posttoday

ศ.ดร.ณัชชา พันธุ์เจริญ ผู้มีดนตรีและศิลปะในหัวใจ

29 มิถุนายน 2557

นับเป็นโชคดีที่ผมได้มีโอกาสสนทนากับ ศ.ดร.ณัชชา พันธุ์เจริญ อาจารย์ประจำสาขาวิชาดุริยางคศิลป์

โดย...วรธาร ทัดแก้ว ภาพ เสกสรร โรจนเมธากุล

นับเป็นโชคดีที่ผมได้มีโอกาสสนทนากับ ศ.ดร.ณัชชา พันธุ์เจริญ อาจารย์ประจำสาขาวิชาดุริยางคศิลป์ คณะศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผู้ซึ่งมีคุณูปการต่อวงการศึกษาดนตรีของประเทศไทยปรากฏอย่างเด่นชัด และเป็นที่รู้จักเป็นอย่างดีสำหรับผู้ที่อยู่ในวงการดนตรี ตลอดจนผู้ที่หลงรักดนตรี และโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่กำลังศึกษาด้านดนตรีไม่ว่าในสถาบันไหนๆ จะต้องมีตำราดนตรีของท่านใช้ในการเรียน โดยเฉพาะ “พจนานุกรมศัพท์ดุริยางคศิลป์” ซึ่งเป็นผลงานทรงคุณค่าต่อวงการศึกษาดนตรีของไทยอย่างมาก

นอกจากสอนหนังสือและเขียนตำราเป็นงานหลักแล้ว สิ่งหนึ่งที่อาจารย์ทำอยู่เสมอ เสมือนเป็นกิจวัตรประจำวัน คือ เล่นดนตรี กับเครื่องดนตรีที่โปรดคือ “เปียโน” เกือบทุกวัน กับน้องเกศ ลูกสาวผู้น่ารักคนเดียว ที่ปัจจุบันกำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 1 คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ศ.ดร.ณัชชา พันธุ์เจริญ ผู้มีดนตรีและศิลปะในหัวใจ

 

โดยอาจารย์มักจะเดี่ยวเปียโนเพลงไทยที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ ซึ่งท่านได้ใช้เวลากว่า 30 ปี ในการประยุกต์ใช้เทคนิคเปียโนคลาสสิกของตะวันตกจากความรู้ด้านทฤษฎีดนตรีที่เรียนจบจากอเมริกามาพัฒนาและขัดเกลาวิธีการบรรเลงจนเกิดเสียงเปียโนเพลงไทยที่มีลีลาและเอกลักษณ์เฉพาะ

แล้ว “เปียโน” นี้เอง ก็จึงเป็นเครื่องดนตรีที่อาจารย์ในวัย 56 ผู้นี้ ชอบเล่นมาตั้งแต่เด็กจนถึงวันนี้ และถือเป็นส่วนหนึ่งที่ไม่เพียงสร้างความสุขให้ชีวิต แต่ยังเป็นวิถีที่ทำให้ท่านสามารถสร้างสรรค์งานในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะงานเขียน งานสอน รวมถึงการทำสื่อต่างๆ ในการเผยแพร่ดนตรี ขึ้นมามากมายอย่างมีคุณภาพ

ศ.ดร.ณัชชา พันธุ์เจริญ ผู้มีดนตรีและศิลปะในหัวใจ

 

“พี่มีเปียโนอยู่ 4 ตัว จะบอกว่าเป็นของสะสมก็ไม่เชิง แต่เพราะความชอบในดนตรีและเล่นดนตรีมาแต่เด็ก ตั้งแต่อยู่โรงเรียนราชินี ทั้งเปียโน ทั้งซอสามสาย พอโตขึ้นมีงานทำก็พยายามที่จะหามาไว้เล่น ตอนนี้เก่าสุดอายุน่าจะ 100 กว่าปี ยี่ห้อกาโว (GAVEAU PARIS) ผลิตในประเทศฝรั่งเศส เมื่อ ค.ศ. 1906 คุณแม่และคุณตาซึ่งเป็นผู้พิพากษาซื้อให้ตั้งแต่พี่ยังเด็ก เพราะคุณตารักดนตรีและอยากให้ลูกหลานเรียนดนตรี ปัจจุบันเครื่องนี้แทบไม่ได้เล่น เพราะสภาพเก่าไปตามเวลา หายาก คิดว่ายี่ห้อนี้น่าจะไม่มีผลิตแล้ว

แต่ที่เล่นประจำ และบางครั้งก็นำออกไปเล่นคอนเสิร์ตด้วย คือ แกรนด์เปียโน ยี่ห้อสไตน์เวย์ (Steinway) รุ่น limited edition ผลิตแค่ 150 ตัว หมายเลข 9 อายุน่าจะไม่เกิน 10 ปี พี่ซื้อมาจากร้านโรบินสัน เปียโน ที่สยามดิสคัฟเวอรี่ ยี่ห้อนี้รู้จักทั่วโลกว่าเป็นเปียโนที่ดีที่สุด เชื่อกันว่าเกิน 95% ของคอนเสิร์ตฮอลล์ใช้ยี่ห้อนี้ ถ้าพี่ไปเล่นคอนเสิร์ตที่ไหนจะต้องยกตัวนี้ไป ยกเว้นที่ศูนย์วัฒนธรรมฯ จะใช้ของศูนย์ซึ่งเสียงก็ค่อนข้างโอเค แต่ตอนพี่เล่นที่จุฬาฯ เมื่อปีที่แล้วบริษัท สไตน์เวย์ ยกตัวใหญ่มาให้เล่นเลย

ศ.ดร.ณัชชา พันธุ์เจริญ ผู้มีดนตรีและศิลปะในหัวใจ

 

อีกตัวหนึ่งที่เล่นประจำ คือ เปียโนสีขาว ยี่ห้อสไตน์เวย์ เหมือนกัน รุ่น John Lennon, Limited Edition หมายเลข 3 จาก 25 ตัวทั่วโลก ในประเทศไทยมีตัวเดียว ที่ตัวเครื่องมีภาพลายเส้นฝีมือ จอห์น เลนนอน วาดตัวเองด้วย ส่วนตัวสุดท้าย คือเปียโนยามาฮ่า แต่เป็นยามาฮ่ารุ่นดี เป็นเดอะเบสต์เลย ตัวนี้พิเศษอยู่ที่อาจารย์ ดร.สุวรรณา วังโสภณ เฮดใหญ่ของยามาฮ่า รู้ว่าพี่อยากได้ก็ให้คนไปเลือกจากโกดังที่ญี่ปุ่นมาเลย” อาจารย์ณัชชา ให้ข้อมูลเครื่องดนตรีที่ชื่นชอบ

อย่างไรก็ตาม อาจารย์ณัชชา ย้ำว่า การเล่นดนตรีคุณภาพถือเป็นเรื่องสำคัญมาก เหมือนกับงานศิลปะทุกขั้นตอนที่ยอมให้มีจุดบกพร่องไม่ได้เลย เพราะจะทำให้งานโดยรวมเสียหมด แต่หากถามถึงความภาคภูมิใจในการเล่นเปียโน อาจารย์บอกต้องย้อนไปในปี 2523 สมัยเป็นนักเรียนทุน ก.พ. เรียนด้านดนตรีที่สหรัฐอเมริกา ได้เล่นเปียโนถวาย สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เมื่อครั้งที่เสด็จฯ เยือนสหรัฐอเมริกา

ศ.ดร.ณัชชา พันธุ์เจริญ ผู้มีดนตรีและศิลปะในหัวใจ

 

นอกจากเปียโนแล้วอาจารย์ยังชื่นชอบและสะสมภาพศิลปะอีกด้วย โดยภาพที่ได้มามีทั้งซื้อเองและศิลปินชื่อดังของประเทศมอบมาด้วยสัมพันธภาพและกัลยาณมิตรที่ดีต่อกัน ซึ่งล้วนแล้วแต่ทรงคุณค่า ราคาสูง และหาซื้อที่ไหนไม่ได้เพราะมีเพียงภาพเดียวเท่านั้น โดยถูกประดับตกแต่งอยู่ในบ้านที่เป็นดังห้องแสดงผลงานศิลปะ

ภาพวาด “โสมส่องแสง” ด้วยสีอะครีลิกบนผ้าใบ 200x250 เซนติเมตร ผลงานจิตรกรรมของ ศ.ปรีชา เถาทอง ศิลปินแห่งชาติ ถือเป็นหนึ่งในผลงานที่อาจารย์ชอบมาก และที่สำคัญเป็นภาพที่อาจารย์ปรีชาลงทุนลงแรงตั้งใจวาดให้ฟรีๆ อีกด้วย โดยอาจารย์ณัชชาได้อธิบายความพิเศษของภาพนี้ว่า เป็นภาพวาดชิ้นแรกที่อาจารย์ปรีชาสร้างเรื่องราวเกี่ยวกับดนตรี เป็นภาพแรกที่วาดเครื่องดนตรี เป็นภาพแรกที่วาดนางอัปสร และเป็นภาพแรกที่อาจารย์ปรีชาใช้แสงเงาจากพระจันทร์ ซึ่งต่างจากภาพวาดในอดีตที่ใช้แสงเงาจากพระอาทิตย์

ศ.ดร.ณัชชา พันธุ์เจริญ ผู้มีดนตรีและศิลปะในหัวใจ

 

“ภาพนี้จึงเป็นภาพต้นแบบในการสร้างงานจิตรกรรมชิ้นต่อๆ มา ซึ่งใช้แสงเงาจากพระจันทร์ โดยอาจารย์ปรีชาได้กำหนดเรื่องราวให้มีนางอัปสร 8 องค์ เล่นเครื่องดนตรีไทยชนิดต่างๆ บนสวรรค์ มีพระจันทร์อยู่ฟากหนึ่ง และพระอาทิตย์อยู่อีกฟากหนึ่ง อันหมายถึงการบันทึกงานดุริยางคศิลป์ที่ไม่มีกลางวันกลางคืน แต่เป็นงานสร้างสรรค์ที่เกิดขึ้นได้ตลอดเวลาทั้งวันทั้งคืน

จุดเด่นของภาพ คือ นางอัปสรที่สีซอสามสาย คือ องค์ที่ 3 อาจารย์ปรีชากำหนดให้เป็นสัญลักษณ์ของพี่ (อาจารย์ณัชชา) แสงเงาจากพระจันทร์ลอดใบไม้ ผ่านผนังลายทองบรรจบแสงเงาสิ้นสุดที่ร่างนางอัปสรที่สีซอสามสายซึ่งลืมตา (องค์อื่นๆ หลับตา) ขึ้นเป็นสัญลักษณ์ของการเกิดภูมิปัญญา ส่วนตู้ลายรดน้ำปิดทองขนาดใหญ่ซึ่งวางอยู่กึ่งกลางภาพเป็นสัญลักษณ์ของคลังแห่งปัญญา เป็นปัญญาแห่งดุริยางคศิลป์ลวดลายของตู้ลายรดน้ำมีความวิจิตรประณีตอย่างยิ่ง ซึ่งสะท้อนความงดงามของงานดุริยางคศิลป์ที่สรรค์สร้างขึ้นด้วยจิตวิญญาณและความพิถีพิถัน”

ศ.ดร.ณัชชา พันธุ์เจริญ ผู้มีดนตรีและศิลปะในหัวใจ

 

อาจารย์ณัชชา เล่าว่า ภาพนี้อาจารย์ปรีชาใช้เวลาทั้งสิ้น 4 เดือน ในการคิดเรื่องราว ร่างภาพ และลงมือวาด เสร็จสมบูรณ์เมื่อวันที่ 27 เม.ย. 2554 ซึ่งเป็นวันคล้ายวันเกิดของอาจารย์ปรีชา

นอกจากภาพวาดของ ศ.ปรีชา เถาทอง ศิลปินแห่งชาติ ยังมีภาพของศิลปินชื่อดังท่านอื่นๆ มากมายล้วนงดงามและทรงคุณค่าทั้งสิ้น เช่น ภาพวาดของ ศ.กำจร สุนพงษ์ศรี ศ.ดร.วิรุณ ตั้งเจริญ ศ.พิษณุ ศุภนิมิตร อาจารย์สวัสดิ์ ตันติสุข ศิลปินแห่งชาติและราชบัณฑิต ผศ.ถาวร โกอุดมวิทย์ รศ.ญาณวิทย์ กุญแจทอง รศ.จิระพัฒน์ พิตรปรีชา ศ.วิบูลย์ ลี้สุวรรณ ราชบัณฑิต อาจารย์สงัด ปุยอ๊อก และ รศ.สุขุมาล เล็กสวัสดิ์

ศ.ดร.ณัชชา พันธุ์เจริญ ผู้มีดนตรีและศิลปะในหัวใจ

 

ดร.ณัชชา ผู้สร้างความเจริญแก่วงการศึกษาดนตรี

ปี 2521 ได้รับทุนรัฐบาลไทยไปศึกษาที่สหรัฐอเมริกา สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี ด้านการแสดงเปียโน ปริญญาโทและปริญญาเอกด้านทฤษฎีดนตรีสากล

ปี 2528 รับราชการเป็นอาจารย์สาขาวิชาดุริยางคศิลป์ตะวันตก คณะศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ถึงปัจจุบัน

ปี 2547 ได้รับการคัดเลือกเป็นภาคีสมาชิกแห่งราชบัณฑิตยสถาน

ปี 2548 ได้รับโปรดเกล้าฯ ตำแหน่งศาสตราจารย์ และได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์สายสะพายชั้นสูงสุด “มหาปรมาภรณ์ช้างเผือก” ในปี 2554

ตั้งแต่ปี 2542 ถึงปัจจุบันได้ผลิตหนังสือและตำราทางดนตรีรวมเกือบ 20 เล่ม รวมถึงพจนานุกรมศัพท์ดุริยางคศิลป์ด้วย ถ้ารวมยอดพิมพ์อยู่ที่กว่าแสนเล่ม

ศ.ดร.ณัชชา พันธุ์เจริญ ผู้มีดนตรีและศิลปะในหัวใจ

 

ปี 2554 ได้จัดตั้งสำนักเดี่ยวเปียโนเพลงไทยขึ้น เพื่อรื้อฟื้นอนุรักษ์พัฒนาต่อยอดศาสตร์การเดี่ยวเปียโนเพลงไทยตามขนบราชสำนักในรัชกาลที่ 6 และถ่ายทอดศาสตร์การเดี่ยวเปียโนเพลงไทยแก่นักเปียโนฝีมือดีจำนวนหนึ่ง เพื่อสืบสานสมบัติชิ้นสำคัญของชาติ รวมทั้งจัดพิมพ์โน้ตเพลงสำหรับเดี่ยวเปียโนชุดประวัติศาสตร์ชื่อ “วรรณกรรมเปียโนแห่งกรุงสยาม” อันเป็นส่วนหนึ่งของการอนุรักษ์สมบัติของชาติเพื่อเผยแพร่ในระดับสากล

ปี 2555 ได้ออกคอนเสิร์ตการแสดงเดี่ยวเปียโนเพลงไทย 2 รอบ และแสดงร่วมกับศิษย์สำนักเดี่ยวเปียโนเพลงไทยอีก 1 รอบ ที่หอแสดงดนตรีของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ปี 2556 ได้ออกรายการดนตรีกวีศิลป์ ทางสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ตอน ตำนานการเดี่ยวเปียโนเพลงไทย บันทึกรายการที่พระราชวังพญาไท สถานที่ที่เป็นต้นกำเนิดของการบรรเลงเปียโนเพลงไทย

ปี 2556 ได้รับรางวัลเมธีวิจัยอาวุโส สกว. สาขาดุริยางคศิลป์ เป็นอาจารย์สาขาดุริยางคศิลป์คนแรกของประเทศที่ได้รับรางวัลนี้ ฯลฯ

ข่าวล่าสุด

ผลบอล โยเคเรสซัดโทษ! อาร์เซน่อล1-0 เอฟเวอร์ตัน,ลิเวอร์พูล 2-1