posttoday

‘ซารีน่า ไทย’ นางแบบข้ามเพศผู้ไม่ยอมหยุดฝัน

05 กรกฎาคม 2557

คนเราทุกคนเกิดมาพร้อมความฝัน แต่จะมีสักกี่คนที่พาตัวเองมาถึงฝั่งฝันที่ตั้งใจ แม้แต่นักธุรกิจพันล้านบางคน

โดย...พุสดี สิริวัชระเมตตา/อภิชชญา โตวิวิญ์

ภาพ ประกฤษณ์ จันทะวงษ์

คนเราทุกคนเกิดมาพร้อมความฝัน แต่จะมีสักกี่คนที่พาตัวเองมาถึงฝั่งฝันที่ตั้งใจ แม้แต่นักธุรกิจพันล้านบางคน หรือบุคคลที่ได้รับการชื่นชมว่าประสบความสำเร็จในชีวิตตั้งแต่อายุยังน้อย หากลองให้ย้อนวันวานกลับไปถามตัวเองอีกครั้งว่าความฝันวัยเด็กคืออะไร เชื่อว่าคงมีจำนวนน้อยที่มุมานะพาตัวเองมาถึงฝั่งฝัน แต่ก็คงมีอีกจำนวนไม่น้อยที่มัววิ่งหาความสำเร็จในชีวิตจนทิ้งความฝันไว้ข้างทาง

“นิชนัจทน์ สุดลาภา” หรือที่วงการนางแบบรู้จักกันในชื่อ “ซารีน่า ไทย” คือหนึ่งในผู้ที่มีฝัน และพร้อมจะวิ่งตามฝันอย่างไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อย แม้ว่าความฝันที่จะเป็นนางแบบของเธอขัดกับสิ่งที่ธรรมชาติให้มา เธอต้องเอาชนะคำว่าเป็นไปไม่ได้ที่เกิดจากตัวเอง และจากคำพูดของคนที่ไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของเธอ ด้วยการเก็บกระเป๋าไปพิสูจน์ตัวเองไกลถึงนิวยอร์ก และวันนี้ เธอมาถึงบันไดขั้นแรกของความฝัน ด้วยการเป็นหนึ่งในนางแบบที่ได้เดินแบบในนิวยอร์ก แฟชั่น วีก ที่ผ่านมา

อะไรคือพลังขับเคลื่อนให้นางแบบข้ามเพศผู้นี้เอาชนะอุปสรรคต่างๆ มาได้ราวกับมีเวทมนตร์ เธอมีคำตอบ

ฉันก็เป็นผู้หญิงคนหนึ่ง

ซารีน่า ยอมรับว่า เธอมีฝันอยากจะเป็นนางแบบ ย้ำว่านางแบบไม่ใช่นายแบบมาตั้งแต่เด็ก แม้ว่าในสายตาเธอจะเป็นเด็กผู้ชายคนหนึ่ง เติบโตมาในโรงเรียนวชิราวุธวิทยาลัย ซึ่งเป็นโรงเรียนชายล้วน แต่เธอกลับไม่เคยรู้สึกเป็นปมด้อย

“ถามว่าเพื่อนๆ รู้มั้ย ก็คงรู้ว่าเราเป็นอะไร แต่ก็ไม่มีใครกล้าล้อหรือรังแก เพราะเราคิดเสมอว่าเราต้องเรียนให้ดี ทำให้เพื่อนๆ ยอมรับ ถึงจะมีพฤติกรรมตุ้งติ้งแต่เพื่อนก็ไม่กล้าแกล้ง ด้วยความที่เราก็ทำกิจกรรมเยอะ ทั้งเป็นหัวหน้าชมรมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ทำสมาคมหนังสือพิมพ์ แข่งโต้วาที เข้าร่วมเกือบทุกกิจกรรม เล่นกีฬาว่ายน้ำ แบดมินตัน เป็นหัวหน้าทีมเทนนิส ที่ทำทั้งหมดเพราะเรามีความรู้สึกลึกๆ ว่าอยากให้คนยอมรับ ไม่ว่าตัวฉันจะเป็นยังไง ฉันมีความสามารถทำในหลายสิ่งที่คุณทำได้หรืออาจทำได้ไม่ดีเท่าฉันด้วยซ้ำ”

ซารีน่า เล่าต่อว่า พออายุ 14 ปี ความฝันที่จะเป็นนางแบบยิ่งชัดเจนขึ้น เริ่มรู้ตัวว่าชอบเรื่องแฟชั่น เธอย้อนความทรงจำว่าชอบหนังสือพิมพ์สยามกีฬา แต่เธอไม่ได้อ่านข่าวกีฬา เพราะชอบดูปกหลังที่มีนางแบบใส่ชุดว่ายน้ำมาโชว์สวยๆ หรือถ้ามีโอกาสเข้าถึงอินเทอร์เน็ต ซึ่งสมัยก่อนยังไม่ค่อยแพร่หลายเท่าปัจจุบันก็จะเข้าเว็บดูว่านางแบบแต่ละคนเป็นอย่างไร มีลีลาการเดินและโพสอย่างไร

“พอโตขึ้นมา ก็ไปเข้าคอร์สเรียนเดินแบบ เป็นคอร์สสั้นๆ ประมาณ 3 เดือน ย้อนกลับไปก็ประมาณ 10 ปีที่แล้ว สมัยนั้นโรงเรียนสอนเดินแบบจริงๆ มีไม่กี่ที่ นอกนั้นจะเป็นสอนเรื่องบุคลิกภาพและการแสดงมากกว่า เราก็คิดว่าน่าจะลองดู ที่นี่สอนบุคลิกภาพทั้งการไหว้ การพูด สอนแต่งหน้าในชีวิตประจำวัน สอนการเดิน สอนว่าชุดนี้เป็นยังไง จะเดินยังไง เรื่องแต่งหน้าเวลาเป็นนางแบบ”

ซารีน่า ยอมรับว่าโรงเรียนแห่งนี้เป็นใบเบิกทางสำคัญในการพาเธอเข้าสู่การเป็นนางแบบ ทำให้เธอได้มีโอกาสเข้าสู่วงการนางแบบไทย แต่เส้นทางนี้ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เพราะถึงเธอจะมีความตั้งใจเต็มร้อย แต่บริบทสังคมไทยกับเรื่องความเท่าเทียมกันทางเพศยังเป็นเรื่องที่ไม่อาจมองข้าม

“พี่ๆ หลายคนใจดีมาก เห็นความตั้งใจของเรา ก็ให้งาน ให้โอกาสเราได้เดินปิดโชว์ แต่บางคนเขาไม่เข้าใจ ไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของเราก็เมาท์เรา บางคนพูดถึงขั้นว่า ทำไมให้กะเทยมาเดิน ได้ยินแบบนั้นเราก็รู้สึกแย่นะ และคิดว่าทุกคนที่เป็นแบบเราไม่ว่าจะในวงการไหนก็คงมีประสบการณ์คล้ายๆ กันแบบนี้ อาจเพราะบางคนยังไม่เปิดใจ แต่เราก็คงไม่ไปต่อปากต่อคำ เจอแบบนี้เราก็เงียบนะ และคิดแค่ว่าวันนี้เรามาทำหน้าที่ของเรา ต้องเดินออกไปให้ฝังใจ แม้คำพูดนั้นจะยังฝังใจว่า ทำไมเขามองเราอย่างนั้น ยังไม่ทันรู้จักเราเลย เรายังไม่ทันได้เดินด้วยซ้ำ”

‘ซารีน่า ไทย’ นางแบบข้ามเพศผู้ไม่ยอมหยุดฝัน

 

ลาก่อนเมืองไทย โกอินเตอร์ไปนิวยอร์ก

จุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ซารีน่าตัดสินใจเก็บกระเป๋าไปตายเอาดาบหน้าที่นิวยอร์ก คือ หลังจากที่เธอมาแคสงานแฟชั่นโชว์อีกงานหนึ่ง ปรากฏว่ามีรุ่นพี่เตือนว่าอย่าไปเลย เพราะเธอไม่ใช่ผู้หญิงแท้ๆ ซารีน่าเล่าว่า ครั้งนั้นเธอแย้งรุ่นพี่ไปว่า ยังไม่ได้ดูเธอโชว์เลย รู้ได้อย่างไรว่าทำไม่ได้

“การที่เราไปเพราะคิดว่าเป็นโอกาส ถ้าไม่ลอง ก็หมายความว่าเป็นไปไม่ได้ แต่พอเจอแบบนี้เลยคิดว่า ถ้าประเทศไทยยังไม่เปิดรับลองไปตามหาความฝันที่ต่างประเทศดีกว่า เพราะเราพอรู้ว่าที่ต่างประเทศมีหลายแบรนด์ที่เลือกใช้นางแบบที่เป็นทรานส์เจนเดอร์ โดยเลือกไปที่นิวยอร์ก เพราะมีนางแบบไทยหลายคนไปดังที่นู่น คิดได้ปั๊บก็หาข้อมูลแล้วเก็บของไปเลย ไปสมัครตามเอเยนซีต่างๆ ตอนนั้นที่ไปมีแค่ 4 ที่ที่กำลังเปิดรับ เราก็ไปหมด แต่ไม่ได้เลยสักที่”

อย่างไรก็ตาม ถึงจะโดนปฏิเสธมาแต่ซารีน่าก็ไม่หมดหวัง เพราะหลังจากที่ได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนกับเพื่อนนางแบบที่ไปตามหาความฝันเหมือนกัน ทำให้รู้ว่าการถูกปฏิเสธเป็นเรื่องปกติ ให้คิดว่าเป็นแรงขับเคลื่อนเพื่อพัฒนาตัวเอง แข่งกับตัวเองอยู่เสมอ เพราะมีนางแบบบางคนเคยถูกปฏิเสธจากบริษัทเดิม 45 รอบ จนมาได้รอบที่ 7 ก็มี เพราะการจะได้งานหรือไม่ ขึ้นอยู่กับหลายองค์ประกอบ บางทีเราอาจไม่ใช่นางแบบที่มีลุคตรงกับที่เจ้าของงานนั้นต้องการ

“จำได้ว่าครั้งแรกที่สื่อมาสัมภาษณ์ ตอนนั้นเรายังไม่ได้งานเลยซักชิ้น เขาถามว่ารู้สึกยังไง เราก็ตอบว่าเสียใจมาก ไม่เข้าใจจริงๆ ว่าทำไมเขาไม่เลือกเรา เขาก็ให้กำลังใจว่าอย่าเสียใจ อย่าคิดว่าทำไมตัวเองไม่ดี มันขึ้นอยู่กับโอกาสและจังหวะ การที่เขาไม่เลือกคุณ ไม่ได้หมายความว่าคุณไม่ดี แค่ตอนนั้นคนที่เขากำลังหาไม่ใช่คุณ ดังนั้นมันก็มีโอกาสที่คนที่เขาจะตามหาเป็นเรา นี่คือการให้กำลังใจตัวเอง ถึงแม้จะถูกปฏิเสธแต่ไม่ได้หมายความว่าเราจะถูกปฏิเสธตลอดไป ถ้าเราพยายามทำให้ดีต่อไป มันก็มีโอกาสที่เราจะประสบความสำเร็จ”

ส่วนหนึ่งในนิวยอร์ก แฟชั่น วีก

หลังจากล้มลุกคลุกคลาน รับงานเดินแบบเล็กๆ น้อยๆ สร้างพอร์ตการทำงานให้ตัวเองไปเรื่อย ในที่สุดความฝันของซารีน่าที่จะได้เดินแบบในงานแฟชั่นโชว์ระดับโลกก็มาถึง เมื่อเธอได้รับเลือกให้เดินแบบในงานนิวยอร์ก แฟชั่น วีก สปริง/ซัมเมอร์ 2014 เมื่อเดือน ก.ย.ปีที่แล้ว ถามว่าเส้นทางนางแบบโกอินเตอร์ของเธอค่อนข้างมาได้ไวหรือไม่ ซารีน่าบอกว่า นางแบบหลายคนมาเร็วหมด สังเกตว่านางแบบหลายคนมาแล้วไปเร็วมาก แต่คนที่จะอยู่นานๆ คนที่เขาเรียกใช้ต่อ น่าจะเป็นสิ่งที่ทุกคนคำนึงมากกว่า

“ก้าวต่อไปของซารีน่า อยากลองไปเดินแบบที่ยุโรปบ้าง แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ทั้งหาเอเยนซี สปอนเซอร์ ค่าวีซ่า ซึ่งแพงมากๆ อาชีพนางแบบถ้าไม่ได้เป็นซูเปอร์โมเดล ก็ไม่ได้ทำเงินได้มาก ถ้าเป็นนางแบบเดินรันเวย์จะรายได้ไม่เยอะเท่าพวกนางแบบที่ถ่ายลงแค็ตตาล็อก พวกนี้รายได้ดีแต่ไม่ค่อยมีชื่อเสียง ไม่มีคนรู้จัก แต่นางแบบหลายคนรวมถึงตัวเราเองถามว่าอยากทำแบบนั้นไหม อยากทำ เราทำได้ แต่ว่าอยากวาง Positioning ตัวเองด้วย อยากให้ภาพลักษณ์เราออกมาให้คนจดจำว่าคนนี้คือซารีน่า”

ถามถึงการเป็นนางแบบข้ามเพศ ซารีน่าบอกว่าเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน โชคดีที่การทำงานในต่างประเทศ ซารีน่าคือซารีน่า เขาเลือกเพราะเราคือเรา บุคลิก หน้าตา และทัศนคติแบบนี้คือตัวเรา ไม่ใช่เรื่องสำคัญเลยว่าจะเป็นเพศอะไร โดยทั่วไปน้อยคนที่รู้ว่าเราเป็นนางแบบข้ามเพศ หรือแม้เขารู้ก็จะไม่พูด เพราะมีมารยาทและความสุภาพเรื่องเพศมากกว่า ส่วนใหญ่จะคิดว่าเป็นเรื่องของเรา ถ้าทำงานได้ก็ทำไป นอกจากเราจะเปิดเผยยอมรับเองว่าเราเป็น ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาที่มีทั้งคนชอบและไม่ชอบ เราโชคดีที่ผ่านมาเขาชอบเพราะรู้สึกว่าเราเคารพตัวเอง ยอมรับในสิ่งที่เป็น

“ซารีน่าเชื่อว่าการเคารพคนที่ตัวตนเป็นจุดเริ่มต้นของความเท่าเทียม แม้ว่าความหลากหลายจะเป็นเรื่องธรรมดาของโลก เพราะคนเรามีความเชื่อ ความคิดเห็น และความศรัทธาไม่เหมือนกัน แต่เราควรเคารพในความแตกต่างนั้น เวลาทำงานหรือใช้ชีวิตกับใครสักคนอย่าตัดสินคนอื่นจากสิ่งภายนอกหรือเพียงแวบแรกที่เห็น แม้ภาพลักษณ์จะเป็นสิ่งสำคัญกับชีวิตยุคใหม่ แต่อยากให้เปิดใจเพื่อลองทำความรู้จักตัวตนที่แท้จริงของแต่ละคน”

ข่าวล่าสุด

DITP พา 30 บริษัทไทยบุกจีนตะวันตก ปิดดีลอาหาร–สัตว์เลี้ยง 102 ล้าน