posttoday

เป็นคนกลางช่างลำบากใจ

10 มิถุนายน 2557

โดย...กองทรัพย์ / ภาพ จากภาพยนตร์ Like Father, Like Son

โดย...กองทรัพย์ / ภาพ จากภาพยนตร์ Like Father, Like Son

สถานการณ์ : "นัท" ส่งลูกชายวัย 4 ขวบ เข้าโรงเรียนเล็กๆ ในละแวกบ้าน แต่เนื่องจากเธอเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวและต้องทำงานฟูลไทม์ และยังต้องเดินทางออกต่างจังหวัดบ้าง ลูกชายคนเดียวจึงอยู่กับคุณยายเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งท่านก็รักและตามใจหลานชายมาก ช่วงเปิดเทอมใหม่หลังจากกลับจากโรงเรียนเด็กน้อยก็มาเล่าเรื่องที่โรงเรียนให้ฟังเป็นประจำ เล่าถึงครู ถึงเพื่อน เล่าเรื่องอาหารที่โรงเรียนบ้าง เรื่องราวก็ดูเหมือนจะดี น้องก็ดูเข้ากับคนอื่นๆ ได้ไม่มีปัญหา

 แต่เหตุมันเริ่มเกิดขึ้นในวันที่คุณยายไปส่งหลานชายหัวแก้วหัวแหวน แล้วเกิดไปเคี่ยวเข็ญคุณครูทั้งเรื่องอาหาร เรื่องนอนกลางวัน พูดกับครูทุกครั้งที่ไปโรงเรียน ซึ่งครั้งแรกๆ คุณครูอาจจะยังไม่รู้สึก กระนั้นนัทก็ยังรู้สึกเกรงใจคุณครูอยู่ดี เกรงจะถูกมองว่าเป็นผู้ปกครองเรื่องเยอะ แม้จะไม่กล้าปล่อยให้คุณยายไปรับส่งหลานอีก แต่ก็กลัวท่านจะงอน แต่ถ้าไม่พูดก็เกรงว่าลูกชายที่กำลังจะปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่ๆ และคุ้นเคยกับระเบียบวินัยของทางโรงเรียนได้แล้ว จะถูกคุณยายสปอยล์จนเสียเด็กไป

ทางออก : ปัญหาโลกแตกของคนที่ต้องตกอยู่ในสถานะที่ต้องเป็นคนกลาง คือ การตกอยู่ในสถานการณ์น้ำท่วมปาก ที่ไม่สามารถบอกหรือพูดอะไรได้ เพราะคนที่อยู่ตรงหน้าทั้งสองฝ่ายต่างก็เป็นคนที่เรารักและปรารถนาดีด้วยทั้งนั้น หนักอกหนักใจคิดว่าถ้าหากพูดหรือเตือนไปเขาจะโกรธเราไปเสียอีก กรณีของคุณนัทไม่ใช่เหตุการณ์แรกที่ลำบากใจ เราพบเจอเหตุการณ์แบบนี้ได้แทบทุกครอบครัว ยกตัวอย่างสุดคลาสสิก ก็คือ ปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างแม่สามีกับลูกสะใภ้ก็สร้างเรื่องราวมานักต่อนักแล้ว สำหรับกรณีที่คุณยายที่รักและหวงหลานมาก เราก็เข้าใจได้ เพราะว่าท่านเลี้ยงมาเอง เลยอาจจะดูเยอะไปหน่อย จนทำให้คุณแม่เกรงจะสร้างความไม่สบายใจแก่คุณครูก็มีให้เห็นอยู่

 ถ้าตอบในมุมของคุณครู แน่นอนว่าครูเองก็คงไม่ชอบใจนักที่ถูกตำหนิ หรือมีคำถามคาดคั้นต่อหน้าคนหมู่มาก เพราะถ้าเขาทำงานในหน้าที่ครูได้ดีที่สุดแล้ว ก็คงอึดอัดใจพอสมควรทีเดียว แต่อย่างไรก็ตามเหตุการณ์เช่นนี้ก็เกิดขึ้นได้ทุกวัน เพราะผู้ปกครองก็มีหลากหลายรูปแบบ น้อยไปชนิดที่โยนภาระทั้งหมดให้ครูและโรงเรียนก็มี มากไปจนแทบจะมาเรียนกับลูกหลานก็มีไม่น้อย เหตุการณ์เช่นนี้จึงเป็นเรื่องปกติที่ครูทำใจว่าต้องเจอและเตรียมวิธีรับมือกับผู้ปกครองไว้หลากหลายรูปแบบ

 เพราะฉะนั้นคุณแม่ไม่ต้องกังวลจนเกินไปนักในระยะสั้น แต่ก็ควรมีวิธีแก้ไขแบบบัวไม่ให้ช้ำน้ำไม่ให้ขุ่นในระยะยาวด้วย เช่น อาจจะต้องนัดเจอกับคุณครูนอกรอบหรือในเวลาที่สะดวกทั้งสองฝ่าย เพื่อพูดคุยกันแบบเปิดใจถึงความต้องการของทางบ้านและโรงเรียน แล้วหาจุดที่สมดุลกัน คุยกับครูว่าขอเวลาให้คุณยายสักระยะเพื่อปรับตัวให้ชินกับการที่หลานต้องห่างจากอก คิดว่าคุณครูอนุบาลจะเข้าใจ จากนั้นก็ต้องมาเจรจาหย่าศึกกับคุณยาย

 แม่เลี้ยงเดี่ยวที่ทำงานฟูลไทม์ แล้วลูกอยู่กับคุณยายเป็นส่วนใหญ่ก็ต้องเข้าใจในมุมของคุณยายด้วยนะคะ เพราะหลานชายคนเดียวแถมเลี้ยงมาเองเสียด้วย ก็ต้องหวงและห่วงเป็นธรรมดา การห้ามไม่ให้ท่านไปรับส่งหลานก็ออกจะใจร้ายเกินไป เราต้องคุยกับคุณยายด้วยวิธีที่นุ่มนวลที่สุด ว่าเราไม่ได้ห้ามเรื่องการไปส่งที่โรงเรียน แต่อธิบายให้ท่านเข้าใจว่าหลานจะต้องออกไปเจอะเจอกับโลกภายนอก เรียนรู้และอยู่ในสภาพแวดล้อมใหม่ๆ และต้องมีเพื่อน เราจึงไม่สามารถกางปีกปกป้องเขาไปได้ตลอด และที่สำคัญโรงเรียนมีกฎระเบียบที่เราต้องเคารพ ต่อให้ท่านอีโก้สูงยังไงก็ต้องเข้าใจกติกามารยาท แต่กรณีที่ท่านยังไม่ยอมฟังก็คงต้องประนีประนอมกันไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเจอทางสายกลาง

 ปัญหาแบบนี้ถ้ายิ่งเงียบ ปัญหายิ่งสะสม นานไปจะแก้ไม่ตก ทางที่ดีควรเจรจาตั้งแต่วันที่เรามองเห็นปัญหาจะดีกว่าค่ะ

A.นพ.พันธ์ศักดิ์ ศุกระฤกษ์ ผู้อำนวยการด้านการแพทย์ ศูนย์ส่งเสริมสุขภาพไวทัลไลฟ์ ในเครือโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ กล่าวว่า "คุณก็ทราบดีว่าความรักนั้นไม่ได้มีอายุมาขีดขั้น ไม่มีหน้าที่การงานหรือระยะทางมากั้นขวาง คนรักกันยังไงก็จะต้องหาหนทางที่จะรักกันให้ได้ อย่างไรก็ตามคุณน่าจะมองในอีกด้านหนึ่ง คือแทนที่จะรำคาญว่าทำไมต้องมาปรึกษาเรื่องที่ไม่อยากรับฟัง แต่ให้มองว่าคุณน่าจะเป็นที่พึ่งที่ทำให้เธอผู้นั้นซึ่งตกอยู่ในบ่วงของความรักได้มีที่ปรึกษา ส่วนจะให้ปรึกษาแบบไหนนั้นยึดหลักว่า อะไรที่ควรบอกก็บอกไป อะไรที่คิดว่าจะทำให้เธอไม่สบายใจก็เลี่ยงๆ ไปเสีย และถ้าเธอมีปัญหาเรื่องความรักที่ไม่สามารถจะแก้ไขได้ และคุณเองไม่สบายใจที่จะบอกเธอ ก็แนะนำให้เธอโทรศัพท์ไปที่เบอร์โทรของกรมสุขภาพจิต ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นเบอร์ 1667 จะมีผู้เชี่ยวชาญพร้อมจะให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์ แบบนี้เธอก็จะมีทางออก และคุณเองก็จะได้บุญที่ช่วยเหลือคนที่กำลังมีความไม่สบายใจให้มีความสุขมากขึ้น เรียกว่าขอให้ใช้ความเมตตาและกรุณาต่อเพื่อนของคุณคนนั้น และเมื่อมีใจที่เมตตาแบบนี้ คุณก็จะเกิดความสุขมากขึ้นและอาจมีผลบุญที่ตามไปช่วยเหลือคุณในเรื่องอื่นๆ ในภายหลังด้วยก็ได้ ใครจะรู้ มีโอกาสช่วยใครก็ช่วยไปเถิด"

He said / She Said

แมต-ธุรกิจส่วนตัว

"ชอบสาวที่มีความคิด ความอ่านเป็นของตัวเอง มีอารมณ์ศิลป์ และทำอะไรแบบตั้งใจครับ"

 "ชอบหนุ่มที่มีลักษณะความเป็นผู้นำ จริงๆ และชอบทหารค่ะ มีระเบียบวินัย และก็ดูดีเมื่ออยู่ในเครื่องแบบค่ะ"

Quote

 "ตอนเด็กๆ ฉันกลัวว่าจะไม่สูง ฉันต้องการสูงกว่านี้ตลอดเวลา แต่พอฉันสูงสัก 5 ฟุต 1 นิ้ว (ประมาณ 155 ซม.) ฉันก็โอเคแล้วล่ะ"

--ทาร่า ลิปินสกี้ นักฟิกเกอร์สเกต แชมป์โอลิมปิก

 

ข่าวล่าสุด

โปรแกรมบอลวันนี้ ดูบอลสด ถ่ายทอดสด บอลวันนี้ วันเสาร์ที่ 20 ธ.ค. 68