อุดรฯ 121 ปี 4 ธรรม
เมื่อต้นเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา จ.อุดรธานี ร่วมกับสายการบินนกแอร์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
โดย...แรมสองค่ำ
เมื่อต้นเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา จ.อุดรธานี ร่วมกับสายการบินนกแอร์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดการแข่งขันปั่นจักรยาน 121 กม. ไปกลับ อุดรฯหนองคาย เนื่องในโอกาสที่ จ.อุดรธานี มีอายุครบ 121 ปี โอกาสเดียวกับงานรำบวงสรวงเมื่อเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา ที่ได้รับการบันทึกเป็นสถิติโลก (Guinness World Record) ว่ามีคนมารำบวงสรวงพร้อมกันมากที่สุด จำนวน 5,121 คน (แต่ในงานมีคนกว่า 2.6 หมื่นคน มาร่วมรำ)
จ.อุดรธานี ผ่านเหตุการณ์สำคัญมามากมาย ทั้งในสมัย ร.ศ. 112 ได้เป็นที่ตั้งกองทัพไทย นำโดย พล.ต.พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม ตามสนธิสัญญาไทยฝรั่งเศส ต่อมาก็เป็นที่ตั้งของกองกำลังทหารสหรัฐเมื่อครั้งสงครามเวียดนาม และปัจจุบัน จ.อุดรธานี เป็นศูนย์กลางลุ่มแม่น้ำโขง ด้วยภูมิประเทศที่อยู่ตรงกลางเมื่อลากเส้นผ่าน 6 ภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ทำให้เศรษฐกิจในจังหวัดเติบโตเป็นอันดับหนึ่งในประเทศไทย มีแรงงานมีฝีมือจำนวนมากติดอันดับหนึ่งของจังหวัดที่ส่งแรงงานมีฝีมือไปต่างประเทศ และทำให้ประชากรมีความหลากหลายทางชาติพันธุ์อย่างน้อย 4 ชาติพันธุ์ ได้แก่ ภูไทยหรืออีสานดั้งเดิม ไทยพวนหรือลาว จีน และญวนหรือเวียดนาม
วัฒนธรรมของทั้ง 4 ชาติพันธุ์ เป็น 1 ใน “ธรรม” ที่ จ.อุดรธานี มี ตามที่นายกอบเกียรติ กาญจนะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี กล่าวถึง “สี่ธรรม” ว่า ธรรมแรกคือ “ธรรมะ” จากองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า หลวงปู่มั่น หลวงตามหาบัว หลวงปู่ทองใบ และพระสายวัดป่าอีกหลายท่านในจังหวัด รวมถึงวัดสำคัญอย่างวัดโพธิสมภรณ์ พระบรมธาตุธรรมเจดีย์ และวัดป่าภูก้อน ที่ได้รับเลือกเป็น 1 ใน 10 ดรีมเดสติเนชั่นของไทย (Dream Destination)
ธรรมสองคือ “ธรรมชาติ” เช่น สวนสาธารณะหนองประจักษ์ เป็นธรรมชาติที่มนุษย์สร้างขึ้นเพื่อเป็นปอดของเมืองและเป็นสถานที่ออกกำลังกายของคนเมือง ด้วยทางวิ่ง 3.4 กม. ทางจักรยานรอบหนองที่แยกจากทางวิ่งชัดเจน และมีชมรมออกกำลังกายต่างๆ มาทำโยคะและเต้นแอโรบิกกันทุกวัน นอกจากนี้ หนองน้ำที่เป็นธรรมชาติจริงๆ อยู่ที่ทะเลบัวแดง หนองหานกุมภวาปี เป็นหนองน้ำจืด 2.4 หมื่นไร่ ที่ทุกเดือน ธ.ค.ก.พ.บัวแดงจะออกดอกกลายเป็นทะเลบัวแดงสุดลูกหูลูกตา
ธรรมสามคือ “อารยธรรม” แหล่งอารยธรรมโบราณอย่างอุทยานประวัติศาสตร์บ้านเชียง ได้รับขึ้นเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก (UNESCO) และปัจจุบันทางจังหวัดจะพัฒนาอุทยานแห่งชาติภูพระบาทให้ป็นมรดกโลกต่อไป
ธรรมสุดท้ายคือ “วัฒนธรรม” จ.อุดรธานี มีวัฒนธรรมที่หลากหลายทั้งภูไทย ไทยพวน ญวน และจีน เช่น ศาลเจ้าปู่ย่าและพิพิธภัณฑ์ไทยจีน สถานที่ที่แสดงถึงความเข้มแข็งของกลุ่มคนจีนและสายสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับคนไทย บ้านลุงโฮที่บ้านหนองฮางเพื่อแสดงให้เห็นชีวิตอันสมถะและความเข้มแข็งของชาวเวียดนามที่จะไปกอบกู้ชาติ พิพิธภัณฑ์ไทยพวนที่ อ.บ้านผือ ถ่ายทอดวิถีชีวิตเรียบง่าย เช่น การเลี้ยงไหม ปลูกหม่อน และสุดท้ายคือชุมชนชาวภูไทใน อ.วังสามหมอ ชาวอีสานดั้งเดิมที่ตั้งถิ่นฐานมาเนิ่นนานและยังคงรักษาธรรมเนียมของชาวภูไทไว้ เช่น การแต่งกายด้วยผ้าซิ่นไหมมัดหมี่ เป็นต้น
ทั้งสี่ชาติพันธุ์หลอมรวมวัฒนธรรมกลายเป็นชาวไทย จ.อุดรธานี อยู่อาศัยร่วมกันและแก่เฒ่าไปด้วยกัน รองผู้ว่าฯ ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า “ปัจจุบัน จ.อุดรธานี ก้าวเข้าสู่เมืองผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์แบบ” คือมีจำนวนผู้สูงวัยที่มีอายุมากกว่า 60 ปีกว่า 1.9 แสนคน หรือร้อยละ 12.2 ของประชากรใน จ.อุดรธานี ซึ่งทางจังหวัดได้รองรับเรื่องนี้ด้วยการสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่เอื้อต่อผู้สูงวัย เช่น ห้องน้ำ ทางลาดตามสถานที่ราชการต่างๆ และสิทธิพิเศษสำหรับคนที่มีอายุมากกว่า 70 ปี ไม่ต้องต่อคิวในสถานพยาบาลทุกแห่งในจังหวัด นอกจากนี้ ท่านรองผู้ว่าฯ ยังมองคนกลุ่มนี้ว่าเป็น “โอกาส” เพราะเป็นวัยบริโภคที่ยินดีใช้จ่ายเงินเพื่อสุขภาพและความสุขของชีวิต
เดือนนี้ (พ.ค.) ได้มีการแข่งขันปั่นจักรยาน 121 กม.ไปแล้ว เดือนหน้า มิ.ย. ทางจังหวัดจะมีกิจกรรมปลูกต้นทองกวาว 122 ต้น ซึ่งเป็นดอกไม้ประจำจังหวัดบริเวณหน้าศาลากลางและทุ่งศรีเมือง และเมื่อถึงเดือน ม.ค.ปีที่ทองกวาวเป็นสาวพอ นางจะออกดอกสีแสดสะพรั่งพร้อมกันใจกลางเมืองอุดรธานี เป็นแผนการล่วงหน้าที่นอกจากเพื่อเฉลิมฉลองเมืองแล้ว ไม้ใหญ่ร้อยกว่าต้นจะช่วยหนองประจักษ์ฟอกอากาศในเมืองที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว


