด้วยการเข้าไปอยู่ในอาวาสกับครูบาอาจารย์/เพื่อนพรหมจรรย์ ผู้มีความรู้ เพื่อจะได้ศึกษาท่องบ่นจดจำอย่างจริงจัง ปรารภความเพียร ตั้งอยู่ในความไม่ประมาท ชำระโทษอาบัติใดๆ ให้สิ้นไป ไม่ให้เป็น บรรพชาโทษ... อุปสมบทโทษ พระภิกษุที่อยู่จำพรรษาในแต่ละสำนัก จึงมุ่งหาครูบาอาจารย์ที่มีภูมิรู้ภูมิธรรม จะได้สั่งสอนอบรมกวดขัน ชำระจิตใจของตนให้มีความตื่นรู้ ...ตื่นทำอยู่ตลอดทุกขณะจิต บางสำนักจึงมีระเบียบ/ข้อวัตรว่า ให้พูดแต่น้อย ฟังให้มาก ไม่ว่าเป็นโดยธรรม ไม่พูดคุยกัน ยึดหลักกถาวัตถุ ๑๐ มุ่งอบรมจิตตภาวนา เจริญอสุภะ ๑๐ ปรารภอนุสติ ๑๐ ...อารมณ์ ๓๘ จะอยู่ร่วมกันด้วยความเอื้อเฟื้อมีเมตตากรุณาต่อกัน ตั้งอยู่ใน ธัมมิกวัตร (วัตรแก่อาคันตุกะและอุปโลกน์ให้ของแก่ผู้ไปด้วย สัตตาหกรณียะ) ไม่กล่าวคำแก่งแย่ง คำยุยงส่อเสียด คำหยาบ มีความสังวรระวัง โดย สังวรธรรม... อบรมรักษาอินทรีย์บำเพ็ญขันธกวัตรและเสขิยวัตร... เจริญสติกำหนดรู้อยู่ทุกขณะ เพื่อความรู้แจ้งแทงตลอดในธรรม (พระนิพพาน)
จากที่กล่าวมาถึงข้อวัตรปฏิบัติของพระสงฆ์สาวก เนื่องในการอยู่จำพรรษา เพื่อสาธุชนจะได้ทราบถึงประโยชน์ความควรที่พระสงฆ์สาวกถือปฏิบัติ อันสาธุชนพึงจะได้รับเมื่อรู้การอนุโมทนา... เราจึงเห็นการถือประพฤติธรรมของศรัทธาสาธุชนที่มีความเลื่อมใส ได้ตั้งใจเข้าวัด ฟังธรรม รักษาศีล ประพฤติธรรมกันตามกำลัง กับครูบาอาจารย์ที่ตนเคารพศรัทธา มีการตรวจสอบพฤติกรรม กายวาจาใจ ของตน เพื่อมุ่งชำระให้พ้นจากโทษภัยกันอย่างจริงจัง ด้วยการตั้งสัจอธิษฐานเพื่อกระทำการกุศลนั้นๆ ในห้วงเวลาเข้าพรรษา และเมื่อออกพรรษาก็จะชักชวนกันถวายผ้ากฐินแด่พระสงฆ์ที่อยู่จำพรรษาในเขตอาวาสนั้นๆ ที่ตนศรัทธาเลื่อมใสนั้น จึงเกิด พุทธประเพณี ดังกล่าวขึ้นสืบเนื่องมาถึงปัจจุบัน
การตั้งเจตนาแน่วแน่ใน การงดทำบาปทั้งปวง ทำความดี (กุศล) ให้ถึงพร้อม และอบรมจิตให้บริสุทธิ์ ด้วยการฟังธรรมเจริญภาวนาทุกวันคืนนั้น เป็นการปฏิบัติตามคำสั่งสอนของพระผู้มีพระภาคเจ้าอย่างถูกต้องผู้ประพฤติจึงสามารถหวังผล ความสุข... ความเจริญ ในอายุ วรรณะ สุขะ พละ และวิมุตติ ได้อย่างแน่นอน ไม่ต้องไปอ้อนวอนขอจากใคร สมดังคำสั่งสอนของพระพุทธองค์ที่ให้ พึ่งตน... พึ่งธรรม!! และหากรู้จักชักชวนกันทำความดีเป็นหมู่... เป็นคณะ ก็จะยกระดับเป็นพลังแผ่นดิน (พลังความดีของมหาชน) เมื่อตั้งจิตร่วมกันกระทำ สัตยาธิษฐาน อันย่อมจะสัมฤทธิผลโดยเร็วพลัน... ตรงนี้ คือ สิ่งที่ควรทำ เพื่อช่วยกันขับเคลื่อนบ้านเมืองให้มุ่งสู่ความเจริญรุ่งเรือง พ้นภัยมารทั้งปวง ในห้วงพรรษานี้!!
พรรษาปี’๕๗ นี้ อาตมาได้รับการอนุญาตอย่างเป็นทางการ จากหน่วยงานผู้รับผิดชอบสวนป่าเวฬุวัน หรือวัดเวฬุวันมหาวิหาร ซึ่งเป็นวัดแห่งแรกในพระพุทธศาสนาที่พระพุทธองค์ทรงประทับอยู่จำพรรษาถึง ๕ พรรษา จาก ๔๕ พรรษา ของพระองค์ และด้วยการประกาศสนับสนุนภารกิจที่อาตมาปฏิบัติในงานพระศาสนา ของรัฐมนตรีผู้กำกับดูแลกระทรวงมหาดไทยของรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐอินเดีย ตลอดจนฝ่ายบริหารระดับสูงของรัฐบาลท้องถิ่นแห่งรัฐพิหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะท่านเอกอัครราชทูตอินเดียประจำประเทศไทย จึงทำให้อาตมาได้รับอนุญาตให้เข้าพักและจัดงานมาฆบูชาในวัดเวฬุวันมหาวิหารแห่งนี้ได้มาโดยตลอด
เพื่อการฟื้นฟูวัดเวฬุวันมหาวิหาร แห่งพระนครราชคฤห์ แคว้นมคธ ให้คืนกลับมาเป็นมหาวิหารของพระพุทธศาสนาอีกครั้ง ในพรรษาปี’๕๗ นี้ อาตมาจึงได้ตัดสินใจเดินทางไปอยู่จำพรรษาอย่างเป็นทางการ มีการบันทึกรับรองอย่างถูกต้อง ของ Forestry Department ที่กำกับดูแลสวนป่าเวฬุวัน ซึ่งได้นำพระภิกษุติดตามไปอยู่จำพรรษาด้วย รวม ๕ รูป เพื่อจะได้รับผ้ากฐินได้ตามพระธรรมวินัย และเพื่อจะได้ฟื้นฟูพุทธประเพณีการกรานกฐินอีกครั้ง ในวัดเวฬุวันมหาวิหารแห่งนี้ ...จึงแจ้งสาธุชนได้รับทราบเพื่อร่วมอนุโมทนา ซึ่งคงจะได้เขียนเล่าเรื่องราวต่างๆ ให้ได้รับทราบต่อไป กรุณาติดตามจาก “ธรรมส่องโลก” ทุกวันอาทิตย์ใน โพสต์ทูเดย์ แห่งนี้
ขอเจริญพร


