ยูนิ โยชิดะ สาวอาร์ตจากโตเกียว

โดย...พุสดี สิริวัชระเมตตา ภาพ : ทวีชัย ธวัชปกรณ์

ในวัยเพียง 32 ปี ยูนิ โยชิดะ เธอก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งอาร์ต ไดเรกเตอร์ และดีไซเนอร์ เป็นเจ้าของบริษัทของตัวเองในวัยเพียง 27 ปี มีผลงานโดดเด่นในหลากหลายประเภท ทั้งหน้าปกซีดี ลวดลายบนเสื้อแจ็กเกต ออกแบบโลโก้ ออกแบบแมกกาซีน และทำโฆษณา เธอออกปากว่า ตารางชีวิตของเธอในแต่ละวันแน่นมาก บางวันเธออาจต้องทำงานถึง 8 ชิ้นเลยทีเดียว

อะไรคือพลังที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังผู้หญิงตัวเล็กคนนี้ อะไรทำให้เติบโตในสายงานที่ต้องอาศัยความคิดสร้างสรรค์เป็นตัวนำได้อย่างสวยงาม ถ้าพร้อมแล้ว ไปตามหาพลังที่ว่ากัน

ฉันตกหลุมรักศิลปะทั้งที่ยังไม่รู้จักความรัก

ยูนิ เดินทางมาร่วมงานสัมมนา “Graphic Passport in Bangkok” โดยศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (ทีซีดีซี) เล่าให้ฟังว่า ตั้งแต่เด็กเธอก็เข้ามาอยู่ในโลกของศิลปะแล้ว ชอบประดิษฐ์สิ่งของ วาดรูป หยิบจับเอาสิ่งของจุกจิกที่พบเห็นในชีวิตประจำวันมาประกอบกันเป็นรูป บางครั้งก็ทำของเล่นเองด้วย

ดังนั้น เมื่อเข้าเรียน ม.ต้น เธอก็เข้าเรียนที่โรงเรียนสอนศิลปะโดยตรง เพราะชัดเจนในใจตั้งแต่เด็กว่าโตขึ้นอยากทำงานที่ได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์เกี่ยวข้องกับศิลปะ แต่ตอนเด็กๆ ยังไม่รู้ว่าอะไรคือการทำงานเกี่ยวกับกราฟฟิกดีไซน์

 

“พอเข้ามหาวิทยาลัย ฉันเลือกเรียนด้านโฆษณา เพราะคิดว่าเป็นสาขาที่น่าสนใจ และตัดสินใจเริ่มงานแรกในฐานะกราฟฟิกดีไซเนอร์ ซึ่งอาชีพนี้สำหรับฉันคือการสร้างสรรค์ผลงานที่ต้องถ่ายทอดความคิดให้คนทั่วไปดูแล้วเข้าใจสิ่งที่ต้องการสื่อออกมา ที่สำคัญในการสร้างงานทุกชิ้นไม่ใช่แค่ทำให้ตัวเองพอใจ โดยเฉพาะถ้าเป็นงานโฆษณาหรือสินค้า ต้องเน้นนำเสนอเสน่ห์ของแบรนด์ออกมาให้ได้มากที่สุด”

ยูนิ บอกว่างานที่ดีคือใช้สินค้าเป็นตัวนำ ไม่ใช่คนออกแบบเป็นตัวนำ เธอบอกว่าอาจารย์ที่เธอนับถือมากและเป็นแรงบันดาลใจให้เธออยากทำอาชีพนี้ มักจะสร้างสรรค์ผลงานที่เน้นตัวสินค้า ใช้สิ่งที่จะสื่อกลบตัวตนของผู้ออกแบบไว้

“พูดแบบนี้ไม่ได้หมายความว่าต้องลดความเป็นตัวเองในการสร้างสรรค์ชิ้นงาน เพราะแต่ละคนย่อมมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของตัวเอง เพียงแต่ต้องพยายามนำเสนอโดยไม่ให้โดดเด่นจนเกินหน้าชิ้นงาน”

ถามว่าอะไรคือลายเซ็นประจำตัวที่ใส่ลงไปในงาน ยูนิ บอกว่า เธอเน้นการสร้างงานที่เห็นแล้วไม่ลืม ดูแล้วติดตา ดูหลายครั้งก็ไม่เบื่อ และทุกครั้งที่ได้ดู จะพบกับประสบการณ์ใหม่ๆ ที่แตกต่าง เพราะได้พบกับความสนุกที่ซ่อนอยู่

“เป็นเรื่องยากมากในการสร้างสรรค์งานแบบที่บอกมา เพราะฉะนั้นฉันต้องคอยมองหาอะไรใหม่ๆ ตลอดเวลา เพื่อให้งานของตัวเองที่ออกมาไม่ซ้ำใคร

 

โอกาสมาถึงก่อนได้ตั้งตัว

ย้อนมาที่จุดเริ่มต้นของถนนสายดีไซเนอร์และอาร์ตไดเรกเตอร์ เธอบอกว่าเริ่มงานแรกหลังจากเรียนจบมา เพราะได้รับการทาบทามจากอาจารย์ที่เคารพ พอทำได้ 3 ปี ก็ออกมาหุ้นกับเพื่อนเปิดบริษัท แต่ปรากฏว่าเกิดเหตุไม่คาดฝัน หุ้นส่วนเสียชีวิต เลยเป็นช่วงที่ต้องถามตัวเองเยอะว่าจะทำอย่างไรต่อดี จะเดินหน้าต่อหรือปิดบริษัทไปหางานใหม่ทำ

“ตอนนั้นฉันก็ยังไม่เห็นว่ามีบริษัทไหนที่สนใจอยากเข้าไปร่วมงานด้วย แต่จะทำต่อไปเองก็คงหนัก ชีวิตช่วงนั้นสับสนมากๆ แต่ตอนนั้นฉันเพิ่งอายุ 27 ปี ก็บอกกับตัวเองว่า ถ้าเริ่มต้นแล้วล้ม ไปไม่ไหว ก็คงไม่เป็นไร ยังมีเวลาให้เริ่มต้นใหม่ ฉันเริ่มตัดสินใจมองมุมใหม่ว่า นี่คือภารกิจที่ท้าทาย น่าลอง จึงตัดสินใจเดินหน้าทำบริษัทของตัวเอง”

พอได้มาลองทำธุรกิจของตัวเองแบบเต็มตัว ยูนิ ยอมรับว่า ยากมาก เพราะต้องสร้างสรรค์ผลงานและบริหารไปพร้อมกัน

“ฉันรู้สึกว่าตัวเองได้ใช้หัวสมองทั้งสองด้าน ทั้งด้านที่เป็นศิลปะในการสร้างผลงาน และด้านที่อาศัยเหตุผลในการทำธุรกิจ แต่สุดท้ายฉันก็ผ่านมาได้ มีบางวันเหมือนกันที่หัวตันๆ เพราะงานเยอะมาก ฉันก็มีวิธีผ่อนคลายส่วนตัวด้วยการทำอย่างอื่นที่ไม่เกี่ยวกับงาน ออกไปเดินเล่น นั่งรถไฟไปเรื่อยๆ แบบไม่มีจุดหมาย เวลาเห็นอะไรน่าสนใจฉันจะเก็บไว้ในความทรงจำ ในหัวของฉัน” ยูนิ กล่าวทิ้งท้าย

เอาใจเขามาใส่ใจเรา หัวใจของอาชีพนี้

กุญแจดอกสำคัญที่ทำให้ประสบความสำเร็จในสายงานนี้ ยูนิ มองว่า ต้องเอาใจเขามาใส่ใจเรา มองทุกผลงานด้วยสายตาของคนหลากหลายอาชีพ หลากหลายสถานะ ไม่ใช่มุมมองของดีไซเนอร์เท่านั้น ถ้าเป็นดีไซเนอร์ที่ออกแบบสินค้า นอกจากจะมองว่าสวยแล้ว ต้องมองในมุมของคนที่ซื้อมาใส่ด้วย

นอกจาก ยูนิ จะมีผลงานมากมายแล้ว เธอยังมีโอกาสได้ร่วมงานในโปรเจกต์ใหญ่กับแบรนด์ระดับโลกด้วย หนึ่งในผลงานที่ภาคภูมิใจของเธอ คือการได้ร่วมงาน Mercedes Benz Fashion Week ในกรุงโตเกียว ได้ออกแบบการ์ดเชิญให้กับหลุยส์ วิตตอง ผลิตงานโฆษณาให้กับห้างลาโฟเร็ท และแบรนด์เสื้อผ้าฮ่องกง b+ab ซึ่งเธอบอกว่า ทุกงานเธอทำด้วยความตั้งใจ และหวังว่าในอนาคตจะได้มีโอกาสร่วมงานกับแบรนด์ระดับโลกเช่นนี้อีก