ลายแทงแห่งการเตรียมตัวตาย (จบ)
คนที่เจริญมรณัสสติอยู่เสมอนั้น จะได้รับผลทันตา คือ ไม่ประหวั่นพรั่นพรึงต่อความตาย
โดย...ว.วชิรเมธี ผู้อำนวยการสถาบันวิมุตตยาลัย &<2288;
คนที่เจริญมรณัสสติอยู่เสมอนั้น จะได้รับผลทันตา คือ ไม่ประหวั่นพรั่นพรึงต่อความตาย จะหันกลับมาใช้เวลาทุกนาทีอย่างคุ้มค่า ไม่มีแม้สักวินาทีเดียวที่เขาจะพร่าผลาญเวลาไปอย่างไร้ประโยชน์ เขาจะถือว่าการฆ่าเวลาไปกับกิจกรรมอันไร้แก่นสารเป็นบาปชนิดหนึ่งซึ่งไม่พึงกระทำ ดังคำของพระบรมครูที่ว่า “ขโณ โว มา อุปจฺจคา” (อย่าปล่อยเวลาผ่านไปอย่างไร้ค่าเแม้เพียงขณะจิตเดียว) จะกลับมาดูแลตัวเองและบุคคลอันเป็นที่รักอย่างดีที่สุด โดยไม่ต้องรอให้เขาเหล่านั้นเจ็บไข้ได้ป่วยขึ้นมาเสียก่อน พวกเขาจะรู้จักแสวงหาเวลาที่มีคุณค่าระหว่างกันและกันอย่างคุ้มค่าที่สุด ผิว่าความตายด่วนมาพรากคนอันเป็นที่รักจากไป ก็ไม่มีอะไรต้องมานั่งเสียใจ เพราะต่างก็ได้ใช้เวลาคุณภาพร่วมกันมาอย่างดีที่สุดแล้ว ในแง่พฤติกรรมระหว่างวัน คนที่หมั่นเจริญมรณัสสติ ก็จะเลือกสรรทำแต่พฤติกรรมเชิงคุณภาพล้วนๆ ไม่พร่าผลาญเวลาไปกับการพยายามตามสนองกิเลสอย่างเหลวไหลไม่จบสิ้น
พระพุทธองค์ทรงสอนให้เราหมั่นระลึกถึงความตาย ไม่ใช่เพื่อจะให้กลัวตาย ไม่ใช่เพื่อจะให้หนีตาย แต่เพื่อที่จะให้เรารู้จักที่จะดำรงชีวิตอยู่ในปัจจุบันขณะอย่างดีที่สุด
หัวใจของการดำรงชีวิตอยู่อย่างดีที่สุด ก็คือ การดำรงชีวิตอยู่ด้วยความไม่ประมาท
ไม่ประมาทในอะไรเล่า?
1.ไม่ประมาทในชีวิต ว่าจะยืนยาว
2.ไม่ประมาทในวัย ว่ายังหนุ่มสาว
3.ไม่ประมาทในสุขภาพ ว่ายังแข็งแรง
4.ไม่ประมาทในเวลา ว่ายังมีอีกมาก
5.ไม่ประมาทในธรรม ว่าเอาไว้ก่อน วันหลังค่อยสนใจ
ใครก็ตามประมาทในเหตุทั้ง 5 ประการนี้ มักจะต้องมานั่งเสียใจทุกครั้ง เมื่อบุคคลอันเป็นที่รักต้องมาพลัดพรากจากไป หรือแม้กระทั่งวันหนึ่ง หากตัวเองจะต้องตายขึ้นมาบ้าง ก็มักจะต้องมานั่งบ่นเพ้อด้วยความเสียดายว่า “รู้อย่างนี้ ทำดีไปตั้งนานแล้ว” ดังนั้น หากเราไม่อยากเสียใจ ไม่อยากพลาดวันเวลาสำคัญของชีวิต ไม่อยากสูญเสียโอกาสในการได้ดำรงชีวิตอยู่กับบุคคลที่คู่ควรแก่การใส่ใจมากที่สุดในชีวิตนี้ ก็ควรหมั่นเจริญมรณัสสติอยู่เสมอ เพราะเมื่อเราใช้ชีวิตดังหนึ่งความตายกำลังกวักมือเรียกอยู่ข้างหน้าทุกขณะจิต เราจะเกิดความตระหนักรู้ว่า ชีวิตมีค่าแค่ไหน มารดรบิดา สามีภริยา ลูกแก้วเมียขวัญสำคัญเพียงไร สุขภาพเป็นสิ่งจำเป็นเพียงไร และทรัพย์สินศฤงคาร อำนาจราชศักดิ์เป็นเพียงสิ่งสมมติมายาเพียงชั่วคราวได้อย่างไร
ความตาย จะเป็นดั่งระฆังแห่งสติ ที่เตือนให้เรากลับมาดำรงอยู่กับความจริง และอยู่กับสิ่งที่เป็นแก่นสาร ทิ้งสิ่งที่เป็นเปลือกหรือหัวโขนของชีวิตอย่างรู้เท่าทัน
เมื่อยืนอยู่เบื้องหน้าของความตาย อะไรๆ ในโลก ก็กระจิริดไปเสียทั้งหมด
เราระลึกถึงความตาย เพื่อเข้าใกล้ชีวิตที่มีแก่นสารที่สุด
ดำรงอยู่อย่างคนที่ตื่นตัวและตื่นรู้ที่สุด
การระลึกถึงความตายแล้วเศร้าหมอง หดหู่ จึงไม่ใช่มรณานุสติที่ถูกต้อง
หากที่ถูกแล้ว พอระลึกถึงว่า ตนจะต้องตายในวันหนึ่ง จิตจะตื่นขึ้นมาตระหนักรู้ถึงสัจธรรม แล้วเร่งรีบกระทำแต่กรรมดี ใช้ชีวิตนี้อย่างคุ้มค่าที่สุด นี่ต่างหากคือ สัมมาทิฏฐิ (ความเข้าใจที่ถูกต้อง) และสัมมาปฏิบัติ (พฤติกรรมที่ถูกต้อง) อันเป็นผลโดยตรงจากการเจริญมรณานุสติ
“อะวัสสัง มะยา มะริตัพพัง”
“วันหนึ่ง เราจะต้องตาย”
“ชีวิตัง อนิจจัง”
“ชีวิตเป็นของไม่เที่ยง”
“มะระณัง เม ชีวิตัง”
“ความตายของเรา เป็นของเที่ยง”
ตระหนักรู้สัจธรรมอย่างนี้แล้ว พึงดำรงชีวิตด้วยความไม่ประมาท
ความชั่วต้องรีบหนี ความดีต้องรีบทำ
เพราะหากทำความดีช้าไป ผิว่าความตายมาพราก ก็จะมีแต่ความเศร้าและความเสียใจติดค้างอยู่ในใจไปตราบนานเท่านาน
แต่สำหรับบุคคลผู้ตื่นอยู่ หมั่นเจริญมรณานุสติอยู่เนืองๆ ดำรงชีวิตด้วยความไม่ประมาท ครั้นความตายมาถึงเข้า ย่อมไม่วิโยคตกใจ พร้อมเผชิญต่อความตาย ดังหนึ่งคนงานยืนรอเวลาเลิกงานด้วยใจยินดีปรีดา ถึงเวลาเมื่อไหร่ ก็พร้อมไปเมื่อนั้น
อะธุวัง ชีวิตัง, ชีวิตเป็นของไม่ยั่งยืน
ธุวัง มะระณัง, ความตายเป็นของยั่งยืน
อะวัสสัง มะยา มะริตัพพัง, อันเราจะพึงตายเป็นแท้
มะระณะปะริโยสานัง เม ชีวิตัง, ชีวิตของเรา มีความตาย เป็นที่สุด
ชีวิตัง เม อะนิยะตัง, ชีวิตของเรา เป็นของไม่เที่ยง
มะระณัง เม นิยะตัง, ความตายของเรา เป็นของเที่ยง
วะตะ, ควรที่จะสังเวช
อะยัง กาโย, ร่างกายนี้
อะจิรัง, มิได้ตั้งอยู่นาน
อะเปตะวิญญาโณ, ครั้นปราศจากวิญญาณ
ฉุฑโฑ, อันเขาทิ้งเสียแล้ว
อะธิเสสสะติ, จักนอนทับ
ปะฐะวิง, ซึ่งแผ่นดิน
กะลิงคะรัง อิวะ, ประดุจดังว่าท่อนไม้และท่อนฟืน
นิรัตถัง. หาประโยชน์มิได้
สัพเพ สังขารา อะนิจจา, สังขารคือร่างกายจิตใจ และรูปธรรม
นามธรรม ทั้งหมดทั้งสิ้น มันไม่เที่ยง
เกิดขึ้นแล้วดับไป มีแล้วหายไป
สัพเพ สังขารา ทุกขา, สังขารคือร่างกายจิตใจ และรูปธรรม
นามธรรม ทั้งหมดทั้งสิ้น มันเป็นทุกข์
ทนยาก เพราะเกิดขึ้นแล้ว แก่ เจ็บตายไป.
สัพเพ ธัมมา อะนัตตา, สิ่งทั้งหลายทั้งปวง ทั้งที่เป็นสังขาร
แลมิใช่สังขาร ทั้งหมดทั้งสิ้น ไม่ใช่ตัว
ไม่ใช่ตน ไม่ควรถือว่าเรา ว่าของเรา
ว่าตัวว่าตนของเรา


