posttoday

ศรัญ ฌอน แอนนิ่ง มุ่งมั่นสู่ฝัน

04 พฤษภาคม 2557

หล่อ เซอร์ หัวยุ่ง ตาเยิ้ม ยิ้มง่าย ลูกครึ่งไทยออสเตรเลีย วัย 18 มาพร้อมเสียงร้องเท่ๆ

โดย...โจ เกียรติอาจิณ / ภาพ ภัทรชัย ปรีชาพานิช

หล่อ เซอร์ หัวยุ่ง ตาเยิ้ม ยิ้มง่าย ลูกครึ่งไทยออสเตรเลีย วัย 18 มาพร้อมเสียงร้องเท่ๆ ในฐานะศิลปินน้องใหม่ค่ายดั๊กบาร์ (เครือจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่) ที่กำลังไล่ล่าความฝันของตัวเองด้วยการส่งซิงเกิลแรกแนวป๊อปร็อก “มองแต่ไม่เห็น ฟังแต่ไม่ได้ยิน” ออกมาชิมลาง

ฟังเพลงไป ก็เคลิ้มไป ชวนให้สาวๆ ใจละลาย เรียกว่าไม่เสียยี่ห้อเด็กปั้นดาวรุ่งพุ่งแรง อะ!! จะอะไร ยังไง โปรดติดตามความเคลื่อนไหวของเขาทุกระยะได้ ณ ที่นี่แหละ ว่าแต่ตอนนี้ขอพักเรื่องเพลงไว้สักประเดี๋ยว ไปคุยเรื่องเรียนกันดีกว่า

ค่าที่จบโรงเรียนนานาชาติมา ศรัญจึงมุ่งมั่นที่จะสานต่อด้วยการสอบเข้าในระดับมหาวิทยาลัย หลักสูตรอินเตอร์ และเขาก็เลือกที่คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

“ตั้งใจเลยครับ เพราะอยากเรียนนิเทศอยู่แล้ว ส่วนตัวคิดว่านิเทศเป็นศาสตร์ที่น่าจะนำมาปรับใช้กับการทำงานในวงการได้ครับ”

หนึ่งปีผ่านไป ก้าวสู่ปีที่ 2 บรรยากาศการเรียนกำลังเข้มข้น แม้เรียนไม่หนัก แต่ก็เป็นช่วงค้นหาว่าตัวเองอยากจะพุ่งเป้าไปหาสิ่งใด สำหรับศรัญนั้น เขาสนใจงานเบื้องหลังเป็นพิเศษ ตอนปี 1 เขามีโอกาสร่วมกิจกรรมละครเวทีคณะ หน้าที่ทำหลายอย่างมาก นับเป็นประสบการณ์ที่ดี

“ก็แยกเป็นฝ่ายต่างๆ ครับ ตามความสมัครใจและความถนัดของแต่ละคน ผมก็จะเป็นประเภทฟรีแลนซ์ช่วยทุกฝ่าย (หัวเราะร่วน) ช่วยฉาก ช่วยยกไฟ เน้นเบื้องหลังครับ ถ้าเป็นเบื้องหน้า ต้องไปเวิร์กช็อป แต่ผมไม่ค่อยมีเวลาไป ก็เลยไม่ได้ไปสมัคร”

ตอนนี้กำลังเรียน ชมศิลปะครับ วิชานี้ก็ทำให้ผมรู้ว่าศิลปะแต่ละยุคเป็นยังไง น่าสนใจดีครับ แล้วก็มีวิชาสื่อสารมวลชน เรียนการเขียนบทความ การพูด ซึ่งวิชาการพูด ในห้องจะเรียนเป็นภาษาอังกฤษ พอมาเจอแฟนเพลงก็ต้องพูดภาษาไทย ก็มีการปรับนิดหน่อยครับ เพราะมันเป็นการพูดคนละแบบ”

ตารางเรียนแน่นเอี๊ยด แต่ก็ต้องเจียดเวลามาทำงานเพลง ศรัญให้ความสำคัญกับการเรียนเป็นอันดับแรก เรียนต้องมาก่อนเสมอ พอเรียนเสร็จค่อยทุ่มเต็มตัวกับการทำงาน เขาว่าเหนื่อย แต่สนุกและได้เรียนรู้วิชานอกห้องเรียน

“ได้เปรียบมั้ย นิดหน่อยครับ ได้เปรียบเพื่อนๆ ตรงภาษา คือไม่ต้องไปเริ่มนับหนึ่ง แล้วที่ได้เปรียบอีกอย่างคือการที่ผมมีโอกาสได้ทำงานจริง ได้ลองทำในสิ่งใหม่ๆ อย่างตอนเรียนมัธยมก็จะเรียนตามสเต็ป เรียนไปเรื่อยๆ พอเข้ามหาวิทยาลัย การเรียนก็จะมีเป้าหมาย เรียนเจาะในแต่ละวิชามากขึ้น ไม่ต้องเรียนกว้างๆ ผมว่ามันก็ดีนะ ทำให้เรารู้ลึกในเรื่องนั้นๆ การเรียนมหาวิทยาลัย ใครจะตั้งใจเรียน หรือไม่ตั้งใจเรียน ก็ไม่มีใครว่า มันขึ้นอยู่กับตัวคุณเอง ขอแค่สอบให้ผ่านก็พอ ซึ่งมันเหมือนเป็นการฝึกตัวเอง ฝึกใจ ฝึกทุกอย่างว่าคุณจะสามารถผ่านไปได้หรือเปล่า”

ศรัญเรียนเก่งมั้ย?

“ก็โอเคครับ (ยิ้มกรุ้มกริ่ม) ตอน ม.ปลาย เกรดเฉลี่ยผมอยู่ที่ 3.7 (ยิ้มกว้างจนตาหยี) พอมามหาวิทยาลัยก็หล่นมาเยอะครับ ได้แค่ 3.1 คุณพ่อคุณแม่ก็ไม่ว่าอะไร เพราะท่านเข้าใจว่าผมทำงานไปด้วย เรียนไปด้วย ส่วนตัวผมก็พอใจนะครับกับเกรดที่ได้ เพราะผมรู้ว่าปี 1 ผมไม่ค่อยตั้งใจเท่าไหร่ ปีนี้และปีต่อๆ ไป ผมก็จะพยายามกลับมาใกล้เคียงสมัยมัธยมให้ได้ครับ”

มุ่งมั่นและตั้งใจ คงไม่มีอะไรยากเกินความสามารถของศรัญแน่นอน

“เรียนนิเทศผมว่าการทำกิจกรรมสำคัญมากๆ นะครับ หลักสูตรก็แค่เป็นส่วนหนึ่งเท่านั้น แต่ความรู้อื่นๆ มันมาจากการทำกิจกรรม กิจกรรมจะทำให้เข้าถึงความเป็นนิเทศ ได้รู้จักเพื่อน รู้จักคน แล้วก็จะได้คอนแท็กจากกิจกรรมนี่ล่ะครับ”

ข่าวล่าสุด

LH Bank ออกผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพผู้ป่วยนอก “LHB OPD SAVER”